ตอนที่ 1
ทั้งที่อายุเพิ่งจะยี่สิบ แต่หมอวินิจฉัยว่าเธอตายด้าน!กัญชลิกา เลยต้องจ้าง อาร์เธอ นักเต้นหนุ่มกล้ามล่ำและร้อนแรงที่สุดบนเวที ให้มาช่วยสอนกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรัก และพิสูจน์ว่าเธอก็ ร้อน ไม่น้อยหน้าผู้หญิงคนไหน ๆ ในโลกเช่นกัน
ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทผ้าไหมสีเงินนั่งจ้องมองดอกกุหลาบสีแดงที่กำลังสยายกลีบเบ่งบานอยู่ในแจกันแก้วบนโต๊ะภายในห้องรับแขกอันโอ่อ่าของบ้านพักริมทะเล ณ มุมหนึ่งอันเงียบสงบของชายหาดมาลิบู
ท่าทีของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่วัยยี่สิบห้าเจ้าของนัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตและโครงหน้าหล่อเหลาด้วยโหนกแก้มสูงและสันกรามแกร่งรับกับจมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหยักได้รูปยังคงสงบนิ่งและเยือกเย็น
อาร์เธอ แมนสัน กำลังนิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเวทีคอนเสิร์ตซึ่งเขาเป็นหนึ่งในแดนเซอร์หล่อล่ำเต้นโชว์เรียกเสียงกรี๊ดทั้งจากสาวแท้และสามเทียมในงานปาร์ตี้ริมชายหาดที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ไปหาความสุขสำราญ
มันไม่ใช่เวทีคอนเสิร์ตใหญ่แต่จริง ๆ แล้วอาร์เธอมีอาชีพเต้นโชว์แบบเซ็กซี่ตามคลับบาร์ซึ่งมันไม่ได้ได้รวมไปถึงการมีอะไรกับสาว ๆ หรือพวกแม่หม้ายที่ตามกรี๊ดและพยายามเสนอตัวให้เขาหลายครั้ง
เขาก็แค่สร้างความสุขให้ผู้หญิงเหล่านั้นด้วยรูปลักษณ์ของผู้ชายที่มีเรือนกายกำยำและใบหน้าหล่อเหลายิ่งกว่าเทพบุตรมาจุติ หนุ่มอเมริกันแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์พบมาทุกสถานการณ์ที่เขาไปเต้นโชว์ แต่นี่เป็นสถานการณ์พิเศษที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะตกปากรับคำ
เมื่อเขาได้พบกับ กัญชลิกา ไวซ์ สาวไทยร่างเล็กบอบบางเจ้าของเรือนผมยาวสีดำขลับรับกับใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งเล็กและริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้ม เธอดูน่ารักมากกว่าเซ็กซี่
หญิงสาวบอกว่าเธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชาวไทยและมีกิจการส่งออกสินค้าแฮนด์เมดซึ่งเป็นที่รู้จักดีในแวดวงสังคมนักธุรกิจ ตัวเธอเองกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังทางด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์
กัญชลิกาบอกว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เธอออกมาท่องราตรีและมาร่วมกับเพื่อน ๆ ที่สนุกสุดเหวี่ยงในงานปาร์ตี้แต่เธอไม่ได้แตะเหล้าเบียร์อย่างที่เพื่อนสาวชาวต่างชาติกินดื่มกันหน้าเวทีและส่งเสียงกรี๊ดกันอย่างสนุกสนานตอนที่ทีมแดนเซอร์หนุ่มหล่อกล้ามบึ้กออกไปเต้นยั่วยวนสาว ๆ ในบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว
อะไรก็ไม่ดึงดูดเขาได้มากเท่ากับท่าทีประหม่าของเธอตอนมาขอพบเขาหลังเวทีท่ามกลางสายตาของเพื่อนแดนเซอร์กล้ามล่ำด้วยกันที่มองเป็นเรื่องปกติ พวกเขาคิดว่าอาร์เธอได้เจอเนื้อชิ้นใหญ่ที่เจ้าของเอามาประเคนให้ถึงที่ ซึ่งเปล่าเลย
“ไฮ...คุณมานานแล้วหรือคะ?”
เสียงหวานที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์คิดและละสายตาจากดอกกุหลาบในแจกันไปยังหญิงสาวร่างเล็กบอบบางซึ่งตอนนี้เธออยู่ในเสื้อสายเดี่ยวและกระโปรงยาวกรอมเท้า อาร์เธอหันไปมองท้องฟ้ายามราตรีริมชายหาดผ่านบานกระจกใสเบื้องนอกก่อนหันกลับมายังหญิงสาว
“ไม่นานเท่าไหร่หรอกครับ...เอ้อ...”
“พีชชี่ค่ะ...เรียกฉันว่าพีชชี่ก็ได้”
กัญชลิการีบแนะนำชื่อเล่นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้นวมอีกตัวซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับชายหนุ่ม ท่าทางของเธอเหมือนยังประหม่า ผมยาวดำขลับที่ถูกปล่อยสยายขับความเปล่งปลั่งบนใบหน้าผุดผ่องภายใต้เมคอัพสีนู้ดของสาวไทยแสนสวยในวัยยี่สิบให้ยิ่งดูเจิดจรัส
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้
หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย
“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”
“ผมโอเคครับ พีชชี่”
อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา
“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”
“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”
กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จากอาการที่ตัวเธอเองก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงได้รู้สึกเฉย ๆ เวลาอยู่ใกล้ผู้ชาย มันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงที่ไม่อยากมีครอบครัว แต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองและเรียนรู้เรื่องรักจากใครสักคนที่ไว้ใจได้
แล้วเธอก็เห็นอาร์เธออยู่บนเวทีคอนเสิร์ต หนุ่มอเมริกันใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มที่ความดึงดูดใจนั้นสะกดสายตาของเธอตั้งแต่แรกพบ หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อได้เห็นเขา เธอปฏิเสธตัวเองว่านั่นไม่ใช่รักแรกพบ แต่เขาอาจเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกที่จะทำให้เธอเข้าใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วปฏิกิริยาที่เธอมีต่อสัตว์โลกที่เรียกว่า ผู้ชาย นั้นเป็นอย่างไรกันแน่
เธอเข้าไปหาเขา ขอพบเขาหลังเวทีคอนเสิร์ตเพื่อยื่นข้อเสนอที่เธอต้องการเรียนรู้และพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการให้เขามาช่วยสอนบทเรียนรักและวิธีการที่จะทำให้ผู้ชายหลง
เขามองเธอด้วยความงงงวยเหมือนไก่ตาแตก แต่พอเธออธิบายเหตุผลให้เขาฟังอาร์เธอกลับไม่ได้มองว่าเธอกำลังทำเรื่องตลกในสายตาของเขา เขารับปากและเธอสัญญาว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจเธอจะจ่ายค่าตอบแทนให้เขาก้อนหนึ่ง
“ผมเข้าใจพีชชี่”
อาร์เธอกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“แต่ก่อนจะเข้าสู่บทเรียนผมอยากให้คุณลองพิจารณาตัวเองเสียใหม่”
“คะ?”
“ผมหมายถึง...ถ้าคุณอยากเรียนรู้เรื่อง...เอิ่ม...รัก มันต้องเริ่มจาก...การแต่งตัว”