3
ลูกค้าคนแรก
เจ้าของสถานบันเทิงด้านโลกีย์แห่งนี้กำลังนั่งหน้ามุ่ยด้วยอาการเซ็งแบบสุดๆ เมื่อลูกค้าขาประจำใจป้ำเงินถึง ดันไม่พึงพอใจกับสินค้าที่ตนมีอยู่ในสังกัด
“เพล้ง!” เสียงแก้วกระทบพื้นแตกกระจายไปทั่ว ทำให้บรรดาลูกน้องของเฮียเส็งมองตามด้วยความสงสัยว่าเจ้านายของตัวเองไปโมโหใครมา นายสนธยาที่ถูกเรียกตัวมาก็ยืนงงไม่ต่างไปจากคนอื่น
“เป็นอะไรไปครับเฮีย” นายสนธยาถามก่อนจะหันไปพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้คนอื่นออกไปให้หมดก่อน
“ก็คุณกรณ์น่ะสิ เขาไม่พอใจยัยแนนเขาจะเอาคนใหม่” เจ้าของผับร่างท้วมยกมือขึ้นกุมขมับอย่างหนักใจ ปรายตามองหญิงสาวที่ลูกค้าเกิดไม่ต้องการขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
“แนนต้องขอโทษเฮียด้วยนะคะ ที่ไม่มีความสามารถพอ” หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างเฮียเส็งรีบยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ
“ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก ไป๊! ออกไปทำงานได้แล้ว” ถึงปากจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่น้ำเสียงที่ห้วนกระด้าง ก็ทำให้อีกฝ่ายตื่นกลัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“ค่ะเฮีย ไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” เมื่อสบโอกาสก็รีบออกจากห้องไป เพราะขืนอยู่ต่ออาจถูกต่อว่าก็เป็นได้
“ก็ไม่เห็นยากนี่ครับเฮีย ส่งคนอื่นไปแทนก็ได้ ผมเห็นมีเหลือตั้งหลายคนนะเฮีย” คนเป็นลูกน้องรีบเสนอความเห็น
“เออ ไอ้ที่มึงพูดมาน่ะกูทำไปหมดแล้ว น้องทราย น้องน้ำฝน ยัยกุ้ง หรือแม้แต่ยัยลิลลี่ คุณกรณ์เขาฟาดมาหมดแล้ว หลายรอบอีกต่างหาก” เฮียเส็งตะโกนใส่หน้าลูกน้องอย่างมีน้ำโห
“หรือครับเฮีย” นายสนธยาทำหน้าเจื่อน เพราะว่าพูดไปแล้วก็เหมือนขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะเป็นเขานั่นเองที่ไม่สามารถหาสาวๆ มาทันบริการลูกค้ากิตติมศักดิ์คนนี้ได้
“เพราะมึงคนเดียวไอ้สน กูสั่งนักสั่งหนาว่าให้หามาให้ทัน นี่มันกี่เดือนแล้ว กูไม่เห็นหัวสาวๆ คนใหม่ของมึงเลย” ‘นึกแล้วไม่มีผิด’ นายสนธยาได้แต่คิดอยู่ในใจ
“ผมขอโทษครับเฮีย ช่วงนี้หาไม่ได้จริงๆ ไอ้ที่ได้มาก็หน้าตาไม่ได้เรื่องเลย มีแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเฮียเสียหาย ว่าแต่อย่างนี้แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะเฮีย” นายสนธยารีบหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ตัวเองพ้นผิด แต่ฟังดูยังไงมันก็คล้ายกับเป็นการแก้ตัวอยู่ดีนั่นเอง
“มึงไม่มีเด็กใหม่จริงๆ เหรอวะไอ้สน” เฮียเส็งเอ่ยออกมาอย่างขัดใจเผื่อว่าลูกน้องของตนแอบซุกซ่อนเอาไว้ใช้ส่วนตัว
“ไม่มีจริงๆ ครับเฮีย ผมไม่กล้าซ่อนใครลับหลังเฮียหรอกครับ” นายสนธยารีบบอก
“แล้วคุณกรณ์เค้าไม่ยอมเลยหรือครับเฮีย แต่ไหนแต่ไรไม่ค่อยเห็นมีปัญหาเลยนี่ครับ”
“เออสิวะ คราวนี้ดูเหมือนทางโน้นเขาจะไม่พอใจเอามากๆ เลย ไม่งั้นกูไม่มานั่งกลุ้มอยู่นี่หรอก เมื่อกี้ก็ลงมาคุยกับกูด้วยตัวเองเลย ปกติเห็นลงมาจากรถเสียที่ไหนกัน กูเห็นแต่ให้คนขับรถมารับตัวสาวๆ ไป แต่นี่แม่งเอ๊ย! หน้างี้บอกบุญไม่รับเลยมึง สงสัยเข็ดจากคราวโน้นที่คนของมึงไปก่อเรื่องหนีกลับก่อนแน่เลย นี่เรียกร้องจะเอาหน้าใหม่ท่าเดียว” เฮียเส็งร่ายยาวเพราะลูกค้าคนนี้ไม่ยอมท่าเดียวหากไม่ได้คนใหม่
“เฮียครับผมนึกออกแล้ว” สีหน้านึกอะไรบางอย่างออกของนายสนธยาทำให้เฮียเส็งต้องรีบหันมามองอย่างสงสัย
“อะไรของมึงวะ นึกอะไรออกไอ้สน”
“ก็ลูกสาวของนายศักดิ์ชัยยังไงครับเพิ่งมาวันนี้วันแรก ใหม่ของจริงเลยนะเฮีย” มันเพิ่งนึกออกว่าเดินสวนกับนางฟ้ามาหยกๆ
“ไอ้ห่า คนนี้กูจองแล้ว มึงก็รู้” เฮียเส็งรู้สึกเหมือนจะของขึ้นอีกครั้งกับความเห็นของลูกน้องของตัวเอง
“โธ่เฮีย คนนี้น่ะเอาวันไหนก็ได้ แต่คุณกรณ์นี่สิไม่มีให้เขา เกิดเขาไปใช้บริการที่อื่นแทนเฮียไม่เสียดายเหรอครับ กระเป๋าหนักแถมใช้บริการออกบ่อยผมว่าไม่คุ้มกันน่าเฮีย”
เหตุผลของคนเป็นลูกน้องทำให้เฮียเส็งต้องใช้สมองอันมีรอยหยักค่อนข้างมาก บวกลบคูณหารดูก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างคนสุดแสนจะเสียดายของใหม่
“เออๆ ตัดปัญหาไปเอานังลูกไอ้ศักดิ์ชัยนั่นแหละไปให้คุณกรณ์ก็แล้วกัน” น้ำเสียงบ่งบอกว่าเสียดายแบบสุดๆ
“ครับเฮีย”
“เสียของว่ะ” เฮียเส็งเอ่ยอย่างขัดใจตัวเอง ด้วยความที่รู้ว่าทุกคนที่ผ่านมือของลูกค้ารายนี้ เป็นต้องพกรอยฟกช้ำดำเขียวกลับมาทุกคน บางรายถึงกับต้องพักหยุดยาวก็มี แต่เพราะว่าเงินถึงจึงต้องยอมให้
ด้านใบหญ้านั่งรออยู่ในห้องทำงานของเจ้าของผับเกือบสิบนาที คนที่เปิดประตูเข้ามากลับเป็นเชอรี่กับนายสนธยาหาใช่เฮียเส็งอย่างที่คาดคิดเอาไว้ก่อนหน้า
“ไปค่ะไปหาลูกค้ากัน วันนี้คุณน้องขาได้ลูกค้ารายแรกแล้ว แต่ไม่ใช่เฮียเส็งหรอกนะ นับว่าเป็นโชคร้าย เอ๊ย ไม่ใช่โชคดีต่างหาก” เชอรี่รีบเอามือปิดปากของตัวเองไว้ ไม่อยากทำให้คนสวยต้องตกใจไป
“เหรอคะ” ใบหญ้าพูดออกมาคล้ายคนละเมอ
“ลูกค้าคนนี้นะพี่สนรับประกันความสะใจแบบสุดๆ ไปเลยละคนสวย” นายสนธยาคันปากยิบๆ อยากจะบอกออกไปตรงๆ ว่านรกรออยู่แล้วแม่นางฟ้าเอ๋ย แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมาอย่างที่ใจคิด
“พี่สน! ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ เดี๋ยวคุณน้องขาก็ตกใจแย่ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ที่ต้องทำก็แค่ต้องทำตัวว่านอนสอนง่าย เขาให้ทำอะไรก็ต้องทำ และที่สำคัญที่สุดต้องอดทนมากๆ เข้าใจไหมคะ” รุ่นพี่ประสบการณ์เจนจัดได้แค่แนะนำ
“ขอบคุณค่ะพี่เชอรี่” ใบหญ้าเอ่ยออกมาเหมือนคนรับรู้ ทั้งที่สมองและหัวใจของเธอสั่งไม่ให้เข้าใจอะไรทั้งนั้น
กฤษกรณ์นั่งจิบเบียร์ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง หลังจากขอคุยกับเจ้าของสถานที่แห่งนี้อยู่นานสองนาน คืนนี้ชายหนุ่มทั้งอารมณ์เสียทั้งโวยวายใส่การบริการที่แสนจะจำเจของที่นี่ ใช้บริการมาตั้งนาน สินค้าของที่นี่ไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นเลย เห็นเวียนหน้าคนเดิมๆ มาให้เขาอยู่เรื่อย จนในที่สุดก็รู้สึกว่าทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่มีที่มันดีกว่านี้เขาก็คงต้องขอลาขาดแล้วจริงๆ การยื่นคำขาดของเขาทำเอาเจ้าของผับหน้าเสียไปในทันที แต่มันก็ได้ผลเพราะสักพักผู้หญิงคนใหม่ถูกนำมาให้เขาดูตัว
หญิงสาวที่เดินตามหลังเฮียเส็งและนายสนธยาเข้ามาในห้อง ทำให้กฤษกรณ์รู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในหลุมอากาศโดยฉับพลัน ชายหนุ่มตกตะลึงในความงามของหญิงสาวจนยืนตัวแข็งทื่อไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
“ใหม่แกะกล่องเลยนะครับคุณกรณ์” เฮียเส็งรีบแนะนำสินค้าทันที จับหัวไหล่ของใบหญ้าหมุนไปทางซ้ายทีขวาที โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ราวกับเป็นหุ่นเชิดที่ใครนึกอยากจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ