บทที่1.พระราหูเข้า พระเสาร์แย่งกันแทรก

1530 คำ
“ณินแกเกิดปีอะไรนะ?” เพื่อนร่วมงานที่กำลังสุมหัวกันหันมาตะโกนถามญาณิน “ทำไมอะ?” ญาณินย้อนถามยังไม่ทันได้ตอบเพราะพอดีเหลือบมองเห็นหนังสือเล่มโตในมือของอีกฝ่ายเสียก่อน ญาณินย่นจมูกใส่กับคววามเชื่อล้าหลังเหล่านั้น หนังสือเล่มนั้นญาณินเห็นมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน อายุหนังสือร่วมๆ สิบปี          “ตอบมาเถอะ ฉันจะดูดวงให้แกเอง หน้าหมองๆ แบบนี้ ดวงแกไม่ดีแน่นอน” พัชรีเป็นตัวตั้งตัวตี ทำท่าคะยั้นคะยอ          “ยัยพัช เมื่อไหร่แกจะเลิกสนใจเรื่องไร้สาระนั่นสักทีหะ” ญาณินบ่น          “หมวยแกจำวันเกิดณินได้ไหม?” เมื่อญาณินไม่ตอบ แพรไหมเลยกลายเป็นลูกไล่แทน ญาณินกับเพื่อนกลุ่มนี้คบกันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยม ดังนั้นอายุก็คงไล่ๆ กัน          “ณินเกิดก่อนฉันสองเดือน แต่ปีเดียวกัน” เสียงแพรไหมตอบพัชรี สองสาวนั่นเลยหันไปสนใจหนังสือเก่าๆ นั่นแทนการไล่เบี้ยเอากับญาณิน ญาณินวางถุงขนม เดินไปร่วมกลุ่ม ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว สองสาวนั่นกำลังดูดวงของเธอนี่นา          “ณินดวงแกตกมากที่สุดในปีนี้เลยนะแก” พัชรีหันมาพูดกับญาณิน          “ไหนดูสิพัช เออว่ะ นอกจากดวงตกแล้วแกน่าจะเจอเรื่องซวยๆ ไม่หยุดเลยล่ะ” หลังนิ่งไปหนึ่งอึดใจ แพรไหมก็พูดจ้อยๆ          “ฉันไม่เชื่อดวงอะไรนี่หรอกนะ ฉันเชื่อตัวเอง” ถึงรู้สึกวูบๆ ในใจ แต่ญาณินก็ยังยืนกราน คนเราหากไม่ลงมือทำ ต่อให้ดวงดีแค่ไหนก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ          “ไม่ได้แย่ทั้งหมดหรอกนะยะ ยังมีเรื่องดีๆ ปนอยู่ด้วย แต่...” แพรไหมพูดต่อ          “หมวยแกพูดต่อให้จบสิ ฉันขี้เกียจอ่านเอง” พัชรีคะยั้นคะยอให้แพรไหมพูดต่อ          “คือจะพูดไงดีอะพัช ณิน” แพรไหมมีสีหน้าปั้นยาก เหมือนไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง          “เอามานี่ ฉันอ่านเอง เออ...นั่นดิ สรุปคือดีหรือซวยหนักวะเนี่ย” พัชรีบ่นพึมพำ          “ลองพูดมาสิยัยพัช จะอะไรหนักหนา ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่เกิดวันนี้นี่ อาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้”          ญาณินไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด คนเขียนหนังสือเล่มนี้รวบรวมข้อมูลจากหลายๆ ที่ และไม่ได้เจาะจงว่าเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เขาแค่ทำนายตามตำราเก่าๆ มันอาจผิดพลาด หรือคลาดเคลื่อนก็ได้          “ฉันก็ไม่เข้าใจนักหรอก ความหมายมันบอกไว้คลุมเครือ จะสรุปชัดๆ เลยก็ไม่ได้” พัชรีบ่นต่อ          “เอามานี่ ฉันอ่านเอง” แพรไหมดึงหนังสือจากมือพัชรีมา “อาจจะเจอเรื่องไม่คาดฝัน มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากตัดสินใจผิด จะทำให้พลาดเรื่องดีๆ ไปตลอดชีวิต ณินฉันไม่เคยเจอคำทำนายแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะ แกต้องคิดให้รอบคอบ ต้องระวังตัวให้หนัก อย่าประมาทเด็ดขาดเลย” สีหน้าขึงขังของเพื่อนๆ พลอยทำให้ฉันรู้สึกขำไปด้วย คนเราหากเชื่อดวงในกระดาษ ก็คงไม่ต้องขวนขวายทำงานแล้วมั้ง คนดวงดีก็นอนรอโชควิ่งใส่อยู่ที่บ้าน ความเป็นจริงแล้วไม่มีใครทำแบบนั้นไง ต่อให้ดวงดีแค่ไหน แต่หากไม่ทำมาหากิน ไม่แคล้วอดตาย          “ฉันไม่สนเรื่องไร้สาระพวกนี้หรอก”          ญาณินพูดปัดๆ เดินกลับไปนั่งที่เดิม ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการเชื่อมั่นในตัวเอง          “จิ้งจกทักคนยังหยุด นี่ฉันสองคนทักแกเลยนะณิน แกควรฟังพวกฉันบ้างนะ”          สองสาวแข่งกันพูดเสียงขรม ญาณินฝืนหัวเราะ “ได้ๆ ฉันจะฟังแก แล้วไงต่อล่ะ”          “แหะๆ” แม่หมอจำเป็นหัวเราะแหะๆ ไม่มีใครรู้อนาคต แค่ใช้แนวทางจากตำราเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป          ทั้งหมดนั่นคือหัวข้อที่ถกกันตอนที่ว่างงาน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครใส่ใจและเหตุร้ายยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้น ญาณินลืมไปแล้วด้วยซ้ำ หากบ่ายวันนี้ไม่มีคนพิเศษแวะมาหาถึงที่ทำงาน          “นึกยังไงมาหาพี่ได้ล่ะยัยดา?” ญาณินส่งยิ้มให้น้องสาววัยกระเตาะ ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ อายุห่างกันแค่สองปี          พัฐสุดายิ้มหวานให้พี่สาวที่ไม่ได้กลับบ้านนานถึงสามเดือน “ก็พี่ณินไม่ยอมกลับบ้าน ดาเลยต้องบากหน้ามาหาไงคะ”          “คิดถึงพี่ หรือมีธุระ” ญาณินไม่ได้สนิทสนมกับน้องสาวคนนี้นัก เลยรู้สึกไม่ชอบมาพากล          “คือ...” พัฐสุดาก้มหน้าลง สอดมือหยิบของบางอย่างในถุงและยื่นส่งให้ญาณิน ญาณินขมวดคิ้วมองซองสีแดงสดในมือน้องสาวตาเขม็ง          “อะไรเหรอ?”          “ดาจะแต่งงานเดือนหน้าค่ะ ดาเลยเอาการ์ดแต่งงานมาให้พี่ณิน”          ญาณินกลอกตามองบน พยายามไม่นึกถึงหน้าว่าที่เจ้าบ่าว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจแรงๆ ‘คนรักของน้องสาวคือคนที่เธอเหม็นหน้าที่สุด’ ญาณินไม่เคยคิดมาก่อน หมอนั่นกับน้องสาวจะคบกันยืดยาว จนถึงขั้นแต่งงานกันได้          คริสเตียน ยู หนุ่มลูกครึ่งไทยจีนคนนั้น รูปหล่อ รวย และถือตัวจะตาย          ชายผู้นั้นไม่เคยเข้ามาแนะนำตัวกับญาติฝ่ายหญิง ทำตัวลับๆ ล่อๆ และมีข่าวฉาวบ่อยๆ ญาณินเกลียดผู้ชายเจ้าชู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หมอนั่นเข้าข่ายผู้ชายอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพัฐสุดาทำอีท่าไหน ถึงจับพลัดจับผลูไปคบกับวายร้ายคนนั้นเข้า          “ดาท้องเหรอ?”          มันอดใจไม่ได้ญาณินเลยพลั้งปากถาม          พัฐสุดาหน้างอ มองญาณินตาคว่ำ “พี่ณินกำลังดูถูกน้องสาวอยู่นะคะ”          “พี่ขอโทษนะ แต่แหมมมม...” ข่าวฉาวๆ ของหมอนั่นเข้าหูเป็นระยะ ญาณินเลยไม่อยากคิดในแง่ดี อีกอย่างท่าทางของคริสเตียน ก็ดูไม่ถึงขั้นที่จะรักน้องสาวเธอมาก ถึงขั้นยอมสละโสดได้เลย          “พี่ณินคะ ถึงภาพลักษณ์ของคริสเตียนเขาจะดูไม่ดีนัก แต่คริสเตียนเขาก็รักดาจริงๆ นะคะ”          “เอาเถอะ...ถึงขั้นนี้แล้ว พี่จะพยายามเชื่อแล้วกันนะ”          ผ่านด่านบิดา มารดามาได้ ถึงขั้นมีการ์ดงานแต่งมายืนยัน คงไม่ใช่เรื่องที่กุขึ้นมาเพื่อล้อเล่นแน่ๆ ญาณินแอบผ่อนลมหายใจ นึกเป็นห่วงพัฐสุดาขึ้นมาติดหมัด          “พี่ณินต้องมางานดาให้ได้นะคะ”          “อืม” ญาณินพยักหน้ารับส่งๆ สอดการ์ดสีฉูดฉาดเก็บไว้ในเก๊ะทำงาน มองสีหน้าสดชื่นของน้องสาวด้วยความหนักใจ          ก๊อกๆ          คล้อยหลังพัฐสุดาไปหลัดๆ เสียงเคาะกระจกกับสายตาสอดรู้ของสองสาวเพื่อนซี้ก็ทำให้ญาณินนึกระอา          “ไม่รู้สักเรื่องได้ไหมยะ”          แพรไหมกับพัชรีพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ไม่ได้!! เล่ามาเลย น้องสาวแกมาหาทำไมยะ”          ญาณินโครงศีรษะ เปิดเก๊ะหยิบการ์ดแต่งงานส่งให้แทน          “น้องแกจะแต่งงาน” ญาณินยิ้มกร่อยๆ          “แต่งงานกับคุณคริสเตียนด้วย” เสียงแหลมปรี๊ดจนเพื่อนร่วมงานคนอื่นหันมาสนใจ          “แกจะตะโกนทำไมยะ” ญาณินปรามเสียงแข็ง          “ณินแกคิดเหมือนฉันไหม?” แพรไหมกระซิบถาม          “คิด ฉันถามยัยดาไปแล้วด้วย ไม่ได้ท้อง!!” ญาณินตอบแล้วก็ถอนใจแรงๆ “ฉันไม่คิดว่าหมอนั่นจะจริงจังกับยัยดา รักๆ เลิกๆ เป็นสิบรอบ ข่าวเรื่องความสำส่อนก็ไม่เคยซา แล้วทำไมถึงตกลงปลงใจแต่งงานกับยัยดาได้วะ?”          “ฉันก็คิดเหมือนแก...เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ” พัชรีเปรย          “แล้วแกไม่คิดจะค้านหรือไงยัยณิน” เมื่อแพรไหมถาม ญาณินมองสบตาเพื่อนแล้วสิ่งยิ้มกร่อยๆ ให้          “แค่นี้ ฉันยังหัวเน่าไม่พออีกเหรอไงยะ”          “นั่นสิเนอะ” คราวนี้สองสาวครางเบาๆ พร้อมกัน          เรื่องความรักที่พ่อแม่มีต่อบุตรนั้น ใครบอกว่ารักเท่ากัน ไม่จริงหรอก ญาณินนี่ไงลูกชัง ในบรรดาบุตรทั้งสามคนของเทพกับแววตา ญาณินคือลูกคนกลางที่ความรักของบิดา มารดามาไม่ถึง ทรงพลคือพี่ชายคนโต เขาเป็นความหวังของพ่อกับแม่ ยิ่งเจริญในหน้าที่การงานมากเท่าไหร่ ทั้งสองท่านก็มักจะเปรียบเทียบกับญาณินจนเธออึดอัด เลยอัปเปหิตัวเองออกมาจากบ้าน ไม่อย่างนั้นบ่าของเธอก็จะต้องแบกเรื่องไม่สบายใจเพิ่มขึ้นทุกวัน          หน้าที่การงานญาณินก็ไม่ได้แย่ แค่ไม่สามารถเชิดหน้าชูตาให้กับบิดามารดาได้          ญาณินไม่ชอบระบบราชการ ที่ต้องปั้นหน้าใส่กัน แถมมีคอร์รัปชั่นทุกหย่อมหญ้า ญาณินเลยเลือกทำงานที่ตัวเองชอบและสบายใจ เธอเลยถูกกระแหนะกระแหนบ่อยๆ         
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม