สองเดือนต่อมา
ร่างของอันน์ถูกโยนลงบนพื้นห้องแข็งๆ ที่มีกลิ่นกุหลาบจางๆ ลอยอบอวล เขาจำอะไรแทบไม่ได้ ด้วยถูกปิดตาปิดปาก และยังถูกของแข็งฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรงจนสลบไร้สติ
เมื่อช่วงเย็น เขาสวมชุดแฟนซีเพื่อไปงานเลี้ยงวันฮัลโลวีนที่บ้านปกป้องลูกชายเพียงคนเดียวของเศรษฐีใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ส่งออก และเขาเล่นแผลงๆ เหมือนเดิม ด้วยการแต่งตัวเป็นพี่สาวคนสวยอลินาทั้งที่ถูกปกป้องห้ามกระนั้นเขาก็ดื้อ ดื้อจนอีกฝ่ายยอมตามใจ
อันน์แต่งหน้าใส่วิกผมสีชมพูแปร๋นเป็นสโนว์ไวต์ ผิวขาวอมชมพูกับใบหน้าซึ่งสวยเกินชายเมื่อเติมเครื่องสำอางแบบจัดเต็มจึงเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเพื่อนๆ จนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน แน่นอนการแย่งซีนอย่างนี้ทำให้บางคนไม่ชอบใจอันน์
และหลังจากถูกจับตัวโดยผู้ชายร่างสูงใหญ่ อันน์พยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ปากเขาถูกเทปพันเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างยังถูกมัดไพล่หลัง
ก่อนหน้านั้น เขาจำได้ว่าดื่มเบียร์ไปราวๆ สองขวด เขาออกมาเดินเล่นที่ข้างสระว่ายน้ำ อันน์คุยเกี้ยวสาวที่รู้จักกันเพียงประเดี๋ยว พอรู้สึกมึนศีรษะและอยากล้างหน้าจึงเดินไปที่ห้องน้ำ ก่อนมีปากเสียงเล็กๆ กับปกป้อง อีกฝ่ายพยายามสารภาพความในใจกับเขา แต่มันเป็นเรื่องที่อันน์กลัวและไม่กล้ายอมรับ
กระนั้นเขาก็เสียใจที่ปฏิเสธความรู้สึกดีๆ ของปกป้องด้วยการใช้กำลังอย่างคนขาดสติ แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่ออันน์ไม่เคยคิดเกินเลยกับอีกฝ่าย ถึงในใจลึกๆ เขารู้ว่าตนมีรสนิยมแบบไหน แต่ปกป้องยังไม่ใช่ผู้ชายที่เขาอยากอยู่เคียงข้าง
หนุ่มหน้าสวยปล่อยโฮในห้องน้ำด้วยความเครียด พอถูกเพื่อนที่เมาหัวทิ่มระดมเคาะประตูเขาจึงตัดสินใจออกมาหามุมสงบๆ ส่วนตัว อันน์หนีออกจากงานเลี้ยง
ขณะเดินไปยังรถก็บ่นตนเองที่เลือกจอดเสียไกล ตอนนั้นเขาหัวเราะขบขัน เพราะมีอาการเมาจนเดินเซปัดเป๋ ก่อนชนถังขยะใบใหญ่จนล้มก้นจ้ำเบ้า พอลุกยืนกางเกงผ้าแนบเนื้อที่สวมอยู่เปียกไปครึ่งตัวจึงหัวเสียนิดๆ
เมื่อกดรีโมตแสงไฟหน้ารถก็สว่างขึ้น เขาพยายามพาตนเองไปให้ถึงรถอย่างไว แต่ไม่ทันได้เอื้อมมือเปิดประตู เสียงใครบางคนก็ดังจากด้านหลัง!
สิ้นเสียงเรียก ศีรษะเขาก็สั่นสะเทือน โลกหมุนคว้างไปหมด เขายืนโงนเงนอยู่สักพักก่อนหมดแรงวูบลงนั่งบนพื้นถนนชื้นแฉะ
“ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณแต่มันเป็นทางเดียวที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน ปะ... คุณไปกับผมเถอะ เราจะมีชีวิตแสนสุข มีลูกเล็กๆ แสนน่ารัก”
อันน์ที่กำลังช็อก สมองเขาขาวโพลนไปหมด และพยายามยกมือบังแสงไฟที่สาดเข้ามาใส่หน้าเขา แสงไฟนั้นมาจากไฟฉายในมือของอีกฝ่าย
“ถะ ถอยไป ไปให้ไกลๆ” เสียงเขาแหบพร่า และอาการปวดที่ท้ายทอยแล่นริ้วอย่างหนักหน่วง
เมื่อร้องออกไปแล้ว คนที่ยืนอยู่ก็ทำท่าจะเข้ามาอุ้มเขา อันน์เลยกระเสือกกระสนหนี
“ไม่นึกว่าจะเจอคุณที่นี่ หนีผมทำไมครับ... ผมบอกแล้วยังไงก็ตามคุณเจอ” อีกฝ่ายพูดและยื่นมือมาจับที่แขนอันน์พยายามฉุดให้ลุกขึ้นยืน
“โอ๊ย... ทำอย่างนี้ทำไม”
อีกฝ่ายคล้ายกำลังตกตะลึง และปล่อยแขนอันน์ในทันที
“มะ ไม่เป็นไปไม่ได้ กะ แก เป็นใครกันแน่” ยามนั้นอันน์ทั้งฉงน ทั้งปวดหนึบไปทั้งศีรษะ กระนั้นยังฝืนถามอีกครั้ง “คุณต้องการอะไร ทำไมยังตามผมไม่เลิก แล้วยังทำร้ายผมอีก”
ชายคนนั้นเหมือนเพิ่งดึงสติตนเองคืน ดูหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นไปหมด และหลุดคำพูดที่ทำให้อันน์ประหลาดใจหนักเข้าไปอีก
“แกไม่ใช่อลินา!” สิ้นเสียงนั้น ไม้ในมืออีกฝ่ายก็ตีเข้าใส่ร่างอันน์ ราวกับต้องการให้เขาสิ้นลมหายใจไปจากโลกนี้
ชายหนุ่มรู้ตัวอีกทีก็ถูกใครคนหนึ่งอุ้มพาดบ่า หูได้ยินเสียงเข้มๆ ต่อว่า
“เตือนแล้วไงว่าอย่าแต่งตัวแรดๆ ยั่วคนอื่น”
อันน์ตัวแข็งทื่อ ถึงจะเมาและหัวสมองมึนงง แต่เขาจำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่านั้นได้
อันน์พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกัน และจำได้ว่าเขาถูกตามสะกดรอย ความรู้สึกดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงประเดี๋ยว เมื่อไปปรึกษาเพื่อนๆ ทุกคนต่างบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่เดือนคณะฯ สุดน่ารักและเร้าใจอย่างเขาจะมีคนแอบหลงรัก
คำพูดของเพื่อนหลายคนทำให้อันน์คล้อยตาม เขามักได้ดอกไม้และของขวัญอย่างไม่ทราบที่มาที่ไปบ่อยๆ แถมมีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามือถือ รวมถึงเฟซบุ๊กมีข้อความส่งมาขอเป็นแฟนกับขอเดตแทบทุกวัน ซึ่งทั้งหมดนี้มันเริ่มจากเขาได้พบผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่ผับแห่งหนึ่ง
นอกจากนั้นยังมีข้อความคุกคามถูกส่งเข้าทางกล่องข้อความออนไลน์
‘รักคุณเข้าแล้ว ทำอย่างไรถึงจะได้อยู่ด้วยกัน’
เมื่อได้อ่าน อันน์ต้องรีบกดลบ แต่ฝ่ายนั้นดูเหมือนไม่ยอมหยุดง่ายๆ
‘ผมอยากให้คุณใช้ปากกับน้องชายผม จากนั้นก็นอนบนเตียงรอให้ผมกดคุณจนกระสุนหมดแม็ก’
อันน์ประสาทเสีย คิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นพวกสตอล์กเกอร์ สุดท้ายจึงปิดการสื่อสารทุกชนิดและเก็บตัวอยู่เงียบๆ ไม่ได้ออกไปเล่นสนุกแต่งตัวเป็นอลินาอย่างที่ชอบทำ
“เธอจะปอดแหกไปทำไม ถ้ากลัวพวกโรคจิต เราต้องทำให้จิตกว่าสิ” อลินาบอก พร้อมจับใบหน้าสวยหวานของน้องชายหันซ้ายหันขวา “นี่ถ้าเป็นลินนะ คืนนี้ลินจะแต่งตัวเป็นแดร๊กซ์ควีนให้โลกจำไปเลย” หล่อนเสริมต่อ
“เดี๋ยวถ้าเราแต่งขึ้นมา พี่นั่นแหละจะกรี๊ดบ้านแตก และพ่อกับแม่จะทำยังไง ลูกชายคนเดียวของตระกูลนรารังสรรค์เชียวนะ”
อันน์ห่วงความรู้สึกบุพการี แต่เขาชอบแต่งหน้าทำผมล้อเลียนปลอมตัวเป็นพี่สาวด้วยความสนุกสนาน และอลินาเคยขอร้องเรื่องนี้ เพื่อให้หล่อนสามารถสับรางรถไฟที่เกือบจะชนกันนับครั้งไม่ถ้วน
“ไม่ต้องห่วงพวกท่านหรอกจ้ะ ห่วงตัวเองเสียก่อน วันๆ เห็นแต่ขลุกอยู่กับพวกแก๊งหล่อเลือกได้ ลินกลัวเหลือเกินว่าจะกินกันเอง”
“โอ๊ย พี่พูดแบบนี้เราเสียหายนะ เราแมนขนาดไหนใครๆ ก็รู้” อันน์ยืนยัน
เขามีแฟนสาวน่ารัก คบหาดูใจกันมาเกือบปี แต่สุดท้ายเลิกรากันไปเพราะเธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าสำอาง หากลึกๆ อันน์ไม่แน่ใจตัวเอง สำหรับเขาความรักไม่ได้ระบุเพศ แต่ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายคือคนที่ใช่หรือไม่!
“จ้า พ่อคนแมนสุดหล่อ แต่ไม่ว่าตัวจะเป็นแบบไหน ชอบอะไร ลินไม่แคร์หรอกขอให้ตัวมีความสุขก็พอ” อลินาว่าจบจึงโบกมือบอกลาน้องชาย
ในตอนนี้หล่อนดร็อปการเรียนไว้ ด้วยเบื่อขี้ปากชาวบ้าน และตั้งใจไปย้อมตัวที่ต่างประเทศสักพัก สาเหตุมาจากอลินาประสบมรสุมชีวิตครั้งใหญ่
หล่อนพลาดไปแต่งงานกับเสี่ยเกรียงไกรจากการแนะนำของแม่ หากไม่ทันได้ลั่นระฆังวิวาห์ หล่อนก็ถูกลูกชายคนโตของเสี่ยเกรียงไกรตามรังควานถล่มงานแต่งจนจบแบบไม่สวย และยังพาบรรดาเมียเก่าของเขาตามสาปส่ง อลินาเลยลาขาดขอแยกทางจากเสี่ยเกรียงไกรแบบสายฟ้าแลบ กระนั้นยังได้เงินปลอบขวัญมาก้อนหนึ่ง ซึ่งมากพอที่จะให้หล่อนได้มีชีวิตสุขสบายโดยทิ้งเรื่องเรียนไว้เบื้องหลัง
เวลาผ่านไปนานเท่าไรอันน์ไม่อาจทราบ ยามนี้สมองเบลอไปหมด จวบจนถูกน้ำเย็นๆ สาดเข้าที่ใบหน้า
ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่เหนือเขา ส่งเสียงหัวเราะคุกคาม
“คุณต้องการอะไร ทำไมถึงทำเรื่องระยำแบบนี้กับผม” อันน์ถามด้วยเสียงดังอย่างขุ่นข้องใจ
“สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ ... คือความบริสุทธิ์ของแก และเสียงคร่ำครวญเวลาที่ฉันเย่อแกอย่างไม่ยั้ง!”
ขนบนหลังต้นคอชายหนุ่มลุกเกรียว เขาเกลียดคำพูดนั้น เมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวมาใกล้ๆ และฉุดให้เขาลุกยืน อันน์สัมผัสได้ถึงลมหายใจซึ่งมีกลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ
“หน้าที่แกคือคลานเป็นหมา ร้องเรียกฉันว่าผัวตลอด 24 ชั่วโมง จำเอาไว้ว่าต่อแต่นี้ไปแกคือทาสของฉัน เพื่อชดใช้สิ่งที่พี่สาวแกทำเอาไว้!”
“คุณกำลังเข้าใจผิด เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ”
“แกมั่นใจอย่างนั้นเหรอ เดี๋ยวได้เจอดุ้นยักษ์สักหน่อยความคุ้นเคยคงทำให้แกร้องเรียกหาผัวอย่างฉันไม่หยุด”
อันน์หวาดกลัวอยู่มาก เขาได้ยินแต่เสียงอีกฝ่ายชัดเจน แต่ดวงตาถูกผ้าปิดเอาไว้ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงอกสั่นขวัญแขวน
กระทั่งหูเขาได้ยินเสียงรูดซิปกางเกงลง จากนั้นสิ่งที่อันน์ไม่คาดคิดก็ผงาดอยู่ต่อหน้า มันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ใกล้จนริมฝีปากอวบอิ่มสัมผัสได้ถึงความอุ่นจัดซึ่งกำลังแข็งขัน!!
ผู้ชายใจโฉดบังคับให้อันน์ใช้ปากกับแก่นกายที่ร้อนจัด เมื่อเขาขัดขืนอีกฝ่ายจึงใช้น้องชายฟาดที่ใบหน้าสวยราวกับเห็นเป็นเรื่องสนุก
“ฉันให้โอกาส... ทำตัวให้ดีๆ เนื้อตัวจะได้ไม่ระบม เอ หรือว่าแกชอบแบบซาดิสต์!! แบบนั้นก็ดูถึงใจดีนะ”
คนตัวโตว่าจบจึงบีบริมฝีปากอันน์เพื่อขยายช่องทางให้อ้ากว้าง ก่อนยัดเยียดสิ่งใหญ่โตซึ่งอุ่นจัดเข้าไป!!