bc

รอยสักแรกของพิมฐา

book_age18+
0
ติดตาม
1K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
คู่ต่างขั้ว
ดราม่า
like
intro-logo
คำนิยม

พวกเราต่างกันอย่างสุดขั้ว

แต่ก็บังเอิญได้มาพบกัน...และรักกันอย่างสุดขีด

#รอยสักแรกของพิมฐา

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Intro
บ่ายแก่ที่อากาศกำลังร้อนจัด แต่ก็ไม่อาจจะสร้างความขุ่นเคืองใด ๆ ให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังฮัมเพลงสากลอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับการที่เธอนั้นหยิบจับข้าวของไปวางยังที่ของมันได้แต่อย่างใดเลย กล่องลังมากมายในห้องยังคงวางระเกะระกะเพราะมันพึ่งจะถูกยกขึ้นมาส่งได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งเธอเองก็กำลังเร่งมือจัดข้าวจัดของให้กับห้องคอนโดห้องใหม่ที่เธอพึ่งจะตัดสินใจซื้อเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เนื่องจากว่าเธอได้งานที่ใหม่ที่มันอยู่ห่างจากบ้านของเธอมาก เธอจึงตัดสินใจซื้อห้องคอนโดแถวที่ทำงานของเธออยู่ เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาไปกับการเดินทางที่อาจจะทำให้เธอสูญเสียพลังงานได้มากกว่าการทำงานเสียอีก Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr เพลงดับลงพร้อมกับริมฝีปากของหญิงสาวที่กำลังฮัมเพลงพลันต้องหยุดชะงัก เธอวางของทุกสิ่งลงเพราะจดจำได้ว่าเสียงริงโทนเสียงนี้เป็นเสียงที่เธอตั้งเอาไว้ให้กับคน ๆ เดียว และเธอก็ไม่ลังเลที่จะเดินไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาสบมองดู พร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับขึ้นมาในทันใดเมื่อพบเห็นชื่อของคนปลายสาย “ค่ะแม่...” ‘จัดของไปถึงไหนแล้วลูก?’ เสียงหวานจากผู้หญิงปลายสายยิ่งทำให้รอยยิ้มของเธอประดับกว้างมากไปกันใหญ่ จริง ๆ หากเธอไม่ต้องออกมาทำงานไกลบ้านของตัวเองแบบนี้ เธอจะอาศัยอยู่กับแม่ของเธอไม่ให้ห่างอ้อมอกของท่านอย่างแน่แท้ เพราะพวกเรามีกันอยู่แค่สองคนแม่ลูกเท่านั้น “ยังเหลืออีกหลายอย่างเลยค่ะ” ‘ไม่ต้องรีบแล้วค่อย ๆ จัดไปนะคะลูกรัก...ว่าแต่ได้ไปทักทายเพื่อนบ้านเขาหรือยังล่ะคะ เพื่อนบ้านหนูเป็นยังไงบ้าง?’ ความเป็นแม่ก็ยังคงห่วงลูกสาวอย่างเธออยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะเรียนจบถึงปริญญาเอกและอายุก็เข้าเลขสามแล้วแต่แม่ของเธอก็ยังคงมองว่าเธอเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ของท่านอยู่เสมอ “หนูยังไม่ได้ไปทักทายเขาเลยค่ะแม่ กะว่าจัดห้องรับแขกเสร็จแล้วหนูจะไปทักทาย” ‘อย่าได้ลืมเอาขนมที่ตั้งใจทำตั้งแต่ที่บ้านไปฝากเขาด้วยล่ะลูกรัก เขาจะได้เอ็นดูแล้วมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันนะคะ’ “หนูไม่ลืมค่ะแม่” และหลังจากนั้นพวกเราก็ใช้เวลาคุยกันอีกหลายนาที แม่ของเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ดูแลเธออย่างดีเสมอมา จึงทำให้พวกเราสองคนค่อนข้างที่จะสนิทกันมาก และทุกเรื่องราวในชีวิตของเธอก็มักจะเล่าให้ท่านได้รับรู้อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ‘อย่าไว้ใจคนแปลกหน้านะคะ จำที่แม่สอนได้ทุกคำใช่ไหมลูก’ “หนูจำได้ทุกอย่างที่แม่สอนเลยค่ะ อย่าไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น” ‘ดีมากจ้ะ ถ้าอย่างนั้นแม่คงต้องวางแล้ว’ “ค่ะแม่” ‘อย่าลืมไปทักทายคนข้างห้องนะคะ มีอะไรรีบโทรหาแม่นะ’ “หนูรักแม่นะคะ” ‘แม่ก็รักหนูค่ะ’ และสายก็ถูกตัดไปจากฝีมือของคนปลายสาย พิมฐาวางโทรศัพท์ของตัวเองลงด้วยความรู้สึกใจหายหน่อย ๆ ที่เธอกับแม่ต้องอยู่ห่างกัน แม้ว่าเธอจะไปเรียนไกลถึงต่างประเทศตั้งหลายปี แต่เธอก็ยังไม่เคยชินเลยสักครั้งกับการที่จะต้องอยู่ห่างกับแม่ของเธอเพราะอย่างที่บอกว่าพวกเราสนิทกันมาก...และเธอก็เชื่อฟังคำสอนของแม่ทุกประการไม่เคยมีสักครั้งที่ท่านจะได้เอ่ยปากบอกว่าผิดหวังในตัวของเธอไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน แม่ของเธอนั้นเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ก่อนที่ท่านจะลาออกไปเมื่อสิบปีก่อนแม้จะไม่ได้อยากลาออกก็ตาม แต่เพราะคุณยายของเธอนั้นป่วยหนักจนท่านต้องกลับไปดูแล ซึ่งหลังจากที่ยายของเธอเสียไปหลังจากนั้นได้ไม่นาน แม่ของเธอก็ไม่ได้กลับมาทำอาชีพอาจารย์อีก และอยู่ที่บ้านของยายมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ พร้อมกับการดูแลเธอเป็นคุณแม่เลี่ยงเดี่ยวไปด้วยโดยที่ท่านไม่เคยพูดถึงบิดาของเธอเลย พิมฐาจึงอยากจะมาสานต่ออาชีพของแม่... เธอตั้งใจเรียนอย่างหนักเพื่อให้คุณสมบัติของตัวเองนั้นตรงกับเงื่อนไขของมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้เธอสามารถทำมันได้สำเร็จแล้ว แม้จะต้องแลกมากับการอยู่ไกลอ้อมกอดของมารดา แต่เธอก็ได้รอยยิ้มที่สุดแสนภูมิใจของท่านมาแทน...ที่เธอสามารถสานต่อความฝันของท่านต่อไปได้ในอนาคตที่ท่านไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว ท่านคอยอบรมสั่งสอนเธอมาอย่างดีตามแบบฉบับของคุณครู แต่มันก็หนักขึ้นคูณสองเมื่อเธอนั้นเป็นลูกของคุณครู ดังนั้นสิ่งที่ท่านเน้นย้ำกับเธอมากที่สุดก็คือรอยสักและการเจาะตามร่างกาย ซึ่งไม่ใช่แค่ให้เธอเลี่ยงที่จะกระทำ...แต่ท่านเน้นย้ำหนักแน่นด้วยว่าบุคคลเหล่านั้นเธอต้องเลี่ยงให้ถึงที่สุดจนกว่าที่จะถึงทางตัน ถึงขนาดที่ว่าหากมีค้อนให้ทุบกำแพงเพื่อที่จะให้หนีจากคนพวกนั้นได้...เธอก็จะต้องทำให้สุดความสามารถของเธอทั้งหมด “ห้องนี้เสร็จแล้ว!” พิมฐาขยับตัวออกมาสบมองดูผลงานของตัวเองด้วยความปลื้มปริ่ม พร้อมกับปัดฝุ่นที่มือของตัวเองออก เธอเดินหันหลังไปล้างไม้ล้างมืออย่างมีเป้าหมายแล้วว่าสิ่งที่เธอจะทำเป็นการต่อไปนั้นคืออะไร ซึ่งสิ่งที่เธอจะทำเป็นลำดับต่อไปนั้นก็คือการนำขนมไปให้กับคนข้างห้องที่มารดาของเธอย้ำนักย้ำหนาว่าให้ผูกมิตรเอาไว้ หลังจากที่ท่านไปเค้นความกับผู้ดูแลห้องมาได้ว่าคนข้างห้องเป็นผู้หญิงเงียบ ๆ นิสัยดีที่ดูพึ่งพาได้ “หวังว่าเขาจะอยู่ห้องนะ” เธอยกยิ้มให้กับขนมคุกกี้ที่เธอตื่นมาทำตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อที่จะให้กับเพื่อนร่วมบ้าน ร่างบางเดินออกมาจากห้องก่อนจะเงยหน้าสบมองพร้อมถอนหายใจเพื่อไล่อาการประหม่ากับห้องตรงกันข้ามกับห้องของเธอเนื่องจากว่าทั้งชั้นมันมีเพียงแค่สองห้องเท่านั้น เป็นเพราะว่ามารดาของเธอเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยบวกกับอาชีพของเธอที่ต้องการความเงียบสงบเพราะเธอจะต้องคิดแผนการสอนในตอนกลางคืนเพื่อไปสอนนักศึกษาในตอนเช้าทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ คอนโดนี้จึงเป็นคอนโดที่ตรงใจเธอกับมารดามากที่สุดเพราะขึ้นชื่อในสองเรื่องหลัก ๆ ที่เธอและมารดาของเธอนั้นต้องการ พิมฐาก้าวเท้าไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวตอนนี้เธอก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของเพื่อนร่วมบ้าน เธอถอนหายใจไล่อาการประหม่าอีกครั้งและฝึกยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้อย่างต้องการที่จะผูกมิตร ก่อนที่มือของเธอนั้นจะเอื้อมขึ้นไปกดกริ่งและยืนรอให้เจ้าของบ้านออกมา ทั้งในใจของเธอนั้นก็คิดคำพูดพรรณนาเอาไว้มากมายและหวังลึก ๆ ว่าผู้หญิงห้องฝั่งตรงข้ามของเธอนั้นจะมีมิตรไมตรีต่อกันนับจากนี้ไป แกร๊ก! เสียงปลดล็อกจากทางด้านในยิ่งทำให้หัวใจของคนรอนั้นสั่นไหว ประตูเปิดแง้มออกเล็กน้อยแต่ยังคงมีโซ่คล้องเอาไว้พร้อมกับใบหน้าของคนด้านในที่โผล่ออกมาเพียงแค่ดวงตาหนึ่งข้าง พิมฐาจึงยกยิ้มให้กับคนในห้องโดยทันทีเพราะคิดว่าเขาอาจจะยังไม่แน่ใจว่าเธอเป็นใครจึงไม่กล้าที่จะเปิดประตูออกมาทั้งบาน “ฉันชื่อพิมฐานะคะ ฉันเป็นเพื่อนบ้านของคุณ...คือฉันอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกับคุณน่ะค่ะ” เธอทำทีชี้ไปที่ห้องของตัวเอง คนที่อยู่ในห้องเปรยสายตาไปตามนิ้วมือของเธอเล็กน้อย และเขาก็เลือกที่จะพยักหน้าโดยไม่แม้แต่จะตอบรับใด ๆ กลับมาให้เธอเผลอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออย่างนึกประหม่าเพราะดูเหมือนเขาไม่ต้องการที่จะผูกมิตรกับเธอเลย “ขอโทษที่ต้องมารบกวน แต่ฉันทำขนมมาฝากค่ะ” เธอชูกล่องคุกกี้ที่เธอตั้งใจทำ ตั้งใจจัดใส่กล่อง ตั้งใจผูกโบเองกับมือให้เขาสบมองดูอีกครั้งอย่างใจดีสู้เสือ คนฝั่งตรงข้ามเองเมื่อเห็นดังนั้นแล้วเขาก็พยักหน้าอีกครั้ง เธอจึงมองหาลู่ทางที่จะส่งกล่องขนมไปให้กับเขาผ่านช่องเล็ก ๆ ที่เขาเปิดออกมาให้เธอได้เห็น แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยเพราะช่องมันเล็กกว่ากล่องขนมของเธอมาก ๆ ซึ่งวิธีเดียวที่เขาจะได้รับมันก็คือการที่เขาต้องเปิดประตูเท่านั้น “ถ้าคุณไม่สะดวกเปิดประตูงั้นฉันวางเอาไว้หน้าห้องก็ได้ค่ะ ยังไงฉันขอฝากเนื้อฝากตัวกับคุณ...” “เดี๋ยวก่อน...” “คะ?” เธอที่กำลังจะย่อตัวลงเพื่อนำกล่องขนมไปวางหน้าห้องพลันต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเขา คนที่อยู่ในห้องปิดประตูลงให้เธอมองตาปริบ ๆ ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงจากคนภายในที่เหมือนกำลังจะปลดล็อกโซ่ออก พิมฐาฉายยิ้มกว้างขึ้นมาในทันใดเมื่อเธอรับรู้ได้ถึงการเปิดใจของคนที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม มือของเธอกำกล่องขนมแนบแน่นรอการปรากฏตัวของเขา แต่แล้วรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนมุมปากของเธอก็ค่อย ๆ มลายหายไปกลายเป็นดวงตาของเธอแทนที่เบิกโพลงขึ้นมา... ผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้นเปิดประตูอ้ากว้างจนตอนนี้เธอได้เห็นใบหน้าของเขาชัดเต็มทั้งสองดวงตา ผมสั้นประบ่าทรงที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้รับกับใบหน้าของเขานั้นทำให้เธอเผลอคิดว่าเขาเท่ไม่หยอกและส่วนสูงที่เข้ากันกับทุกสิ่งของเขายิ่งทำให้ออร่าความเท่ของเขามันพุ่งออกมาจนเธอเผลอชื่นชมในใจอยู่บ่อยครั้ง แต่แล้วทุกสิ่งที่เป็นคำชื่นชมมันก็หายวับไปในทันตาและแทนที่ด้วยอคติ... ปลายคิ้วของเขามีการเจาะใส่จิวสีเงินวาว มุมปากข้างหนึ่งก็มีการเจาะด้วยจิวเหมือนกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งใบหูทั้งสองข้างที่แทบจะไม่มีที่ว่างเว้น แขนข้างซ้ายของเขามีรอยสักเต็มแขนที่ลงสีและมันคงจะสวยงามสำหรับใครคนอื่น แต่สำหรับเธอที่แอนตี้รอยสักและรอยเจาะตามร่างกายต่าง ๆ เพราะถูกบ่มมาตั้งแต่ยังจำความได้...กลับมองว่าบุคคลคนนี้เป็นบุคคลอันตรายตามคำบอกเล่าของมารดา และเธอควรที่จะอยู่ให้ห่างจากเขามากที่สุดแม้ว่าเขาจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันกับเธอก็ตาม “ขออภัยด้วยค่ะที่มารบกวน...” พิมฐาขยับถอยหลังออกจากเขาเล็กน้อยอย่างเสียมารยาท และคนฝั่งตรงข้ามเองก็มองเห็นถึงการเปลี่ยนไปแบบฉับพลันของหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนบ้าน...ซึ่งมันทำให้เขาเผลอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของเธอที่เปลี่ยนแปลงไป “แต่ดิฉันคิดว่าหลังจากนี้ดิฉันคงจะไม่มารบกวนคุณอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นกรุณาได้โปรดอยู่ร่วมกันด้วยความสงบ...ขอบคุณมากค่ะ” ก่อนที่เธอจะวางกล่องขนมลงที่หน้าห้องของเขาแม้ว่าคนในห้องจะยอมเปิดออกมาหากันแล้วก็ตาม พร้อมกับที่ร่างของเธอเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยทันใดอย่างไม่ต้องการที่จะเสวนาต่ออีกแล้ว...ตลอดทั้งชีวิตของเธอ คนที่ยืนอยู่หน้าห้องและมองแผ่นหลังของเธอจนกระทั่งลับสายตาไปนั้นเผลอยกยิ้มออกมาอย่างคนรู้ดีว่าปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของเจ้าหล่อนนั้นมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ เขาเอนตัวไปพิงกับขอบประตูเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอก แต่สายตายังคงจับจ้องบานประตูที่ปิดสนิท ก่อนที่เขาจะเปรยสายตาลงมาสบมองที่กล่องขนมอีกครั้ง และก้มตัวลงไปหยิบมันขึ้นมาสบมองดูพร้อมกับอ่านข้อความจากใบโพสต์อิทที่แปะอยู่หน้ากล่องให้รอยยิ้มของเขายิ่งฉายกว้างมากกว่าที่เป็นอยู่ ‘หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันนะคะ พิมฐา’ “ยินดีทำตามความหวังของคุณค่ะ...คุณพิมฐา”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook