บทที่3.อยากมีเวทมนต์เพื่อสาปใครบางคนชะมัด

1558 คำ
“มันก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นใกล้ตัวขนาดนี้นี่หว่า” “ผมจะพยายามทน...” “แน่ใจนะว่าไม่ยุ่งยากภายหลัง” เรื่องนี้คริสเตียน เองก็ไม่ใคร่ไว้ใจนัก ถึงจะมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร พัฐสุดาเองก็ไว้ใจไม่ได้ ท่าทางอ่อนหวานนั่นหลอกตาดีๆ นั่นเอง เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายลึกแค่ไหน “คงต้องมีแผนสำรองเตรียมไว้แล้วล่ะ” ไฮน์เนอร์อมยิ้ม การจับปลาไหลอย่างคริสเตียน ต้องมาเหนือชั้นกว่านี้ ใช้แผนง่ายๆ ไม่มีทางจับคริสเตียน อยู่ “เอาน่า เพื่ออนาคต” ไฮน์เนอร์ปลอบใจ คริสเตียน ไหวไหล่ ไม่เคยเชื่อมั่นกับลมปากของใคร ‘ความรัก’ งั้นเหรอ คำสวยหรูนั่นมีไว้เพื่อปลอบประโลมหัวใจผู้หญิง สิ่งยึดเหนี่ยวเดียวเพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงรู้สึกเก้อกระดาก หากจำเป็นต้องเปลื้องผ้า หรือมีเพศสัมพันธ์ต่อกัน คำอ้างที่ทำให้ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงไม่ตกต่ำมากเกินไปนัก พวกเธอบูชาความรักปลอมๆ ที่ฝ่ายชายใช้ลวงล่อ “คืนนี้ไปดื่มกันเถอะ เบื่อ” คริสเตียน ชวนดื้อๆ ยิ่งใกล้กำหนดวันเขาก็แทบบ้า กรงขังครั้งนี้ขอเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต จากนี้ไปเขามีข้ออ้างเตรียมไว้ตอบบิดา มารดาแล้ว “ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะคุณคริสเตียน” คริสเตียน ไหวไหล่ กดปิดแล็ปท็อปส่วนตัว ฉวยสูทที่พาดไว้บนพนักเก้าอี้มาพาดไว้บนบ่า “หรือจะไม่ไป...” ไฮน์เนอร์ทรงตัวขึ้นยืน “ไม่ปฏิเสธครับ” สองหนุ่มเดินตามกันออกมานอกห้องทำงาน คริสเตียน ขมวดคิ้ว ในห้องประชุมตรงข้ามห้องทำงานของเขามีใครบางคนกำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่ตรงนั้น แรงกระตุกชายเสื้อจากเพื่อนทำให้คริสเตียน หยุดเดิน “เอ้...นั่นว่าที่พี่เมียคุณไม่ใช่เหรอคริสเตียน ” คริสเตียน เม้มปาก สอดมือล้วงกระเป๋ากางเกง มองเขม็งไปที่ห้องประชุมนั่น “พราว...คุณญาณินมาที่นี่ทำไมเหรอ?” คริสเตียน ชะโงกหน้าถามเลขานุการส่วนตัว พราวพิศชะเง้อมองห้องฝั่งตรงข้ามแล้วก็ตอบเสียงใส “อ้อ...เหมือนจะมาต่อรองเรื่องราคาวัตถุดิบที่เราต้องส่งให้นะคะ เหมือนกับว่าใบเสนอราคานั่น มีข้อผิดพลาดนิดหน่อย” “ไม่ใช่ใบสั่งซื้อครั้งแรกสักหน่อย ทำไมยังพลาดได้” ไฮน์เนอร์อมยิ้ม เขาเดินตามคริสเตียน ไปห่างๆ เมื่อเพื่อนรักเปลี่ยนเส้นทางดื้อๆ และมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมแทนการออกไปดื่มตามที่ตกลงกัน บทที่3.อยากมีเวทมนต์เพื่อสาปใครบางคนชะมัด “ขอโทษที่เสียมารยาท แต่หากบริษัทคู่ค้ามีปัญหาบ่อยๆ แบบนี้ ครั้งหน้าไม่ต้องส่งเอกสารมาให้ผมพิจารณาเลยนะ” เสียงทุ้มๆ กับกลิ่นประจำตัวที่ญาณินจำได้ขึ้นใจ เธอยกมืออังใต้จมูก กลั้นลมหายใจชั่วครู่ คริสเตียน สีหน้าเปลี่ยน ดวงตาของเขาหรี่ลง แววตาดำทะมึนนั่นทำเอาชายชาญใจเสีย เขาไม่เคยเห็นคริสเตียน โกรธใครเท่ากับการเผชิญหน้ากับผู้หญิงตรงหน้าเลย หากลำดับญาติกันจริงๆ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ควรแน่นแฟ้นกว่านี้ ในเมื่อญาณินกำลังจะเป็นว่าที่พี่สาวภรรยาของเจ้านาย “ขอโทษล่วงหน้าค่ะ แค่ฉันคิดว่าเราควรเจรจากันได้ อนาคตยังต้องทำงานร่วมกันอีกนานนี่คะ” คริสเตียน ยิ้มเย็น ทิ้งตัวลงนั่งและลากแฟ้มที่วางอยู่ตรงหน้าคนของเขามาเปิดอ่านคร่าวๆ “ของล็อตนี้ราคาสมเหตุสมผลที่สุดแล้วนะ ในฐานะคนค้าขายเหมือนกัน คุณเองก็น่าจะรู้นี่” ญาณินเม้มปากนั่งคอแข็ง...หากคนตรงหน้าไม่เข้ามาแทรก การเจรจาครั้งนี้ก็บรรลุผลสำเร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ “ฉันทราบค่ะ แต่หากคุณตรึงราคาเท่านี้ ฉันก็คงต้องหาเจ้าอื่นที่ราคาถูกลงหน่อย” รอยยิ้มแบบนั้นญาณินแค่นว่าในใจ แววตาเจ้าเล่ห์นั่นด้วย ชายตรงหน้ารู้ว่าที่ญาณินเกริ่นไปทั้งหมดก็เพื่อให้เขายอมลดราคาให้ ไม่มีบริษัทค้าส่งที่ไหนราคาถูกกว่ายูเนี่ยนฟู๊ดแล้วล่ะ “คุณสะดวกแบบนั้น ก็แล้วแต่เลยนะ” ครานี้ญาณินเป็นฝ่ายกระวนกระวายเสียเอง วัตถุดิบตัวนี้สำคัญกับสายการผลิตมากๆ เธอไม่มีเวลาต่อรองกับบริษัทส่งสินค้าเจ้าอื่นหรอก ทั้งหมดนั่นก็เพื่อให้ชายตรงหน้าลดราคาให้อีกหน่อย “เดี๋ยวค่ะ” ญาณินกลั้นใจรั้งคริสเตียนไว้ รอยยิ้มสมใจแต้มมุมปาก ญาณินทำได้แค่กำมือวางไว้เหนือหน้าตัก เธอสูดลมหายใจลึกๆ รีบข่มอารมณ์เดือดระอุในใจไว้สุดตัว เธอมาเพื่อ ‘ขอร้อง’ ไม่ได้มาเพราะต้องการทะเลาะ ชายตรงหน้าเป็นคนเดียวที่จะทำให้งานในหน้าที่เธอราบลื่น “ฉันรู้ว่าคุณสามารถปรับราคาลงได้ โดยที่บริษัทของคุณยังได้กำไรอยู่” คริสเตียนถูปลายนิ้วหัวแม่มือใต้ปลายคาง มุมปากกดโค้งลงพลางคิดในใจ มันก็จริงอย่างที่หญิงตรงหน้าพูด “ใบเสนอราคานั่น ทางคุณเป็นฝ่ายตกลงเองนะ” เสียงทุ้มเย็นชา แววตานิ่งๆ นั่น ญาณินก้มหน้าลง นั่นคือความผิดของเธอที่สะเพร่า โดยไม่ได้ตรวจทานตัวเลขให้ดีก่อน หากการเจรจาไม่สำเร็จ อาจส่งผลทำให้เธออาจถูกไล่ออก “ค่ะ ฉันยอมรับว่าตัวเองเลินเล่อเอง ฉันขอความกรุณาได้ไหมคะ มันหมายถึงอนาคตของฉันเลยนะคะ” นี่เป็นครั้งแรกมั้งที่หญิงตรงหน้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแตกต่างไปจากเดิม แววตาอ่อนสร้อยนั่นทำให้หัวใจของคริสเตรียนอ่อนยวบลง เธอแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้ และมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะยอมรับความผิดตัวเอง “ชายชาญ” คริสเตียน หันไปพูดกับคนของตัวเอง “คุณมีความเห็นยังไงบ้างล่ะ” ชายชาญยิ้มแหยๆ “จากใบเสนอราคาใหม่ที่ทางคุณญาณินทำมาให้ ก็ไม่ได้แย่นักหรอกครับบอส” “เราจะสูญเสียกำไรที่ควรได้ไปเท่าไหร่ล่ะ” “ก็เยอะอยู่ครับ แต่...” “ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายนะ ถ้ามีครั้งหน้าอีกครั้ง ผมคงยอมให้คุณไม่ได้อีก ผมถือว่านี่เป็นเพราะผมเห็นแก่หน้าดานะ ไหนๆ ผมก็กำลังจะเกี่ยวดองเป็นคนในครอบครัวของคุณแล้ว” คริสเตียน ทรงตัวยืน เขามองเลยไปที่เพื่อนสนิท รอยยิ้มแบบนั้นของไฮน์เนอร์ คริสเตียน เลยก้มหน้าหลบแววตารู้ทันนั่นเสีย แววตาไฮน์เนอร์ทิ่มแทงใจดำของเขาดังจึกๆ “ขอบคุณค่ะ” ญาณินพึมพำขอบคุณ เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเขา เป็นการเสียหน้าครั้งแรกที่ต้องจำจนตาย ครั้งต่อไปเอกสารทุกชิ้นที่เกี่ยวกับยูเนี่ยนฟู๊ด เธอคงต้องตรวจทานดีๆ จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก “เปลี่ยนเป็นเลี้ยงข้าวผมสักมื้อสิ คงดีกว่าคำขอบคุณเฉยๆ” ญาณินตัวแข็งทื่อ ปฏิเสธตอนนี้ก็คงเสียมารยาทน่าดู เธอฝืนยิ้ม “ได้สิคะ ที่ไหนดีละคะ” ผลัดวันประกันพรุ่งไปก็ไม่มีทางแก้อะไรได้ ในเมื่อตกปากรับคำไปแล้ว ก็รีบทำให้จบๆ ไป จะไม่มีอะไรติดค้าง “ตามมาสิ ผมกำลังออกไปหาอะไรกินกับไฮน์เนอร์อยู่พอดี” “ถ้าคุณไม่สะดวก เปลี่ยนเป็นวันอื่นก็ได้นะคะ” “วันนี้แหละที่ผมสะดวก ผมยุ่งช่วงนี้ คุณเองก็น่าจะรู้” ญาณินถอนใจ “ผมจะส่งเอกสารที่เรียบร้อยแล้วไปให้ที่บริษัทของคุณญาณินครับ” ชายชาญกระซิบบอก “ขอบคณค่ะ” ญาณินตอบกลับ แล้วรีบเดินตามชายผู้นั้นไปติดๆ ไฮน์เนอร์เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง มองผ่านไหล่คริสเตียน ไป “คิดจะทำอะไรวะคริสเตียน ?” “เปล่า แค่อยากกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวสักหน่อย” ไฮน์เนอร์ไม่ได้ท้วง เขาไหวไหล่เดินนำหน้า “ตกลงไปไหนแน่ครับ? “ที่เดิมนั่นแหละไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก” คริสเตียน ตอบและหมุนตัวไปบอกคนที่เดินตามมาห่างๆ “เจอกันที่...” เขาเดินนำไม่รอคำตอบ ญาณินเบ้ปาก กลอกตามองบน สถานที่ที่ชายผู้นั้นเอ่ยถึงคือแหล่งส่องสุมของผู้ชายโสดแต่ร่ำรวย เธอพลาดท่าหลวมตัวอาสาเอง มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว แต่...คิดเหรอว่าเธอจะยอมให้เขาถล่มใส่ฟรีๆ สองหนุ่มมาถึงก่อน เขาสั่งเครื่องดื่มมารอและดื่มกันไปพลางๆ คริสเตียน ดื่มบรั่นดีเพรียวๆ ไปถึงสองแก้ว คนที่กำลังรอก็ยังไม่โผล่หน้ามาสักที เขาชักสีหน้าตอนที่สายตาไปสะดุดเข้ากับใครบางคน พร้อมกับที่ไฮน์เนอร์เอียงตัวมากระซิบใกล้ๆ “พี่เมียนายนี่แอบร้ายนะ” คริสเตียน กดมุมปาก หลุบเปลือกตาลง “พี่ณินละคะ” พัฐสุดาทิ้งตัวนั่งพยายามเบียดใส่คริสเตรียนให้ได้มากที่สุด แล้วรีบยกมือเรียกบริกรที่เดินผ่านไปมาให้เข้ามาหา ไฮน์เนอร์เป็นคนตอบ “ยังมาไม่ถึงเลยครับ คุณญาณินชวนคุณดามาเหรอครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม