“แล้วคุณคิดว่าฉันจะต้องมีชีวิตยังไงคะ เงินแค่นั้นมันจะทำอะไรได้”
ดวงตากลมโตเลื่อนสบเขาอย่างเจ็บช้ำ มันทำให้คนถามถึงกับนิ่งอึ้งไป ก่อนจะปัดมือเขาที่ทาบอยู่ที่สะโพก ริมฝีปากที่เม้มแน่นสะกดอารมณ์กลั้นเสียงครางไว้
“เลิกทำตัวเป็นเด็กเถอะค่ะคุณคิมหันต์ เราต่างคนต่างอยู่เถอะค่ะ”
“ต่างคนต่างอยู่เหรอ...งั้นเรามารำลึกความหลังกันหน่อยไหม”
น้ำเสียงปรามาสทำเอาชายหนุ่มโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาคว้าขวดเหล้ากรอกปากตัวเอง กลืนเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะบีบกระเปาะปากเล็กให้อ้าออก
ความร้อนวูบแรกไหลลงลำคอระหง หญิงสาวดิ้นเร่าพยายามจะผลักเขาออก หากแต่เรียวลิ้นที่แทรกเข้ามากลับตวัดดูดกลืนลิ้นเล็ก แล้วถ่ายเหล้าในริมฝีปากให้เธออย่างหน้าด้าน บังคับให้กลืนด้วยความร้อนแรง ค่อย ๆ ดันให้เธอกลืนมันลงไป
เรียวปากนุ่มถูกคิมหันต์ขบเม้มรุนแรง ไม่รู้ว่าเพราะอุณหภูมิรอบตัวหรือเพราะจูบร้อนแรงของคนเหนือร่างกันแน่ อคิราห์ถึงได้ตัวสั่นระริกอยู่ในอ้อมแขนเขา เสียงครางอึกอักเปลี่ยนเป็นริมฝีปากที่เผยอออก ปล่อยให้ลิ้นร้อนตะโบมจูบปลดปล่อยความคิดถึงและความแค้นลงบนริมฝีปากตนเองอย่างหมดแรง
เสี้ยวหนึ่งเธอกลับจูบตอบเขากลับไป
ชายหนุ่มเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ เขาหัวเราะเยาะในลำคอก่อนจะมองเธออย่างเหยียดหยาม
“หึ”
พลั่ก!!!
เธอใช้จังหวะที่เขากำลังเผลอสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะกระทุ้งเข่าเข้าที่แก่นกายที่กำลังผงาด เสียงพลั่กในตอนแรกกลายเป็นเสียงโผล๊ะในสมองคิมหันต์ ชายหนุ่มนิ่วหน้าก่อนจะกลิ้งหล่นจากโซฟา
“อั่ก!!!”
“เชิญรำลึกความหลังของคุณไปให้พอเลย! อึก”
“อายะ!!! กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ ยัยบ้าเอ๊ย!”
ร่างเล็กก้าวลงจากโซฟาก่อนจะวิ่งโซซัดโซเซออกไปจากห้องวีไอพี ดวงตาหวานกะพริบไล่น้ำตาก่อนจะก้มหน้าก้มตาวิ่งออกไป
“อึก! ให้ตายสิ”
อคิราห์ชะงักเท้าที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ เหมือนจะผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่เอาเหล้าในแก้วนั้นเข้าปาก อาการแปลก ๆ โจมตีเธอแทบจะล้มลงไปกับพื้น อาการร้อนผ่าวค่อน ๆ ขยายจากท้องวิ่งไปตามแขนขาและประสาทสัมผัสทั่วทั้งร่าง ลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
นึกถึงสิ่งที่จะคลายร้อนไม่กี่อย่าง เธอก็พุ่งตัวไปเปิดประตูหลังรถยนต์แล้วค้นหาน้ำขวดใหญ่ที่เบาะหลัง กรอกปากด้วยความร้อนรนจนเปียกไปทั่วตัว ทันทีที่หยดน้ำหยดลงบนตัวความร้อนวูบวาบก็หายไปชั่วครู่ นั่นยิ่งทำให้อคิราห์เผลอเอาน้ำลูบทั่วแขนขาสลับกับกรอกลงลำคอ
ความทรมานที่ประสาทสัมผัสทุกส่วนถูกเปิดออก ไม่ว่าจะแตะตรงไหนก็ถูกกระตุ้นอย่างง่ายดาย จนเผลอครางเสียงน่าเกลียดออกมา ทำเอาเธอสั่นระริกด้วยความกลัว
ต้องโดนวางยาแน่ ๆ
“อื้อ ฮึก...ไอ้นรกเอ๊ย!” ต่อไปเธอคงอวดเก่งไม่ได้แล้ว
“May I help you?”
เสียงทุ้มดังขึ้นเหนือหัว เรียกให้หญิงสาวผวาคว้าขาเขากอดไว้ไม่สงวนท่าที
“คุณช่วยฉันด้วย” อคิราห์ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอย อย่างน้อยมีใครที่สามารถพาเธอส่งโรงพยาบาลได้ก็ยังดี หญิงสาวลุกขึ้นพุ่งตัวไปหาเจ้าของเสียงหมายจะขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้ขอความเมตตานั้น เจ้าของประโยคก็ก้าวเข้ามาช้า ๆ น้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพราะความทรมานจากฤทธิ์ยาก็ชะงักโดยฉับพลัน
แค่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของเขา อคิราห์ก็นั่งลงที่พื้น ช้อนสายตากลมมองเขาแล้วครางชื่อนั้นอย่างหมดแรง
“คิมหันต์”
เธอหนีเขาไม่พ้น!
“ไง อยากเล่นวิ่งไล่จับทั้งที่เอาตัวเองไม่รอดเนี่ยนะ” เขาทักด้วยสีหน้านิ่งเฉยแต่ตัวเธอกลับสั่นจนเก็บอาการไม่อยู่ แค่ได้ยินเสียงร่างกายก็ถูกกระตุ้นจนชาไปทั้งร่าง หญิงสาวกำมือจิกลงไปอย่างสุดแรงเพื่อห้ามอารมณ์เตลิดของตัวเองอย่างหมดสภาพ
อย่าร้องออกมานะอคิราห์
“ช่วย...อึก...พาฉันไปโรงพยาบาลที”
“รู้ไหมว่าอะไรที่ฉันเกลียดที่สุดตั้งแต่รู้จักคนอย่างเธอ” คนตัวสูงพูดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยองด้านหน้าหญิงสาว แม้จะขยับหนีจนแผ่นหลังพิงกับรถแต่ก็ไม่อาจหนีพ้น ปลายนิ้วชี้แตะที่คางเธอเบา ๆ แต่กลับสั่นคลอนประสาทสัมผัสคนที่อยู่ในอาการเลือดวิ่งพล่านทั่วตัวจนถึงขีดสุด
“ไม่...รู้” อคิราห์ตอบกลับอย่างหมดหนทาง ส่ายหัวไปมาเหมือนคนไร้สติ “ขอโทษ”
เหงื่อบนใบหน้าผุดออกจากรูขุมขนไม่ขาดสาย แม้จะลูบมันออกมาเท่าไหร่เธอก็รับรู้ได้ว่ามันผุดออกมาไม่หยุด แม้จะฝืนกลั้นอารมณ์แต่เลือดที่ไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งในร่างกาย ทำให้ตัวอคิราห์ร้อนจนเลือดในกายแทบแตะจุดเดือด
ไม่ไหวแล้ว!
หายใจไม่ออก!!
ร้อน!!!
สายตาที่เคยมองเห็นพร่าไปด้วยน้ำตา มือน้อยไขว่คว้าคนตรงหน้าสะเปะสะปะ ก่อนจะโดนคิมหันต์ปัดออกอย่างแรง
“ช่วยฉัน...ที คุณคิมหันต์” เธอทรมานจริง ๆ นะ เขาควรจะเห็นใจเธอบ้าง
เธอไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
“หึ...”
“ฮึก...ได้โปรดฉันร้อนจะตายอยู่แล้ว” อคิราห์ตวาดเสียงดังก่อนจะยกขวดน้ำที่เหลือเพียงน้อยนิดราดใบหน้าตัวเองแม้จะช่วยได้เพียงชั่วคราวก็เถอะ
เธอร้อนราวกับโดนไฟที่มองไม่เห็นเผาจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว
“ฉันเกลียดพวกที่โง่แล้วอวดฉลาด!”
“ฮึก ช่วยฉันด้วย”
“คนอ่อนแอ แต่แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง!”
“หยุดพูดสักที! ฉันไม่อยากฟังแล้ว”
“คนที่อยากจะหนี แต่หนีไม่พ้นอย่างเธอไง ยัยโง่!”
ช่วยหยุดพูดแล้วช่วยฉันที...