2

1187 คำ
2 “พี่พูดกับโชคแล้ว แต่โชคเขาบอกว่ามีปัญญาเลี้ยงดูพี่และลูกที่จะเกิดมาในอนาคต พี่ก็เลยไม่พูดกับเขาอีกเลย” พี่สาวของเธอก็เป็นซะอย่างนี้ พูดน้อย ใครหงุดหงิดเข้าใส่หรือว่าตวาดเสียงดังก็เป็นใบ้ทันที แถมหัวอ่อนอีกต่างหาก และที่สำคัญรักโชคชัยมาก “เอาเถอะในเมื่อพี่โชคเขามั่นใจอย่างนั้น มนก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่พี่แน่ใจนะว่าจะแต่งงานกับพี่โชคจริงๆ” มายามองหน้าน้องสาวนิ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมมนตราจึงถามคำถามนี้ “มนคิดว่าพี่คิดผิดเหรอ” “เปล่าหรอก ...มนถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นเอง” เธอบอกปัด ในใจลึกๆ ของมนตรานั้นมีความรู้สึกว่าพี่สาวคนสวยของเธอ จะไม่ได้แต่งงานกับโชคชัย แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้นเธอไม่อาจรู้ได้ “แน่ใจสิ โชคเขาบอกว่าพี่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารักและจะแต่งงานด้วย” มายาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น มนก็ไม่มีอะไรจะพูด พี่ยาไปจัดเสื้อผ้าเถอะมนจะนอนแล้ว จะต้องนอนทำใจเสียหน่อย พรุ่งนี้ต้องไปเจอหน้าซูเปอร์สตาร์ชื่อดังที่นิสัยเสียที่สุดในโลก ไม่รู้พี่ยาทนได้ไง” “คุณมาร์ชเขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่มนเข้าใจหรอก ถ้ามนได้อยู่ใกล้เขาจะหลงรักเขาพี่รับรอง” “แหม!...ออกรับแทนกันเหลือเกินนะ ถ้าคุณมาร์ชดีจริง วิเศษจริงทำไมพี่ยาไม่หลงรักซูเปอร์สตาร์หน้าปีศาจซะเลยล่ะ” นี่แหละคือฉายาของวิศรุต ที่น้องสาวของเธอตั้งให้ “เผอิญพี่มีโชคแล้วไง...แต่มนไม่มีใคร” พี่สาวเย้า “ยี้...ไม่เอาหรอก ต่อให้เป็นผู้ชายคนสุดท้ายในโลก มนก็ไม่เอามาทำสามีหรอก หาดีไม่ได้เลยสักอย่าง ใครได้ไปเป็นสามีมีหวังซวยไปตลอดชาติ” “อย่าไปพูดอย่างนี้ต่อหน้าแฟนคลับของคุณมาร์ชเขานะ ไม่งั้นมนต้องแบนเหมือนกล้วยปิ้งอยู่ที่พื้นแน่นอนพี่รับรอง” มายารู้ดีว่าแฟนคลับแต่ละคนของวิศรุตนั้น ชื่นชอบคลั่งไคล้เขามากแค่ไหน ถ้าได้ยินคำพูดนี้ใกล้ๆ มีหวังน้องสาวของเธอจมอยู่กับพื้นดินแน่ “โธ่พี่ยา ใครจะโง่พูดต่อหน้าแฟนคลับของเขาล่ะ ก็พูดกับพี่ยาคนเดียวนี่แหละ ไปนอนดีกว่า” มนตราเดินไปที่ห้องนอนของตนทันที มายาส่ายศีรษะกับกิริยาของน้องสาว มายาเองคิดหนักเหมือนกันที่ไหว้วานให้น้องสาวไปทำงานแทนเธอ ไม่รู้ว่างานนี้ใครจะแพ้น็อคใครก่อน วิศรุต เกษมโสภณ ลูกชายคนเดียวของนายพลวิมุตกับคุณหญิงศจี เดินลงมาจากชั้นบนของตัวบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด เนื่องจากสาวใช้นามว่ากรอง ไปปลุกเขาก่อนเวลาอันควร ทั้งๆ ที่วันนี้เขามีงานตอนเย็น เวลานี้เขาต้องการพักผ่อนให้มากที่สุด แต่ต้องถูกขัดขวางความสุขในการหลับนอน จะไม่ทำให้เขาอารมณ์เสียได้อย่างไร “พ่อรูปหล่อของแม่ทำไมหน้าบึ้งอย่างนั้นล่ะลูก” ศจีเอ่ยถามบุตรชายทันทีที่เห็นสีหน้าของผู้เป็นลูก “ผมกำลังนอนสบายๆ คุณแม่ให้กรองไปปลุกผมทำไมครับ...รู้อย่างนี้ผมนอนที่คอนโดดีกว่า” วิศรุตบ่นเสียงดัง กระแทกตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่อย่างแรง “นี่มันเที่ยงแล้วนะมาร์ช...แกจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไง” วิมุตได้ยินคำพูดของลูกชายขณะที่เขากำลังเดินเข้ามาในห้อง จึงตำหนิลูกชายด้วยความไม่ชอบใจ “โธ่คุณพี่คะ...นานๆ ทีลูกจะได้นอนอิ่มๆ ช่างลูกเถอะนะคะ” นางพูดกับสามีก่อนจะหันไปหน้าไปพูดกับลูกชาย “ที่แม่ให้กรองไปเรียกเพราะจะมีคนมาทานข้าวกับเราตอนเที่ยง ลูกทานข้าวเสร็จแล้วค่อยไปนอนต่อนะลูกนะ” “คุณให้ท้ายแต่ลูกเลยนิสัยเสียไปกันใหญ่ อายุปาเข้าไปจะสามสิบแล้ว ยังเอาแต่ใจทำนิสัยเหมือนเด็กๆ ไปได้ ไม่รู้ว่าพวกแฟนคลับติดแจได้ไง” วิมุตตั้งใจบ่นให้สองแม่ลูกฟัง วิศรุตถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนอื่น อยากพูดอะไรก็พูด ดีหน่อยที่ไม่ปากเสียผ่านสื่อไม่เช่นนั้นไม่โด่งดังคับฟ้าเหมือนในขณะนี้ “ก็ลูกชายของคุณพ่อหล่ออย่างไงครับ ผู้หญิงถึงติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ปากหวานด้วย แถมร้องเพลงก็เพราะ ถ่ายแบบก็เก๋หล่อกว่าใครๆ เล่นละครก็ไม่แข็งเป็นท่อนไม้ หาลูกเพอร์เฟคทุกอย่างแบบผมเนี่ยหาไม่ได้แล้วนะครับ” วิศรุตเยินยอตัวเองเต็มที่ “อย่างอื่นฉันไม่เถียง แต่เรื่องนิสัยของแกนี่สิเถียงเต็มที่ ไอ้ที่ว่าปากหวานนะต่อหน้าคนอื่น ไม่มีใครรู้หรอกว่าแกปากหมามากแค่ไหน เอาแต่ใจตัวเองก็ที่หนึ่ง ขี้รำคาญก็ที่สอง และอื่นๆ อีกมากมายที่ฉันแทบจะพูดไม่ไหว ใครได้แกไปเป็นผัวคงปวดหัวตลอดชาติ” “แหม!!...คุณพ่อพูดเกินไป ผมน่ะขวัญใจสาวๆ นะครับ รับรองได้เลยว่าคนที่มาเป็นคู่ชีวิตของผมไม่มีวันปวดหัวแน่นอนครับ ตรงกันข้ามเธอคนนั้นจะต้องมีความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ที่มีสามีทั้งหล่อ เท่ และรวยอีกต่างหาก หายากนะครับสมบูรณ์แบบอย่างผมเนี่ย” ชายหนุ่มเถียงบิดาเสียงนุ่ม แต่ว่าเรื่องภรรยาในอนาคตของเขาคงจะเป็นเรื่องที่อีกไกล ไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้แน่นอน “พอแล้วค่ะ นานๆ ที่จะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำไมต้องเถียงกันด้วยคะ คุณพี่กับมาร์ชไม่สงสารศจีบ้างหรือคะ เดือนหนึ่งถึงจะมีโอกาสแบบนี้สักครั้ง ทำไมไม่ทำให้ครอบครัวเรามีความสุขล่ะคะ” วิมุตกับวิศรุตมองดวงหน้าของศจีที่เริ่มเศร้า และมีหยาดน้ำตาไหลเอ่อที่ขอบตา ทำให้คนที่มองมารู้สึกเจ็บหนึบที่เป็นสาเหตุให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ จริงอย่างที่ศจีพูดนานๆ ครั้งครอบครัวของเขาจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เนื่องจากสถานที่พักผ่อนของผู้เป็นลูกคือคอนโดราคาแพงลิบลิ่วย่านใจกลางเมือง มากกว่าที่บ้านหลังนี้ “ผมขอโทษนะคุณศจี เอาเป็นว่าผมจะไม่พูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามพ่อซูเปอร์สตาร์ต่อหน้าคุณก็แล้วกัน” ผู้เป็นสามีโอบบ่าของภรรยาอย่างเอาใจ อยู่กินกันมาร่วมสามสิบห้าปี ศจีไม่เคยเสียน้ำตาเลยสักครั้ง วันนี้เป็นวันแรกที่เขาทำให้เธอร้องไห้ รู้อยู่เต็มอกว่าภรรยาคู่ชีวิตอยากให้ลูกชายกลับมานอนที่บ้าน มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนดั่งวันวาน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม