ตอนที่ 2

1440 คำ
ในค่ำคืนนั้นที่ทุกคนกำลังหลับไหล มีเพียงทารกน้อยที่ยังนอนลืมตาอยู่ในความมืด ร่างกายภายนอกอาจจะเป็นเพียงเด็กทารก แต่วิญญาณที่อยู่ภายในกลับไม่ใช่ ‘เป่าเปา’ เป็นชื่อของนาง ไม่ว่าในยุคนี้หรือยุคที่จากมานางก็ชื่อว่าเป่าเปา เป็นสาวโสดอายุใกล้เลข 3 แต่กลับเกิดอุบัติเหตุในคืนวันงานเลี้ยงฉลองของบริษัท จนเสียชีวิต เธอตื่นมาอีกทีก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในป่า ตามตัวคันยิกๆ เนื่องจากมดกัด จะลุกก็ไม่ได้ จะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ เสียงเดียวที่ออกจากปาก คือ อุ๊แว๊ อุ๊แว๊ จนมีหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหา อุ้มเธอเข้าสู่อ้อมกอด ในตอนที่สบตากับหญิงชราเธอได้เห็นเด็กทารกตัวเล็กในดวงตาคู่นั้น เธอจึงรู้ได้ทันที่ว่าตนเองได้เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กทารก! ใครกันนะที่ทิ้งเด็กน้อยได้ลงคอ ดีแค่ไหนที่สามีภรรยาคู่นี้มาเจอก่อนที่เด็กน้อยจะกลายเป็นอาหารของพวกสัตว์ป่า จากที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายชั่วยาม เธอก็พอจะรู้เรื่องราวของผู้ที่ช่วยชีวิต ผู้เป็นสามีชื่อ ‘จงฮุ่ยชิว’ มีภรรยาชื่อ ‘อันเจียอี’ ทั้งคู่ไม่มีบุตร มีอาชีพ เก็บสมุนไพร ผักป่า และปลูกผัก ขาย เห้อ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็คงต้องอยู่ในร่างนี้ต่อไป ใช้ชีวิตเป็นเด็กอีกครั้งก็คงจะสนุกดีเหมือนกัน เด็กน้อยหันมองสองสามีภรรยา ก่อนที่ปากน้อยๆ จะอ้าหาวด้วยความง่วงนอน 3 ปีผ่านไป ผ่านมาแล้ว 3 ปี ก็ยังไม่มีใครประกาศตามหาเด็กน้อยเลย จงฮุ่ยชิวกับอันเจียอี จึงรับนางเป็นหลานสาวบุญธรรม นำชื่อเข้าหนังสือตระกูล “ยายเฒ่า ข้าขึ้นเขาก่อนนะ” จงฮุ่ยชิวสะพายตะกร้าขึ้นหลัง เตรียมตัวจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรเพื่อนำไปขายในตัวเมือง จงเป่าเปาที่กำลังนั่งเล่นดินอยู่หน้าบ้าน ได้ยินว่าท่านตาจะขึ้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหา วิ่งไปถึงก็เกาะขาท่านตา เงยหน้ามองตาแป๋ว “ตา ไปด้วย” จงฮุ่ยชิวก้มลงมองหลานสาวตัวน้อยที่มาเกาะขาตนไม่ยอมปล่อย เขากับภรรยาเลี้ยงดูนางมาด้วยความรัก ถึงแม้จะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ก็รักและผูกพัน สิ่งใดที่เด็กทั่วไปมีพวกเขาก็หามาให้นางไม่ให้น้อยหน้าผู้ใด ตัวนางเองก็เป็นเด็กเลี้ยงง่ายตั้งแต่เป็นเด็กทารกแล้ว ใครเห็นใครก็รัก เพราะนางเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง ยิ้มเก่ง “เจ้าไม่อยู่บ้านกับยายหรือ ได้เล่นด้วยนะ” จงเป่าเปาขมวดคิ้วครุ่นคิด ท่าทางน่าเอ็นดูเช่นนั้นช่างเหมือนผู้ใหญ่เสียจริง “ไปกับตา” นางตอบ อันเจียอีเดินเข้ามาในบ้านได้ยินเรื่องที่สองตาหลานพูดคุยกัน และเห็นท่าทางที่เกาะแข้งเกาะขาอ้อนตาของหลานสาวแล้ว ก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ “เจ้าอยากขึ้นเขาหรือเสี่ยวเป่าเปา” อันเจียอีเอ่ยถามหลานสาว “เจ้าค่ะ” หันกลับมาตอบท่านยาย แต่ยังไม่ยอมปล่อยขาท่านตา “เช่นนั้นตาเฒ่า เจ้าก็พาหลานไปด้วยเถิด” อันเจียอีบอกสามี สร้างรอยยิ้มดีใจให้กับเด็กน้อยยิ่งนัก “เย้ ตะก้าๆ” เด็กน้อยกระโดดดีใจ วิ่งไปหยิบตะกร้าใบน้อยที่ท่านตาทำให้ “มาแย้วววว” นางอยากจะพูดให้ชัดๆ แต่ก็พูดไม่ชัดสักที เห้อ “อย่าห่างจากท่านตาเข้าใจหรือไม่” อันเจียอีเอ่ยกำชับหลานสาว “เจ้าค่ะ” “เอาแผ่นแป้งไปกินด้วย” ด้วยกลัวว่าหลานสาวจะหิวระหว่างทาง จึงเตรียมแผ่นแป้งไว้ให้นางนำไปกินด้วย “ขอบคุณเจ้าค่ะ” จงเป่าเปารับแผ่นแป้งมาถือไว้ “ตาเฒ่า เจ้าก็ดูแลหลานดีๆ ด้วยเล่า อย่าให้นางคลาดสายตาเด็ดขาด” บอกหลานสาวแล้วก็ไม่ลืมจะบอกสามีตนด้วย “ข้ารู้แล้ว ไปกันเถิดเสี่ยวเป่าเปา” รับคำภรรยาแล้ว ก็หันมาจับมือหลานสาวตัวน้อยเดินออกจากบ้านไป เขาที่จะขึ้นไปหาสมุนไพรนั้น เป็นภูเขาหลังบ้าน ที่ชาวบ้านมักจะขึ้นกันเป็นประจำ วันนี้มีหลานสาวมาด้วยจงฮุ่ยชิวจะไม่เข้าไปลึกนัก เพื่อความปลอดภัยและกลัวว่าหลานสาวตัวน้อยจะเหนื่อย “เหนื่อยหรือไม่” เดินขึ้นมาได้สักพัก ก็ก้มลงถามหลานสาว จงเป่าเปาส่ายศีรษะไปมา “ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ” ในระหว่างที่เดินก็สอดส่ายสายตาไปด้วย นั่น นั่นมันต้นผิงกั่วป่า (แอปเปิ้ล) จงเป่าเปารีบวิ่งไปทางต้นผิงกั่วป่าทันที นางวางตะกร้าใบเล็กลงบนพื้น เดินหยิบผลผิงกั่วป่าที่หล่นอยู่ใต้ต้น ลูกไหนที่ดูแล้วยังไม่เน่าเสียหรือเพิ่งหล่น นางก็หยิบมาใส่ตะกร้าใบเล็กของตน จงฮุ่ยชิวมองไปทางหลานสาว เห็นนางเก็บผิงกั่วอยู่ก็เดินเข้าไปหา “ตา เก็บๆ” นางชูผิงกั่วป่าที่อยู่ในมือให้ท่านตาดู ทั้งยังส่งยิ้มให้อีกด้วย “มันเป็นผิงกั่วป่า รสชาติไม่อร่อยหรอกนะ” “อืม เอาทำหนม” ตอบแล้วก็หันไปเก็บผิงกั่วต่อ จงฮุ่ยชิวขมวดคิ้วไม่เข้าใจในสิ่งที่หลานสาวบอก แต่ก็ไม่ได้ถามสิ่งใด ทำเพียงเดินเข้าไปช่วยหลานสาวตัวน้อยเก็บเท่านั้น ไม่นานตะกร้าใบน้อยก็เต็มไปด้วยผิงกั่วป่า “เดี๋ยวเจ้านั่งกินแผ่นแป้งรอตาตรงนี้ ตาจะไปเก็บสมุนไพร” จงฮุ่ยชิวปูผ้าที่ภรรยาเตรียมมาให้หลานสาว เขาปูผ้าใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา ให้จงเป่าเปาได้นั่งรอ ส่วนตนนั้นจะไปเก็บสมุนไพรที่อยู่ไม่ไกล “เจ้าค่ะ” จงเป่าเปารับคำ และนั่งลงบนผ้า มองท่านตาเก็บสมุนไพร มือก็ถือแผ่นแป้งส่งเข้าปาก 3 ปีแล้วที่นางมาอยู่ที่นี่ ท่านตากับท่านยายดีกับนางมาก พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านที่เก็บผัก เก็บสมุนไพรไปขาย ตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาก็เคยพานางไปร้านขายสมุนไพรอยู่เป็นประจำ แต่สมุนไพรที่เอาไปขายเป็นเพียง สมุนไพรทั่วไปที่ใครๆ ก็หาได้ ถ้าเจอสมุนไพรล้ำค่าสักต้นสองต้นก็คงจะดี เด็กน้อยได้แต่กัดแผ่นแป้งไป คิดไป เพราะนางยังเป็นเด็กจะทำสิ่งใดก็ไม่สะดวก แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นางได้คิดสิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะช่องทางการหาเงิน นางอยากให้ท่านตาท่านยายได้ใช้ชีวิตที่สบาย ไม่ต้องลำบาก แต่ตัวนางตัวเท่าเข่าจะทำสิ่งใดได้ จนกระทั่งเจอผิงกั่วนางก็มีความคิดดีๆ แล่นเข้ามาในหัว นางจะทำยีสต์จากผิงกั่ว! และจะใช้ยีสต์ทำขนม ถ้าได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพอใจก็จะทำไปขายในเมือง ได้กลิ่นก้อนเงินลอยมาอย่างไรก็ไม่รู้ คิกคิก ขอให้ได้ผลด้วยเถิด สาธุ หาว~ ปากน้อยๆ อ้าปากหาวจนกว้าง จนน้ำตาจะไหลอยู่แล้ว นั่งรอท่านตาจนกินแผ่นแป้งหมดไป 2 แผ่น ท่านตาก็ยังเก็บสมุนไพรไม่เสร็จ จนนางเกิดอาการง่วงนอน เพราะเป็นเด็กนางจึงง่วงนอนใช่หรือไม่ ว่าแล้วก็หาวอีก ตาจะปิดแล้ว งั้นขอนอนรอท่านตาแทนก็แล้วกัน ด้วยอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งยังมีลมพัดผ่าน ไม่นานเด็กน้อยก็หลับเสียแล้ว “ไอหยา หลับเสียแล้ว” จงฮุ่ยชิวเดินมาตรงจุดที่ให้หลานสาวรอ แต่ปรากฏว่าจงเป่าเปาหลับไปเสียแล้ว กลายเป็นก้อนกลมๆ แล้วหลานสาวเขา ดูท่านอนสิอ้าปากกว้างเดี๋ยวแมลงก็เข้าไปในปากหรอก แค่ท่านอนก็เรียกรอยยิ้มจากตาแก่เช่นเขาได้แล้ว จะปลุกก็กลัวจะรบกวนการนอนของหลานสาว เช่นนั้นก็อุ้มไปแล้วกัน ทั้งตะกร้าทั้งคนช่างดูพะรุงพะรังยิ่งนัก โชคดีที่เจอชาวบ้านระหว่างทาง พวกเขาจึงอาสาถือตะกร้าให้เขาจนมาถึงบ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม