สิ้นเสียงชวนใจหวั่น ใบหน้าคมคร้ามก็โน้มต่ำลงมาโฉบริมฝีปากลงมาครอบครองปากเล็กที่อ้าเผยอน้อยๆอย่างเชิญชวนนั้นอย่างคุกคามทันที เขาจวบจ้วง เอาแต่ใจ ไม่แครเลยว่าใครจะเดินผ่านมาเห็น
ไม่ว่าร่างเล็กจะดิ้นรนผลักไส แต่คีรินทร์ก็ไม่สนใจ เขายังคงจูบเธออย่างฮึกเหิม หวังให้หญิงสาวสยบหมอบราบคาบแก้วให้กับเขาในที่สุด
กระทั่งร่างเพรียวบางในวงแขนเริ่มนิ่ง ยอมให้เขาสอดลิ้นเข้าในโพรงปากของเธอแต่โดยดี คนตัวโตที่มีกำลังเหนือกว่าจึงได้ออมแรงให้ ยอมคลายมือที่จับข้อแขนเธอเอาไว้แน่นทีละน้อย แล้วค่อยๆละเลียดจูบปากเธอ สอดเรียวลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหวานในโพรงปากของเธออย่างพึงใจ
“โอ๊ย!”
เผียะ!!
เธอกัดลิ้นร้ายกาจของเขายังไม่พอ เธอยังตบหน้าเขาสุดแรงเกิดจนปากเขามีเลือดออกซิบๆอีก
คีรินทร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อทุกคนพากันวิ่งกรูเข้ามาดู
“มันเกิดอะไรขึ้น นี่คีทำอะไรน้องหรือเปล่าลูก” คุณหญิงปานดวงใจรีบปรี่เข้ามาถามลูกชาย แต่พอเห็นเลือดที่มุมปากของลูกชายตัวดีแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“จี ตบหน้าพี่เขาทำไมลูก” คุณนายราตรีถามลูกสาวร้อนรน แต่ก็นึกโกรธว่าที่ลูกเขยในใจนิดๆ ที่คงจะทำมิดีมิร้ายกับลูกสาวแสนสวยของเธอแน่ ไม่อย่างนั้นรุจิกานต์คงไม่ลงไม้ลงมือตบหน้าคีรินทร์รุนแรงแบบนี้หรอก
สองหนุ่มสาวต่างคนต่างมองหน้ากันราวกับโกรธกันมาสักสิบชาติโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เอาแต่จ้องตากันไม่กะพริบด้วยคิดว่าตนเองถูก ส่วนอีกฝ่ายก็ทำเกินไป รุจิกานต์โกรธจนควันออกหู ส่วนคีรินทร์ก็เจ็บใจจนนึกอาฆาตหญิงสาว
‘คอยดูนะ พ่อจะจับทำเมียในสามวันเจ็ดวันให้ได้เลย คอยดู!’
‘ริบังอาจมาปล้นจูบแรกของเธอไป ทั้งที่เธออยากจะมอบจูบแรกให้ชายที่เธอรักเป็นอันย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี เธอจะขอโกรธเขาสักสิบปีไม่คืนดีสิบชาติเลย’
“พ่อรู้น่า คีล่วงเกินหนูจีเขา ทางเหนือเขาเรียกว่าผิดผี ดังนั้นพ่อจึงคิดว่า คีต้องแต่งงานกับหนูจีให้เร็วที่สุด”
“ห๊ะ!” คีรินทร์อุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อคิดว่าอิสระภาพของเขากำลังจะถูกทำลายลงในไม่ช้านี้แล้ว
“แต่งงาน!” หญิงสาวอุทานออกมาเสียงเบาหวิว
...รุจิกานต์เองก็แทบช็อกกับการประกาศให้เธอแต่งงานกับผู้ชายแสนเลวพรรค์นี้แบบสายฟ้าแลบ...
...ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มเหี้ยมเกรียม รอวันสะสาง...
ไม่แต่ง ยังไงเธอก็ไม่แต่งกับอิตาคีรินทร์นั่นเด็ดขาด วันนี้แผนการของเธอพังย่อยยับหมด ก็เพราะความหื่นของอิตาบ้ากามนั่น ที่บังอาจมาจูบเธออย่างไม่ให้เกียรติ
“อี๋” คนถูกจูบถ่มน้ำลายลงซิ้งก์อย่างรังเกียจ
นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งนะ อิตานั่นยังแสดงกิริยาต่ำทรามได้ขนาดนี้ เขาทำกับเธอราวกับเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าได้อย่างไม่เกรงอกเกรงใจพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเขาเลย แล้วถ้าแต่งงานกันไปจะขนาดไหน
“ผู้ชายน่าเกลียด”
คงคิดว่าตนเองเสน่ห์แรงละสิ ถึงได้คิดหว่านเสน่ห์ไปทั่ว แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงอย่างเธอหรอก
รุจิกานต์ เดินงุ่นง่านไปมาในห้องน้ำ กำลังคิดหาทางเลื่อนงานแต่งออกไปให้ได้ด้วยสมองน้อยๆของเธอในตอนนี้
‘คิดสิคิด ทำยังไงพ่อกับแม่ของเธอถึงจะยอมเลื่อนงานแต่งงานออกไปเหมือนเดิม แล้วเธอค่อยหาทางยกเลิกงานแต่งทีหลัง’
ทว่าอีกฝ่ายที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้องรับแขก กลับนั่งแชทคุยไลน์กับเพื่อนอย่างสบายอกสบายใจ
ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็กำลังปรึกษาหารือกันเรื่องงานหมั้นหมายของลูกชายกับลูกสาวของตนเองกันอย่างสนุกสนาน
“นี่ตรี ฉันว่าจัดการหมั้นหมายของลูกๆของพวกเรา พรุ่งนี้เช้าเลยนะ”
“ดีเหมือนกันนะปาน หมั้นหมายเสร็จพวกเราก็ไปเที่ยวพักผ่อนพร้อมหน้าพร้อมตากันสักวัน แต่คงไปได้แค่พรุ่งนี้ถึงวันมะรืนตอนช่วงกลางวันเท่านั้น ตอนเย็นคุณคเชนทร์เขาจะเดินทางไปมิวนิคแล้ว”
“เหรอจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้พวกเราต้องเตรียมการให้พร้อมเลยนะ”