"ฮูหยินรองลองตอบคำถามข้าได้หรือไม่ ในเมื่อบุตรสาวของท่านก็ไม่มีจุดแต้มพรหมจรรย์เช่นเดียวกันกับข้า ถ้างั้นน้องรองก็คงจะเป็นหญิงแพศยา ที่แย่งคู่หมั้นของพี่สาวตัวเองได้ลงคอสินะ"
"นี่เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าเยี่ยงไร"
ฮูหยินรองจ้องมองเหมยฮวาด้วยความโกรธแค้น
"ก็หมายความตามที่พูด ถ้าท่านยังไม่เข้าใจท่านก็ไปถามความจากน้องรองได้"
"นี่เจ้าหยุดพูดเรื่องไร้สาระใส่ความข้าได้แล้ว"
เยี่ยไป๋หลันทนไม่ไหวเอ่ยแทรกขึ้น
เนตรดาวใช้ความทรงจำของร่างเหมยฮวา คาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ เยี่ยไป๋หลันลอบมีความสัมพันธ์กับคู่หมั้นพี่สาวตนเอง เลยคิดจะกำจัดหนามหยอกอกนี้ออกไปจากชีวิตรักของตนไม่ผิดแน่ เมื่อคืนที่เธอไปอยู่ที่จวนอ๋องเหวินซีห่าวนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเยี่ยไป๋หลัน แต่เรื่องที่เนตรดาวเข้ามาอยู่ในร่างของเหมยฮวาได้อย่างไรนั้น เป็นคำถามที่เธอต้องหาคำตอบต่อไปเช่นกัน เมื่อคืนหลังจากที่เธอดื่มชาถ้วยนั้นเข้าไป เธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย เยี่ยไป๋หลันคงจะใส่อะไรลงไปสักอย่าง ทำให้เธอดื่มแล้หมดสติไป เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น แต่ตอนนี้เธอต้องแก้ปัญหาตรงหน้านี้ให้ได้เสียก่อน ถ้าฮูหยินรองต้องการที่จะกำจัดเธอด้วยข้อกล่าวหานี้ เธอจะหาข้อแก้ตัวในการช่วยเหลือบุตรสาวของตนเองเช่นไรในข้อหาเดียวกัน เธอต้องเสี่ยงดวงแล้ว
"ฮูหยินรองจะว่าอย่างไรเจ้าคะ หรือว่าท่านต้องการให้ข้าบอกเล่าเรื่องราวที่ได้พบเห็นนี้ ลองคิดดูสิว่าถ้ามีคนทราบว่าคุณหนูรองตระกูลเยี่ยลอบมีความสัมพันธ์กับคู่หมั้นพี่สาวตนเองแล้วนั้น ชื่อเสียงของนางจะเป็นเช่นใด ฮ่าฮ่า คงไม่ต้องให้ข้าพูดท่านคงจะทราบถึงผลลัพธ์ดีใช่หรือไม่"
ก่อนที่เหมยฮวาจะพูดต่อก็ไม่วายชำเลืองมองไปที่ใบหน้าของสตรีตรงหน้าไปพร้อมกัน
"เอาเช่นนี้แล้วกัน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ท่านไม่พูด ข้าไม่พูด ต่างคนต่างเก็บความลับซึ่งกันและกันเป็นไง เรื่องที่ข้าได้หายตัวไปเมื่อคืน ก็จะเป็นเพียงเรื่องที่เข้าใจผิดเท่านั้น ส่วนเรื่องของน้องรองข้าจะเก็บเป็นความลับและจะหลีกทางให้พวกนางเป็นอย่างไร"
เหมยฮวาสบตาฮูหยินรองนิ่ง นี่ไม่ใช่การข่มขู่แต่มันคือการเสี่ยงดูต่างหาก ถ้านางไม่ยอมตกลง เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ถ้ามีผู้อื่นรับทราบขึ้นมามีหวังนางคงไม่แคล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูลเป็นแน่ แล้วอย่างนี้นางจะมีชีวิตความเป็นอยู่เช่นไรเล่า
‘หนูต้องรอดนะลูกเนตรดาว ท่องเอาไว้'
"เอาเป็นว่าข้าให้เวลาพวกท่านได้คิดทบทวนให้ดีเสียก่อน วันนี้ตัวข้านั้นเหนื่อยตัวเป็นยิ่งนัก เห็นทีต้องขอตัวก่อน"
พูดเสร็จเหมยฮวาก็เดินออกมาจากห้องโถงกลับเรือนของตนในทันที นางเดินกลับเรือนของนางด้วยใจที่ลุ้นระทึก ด้วยกลัวว่าพวกเขาจะไม่รับข้อเสนอที่นางยื่นให้
เยี่ยไป๋หลันเอ่ยถามมารดาของตนด้วยความร้อนใจ
"ท่านแม่ท่านจะปล่อยมันไปง่ายๆ อย่างนี้หรือเจ้าคะ"
ฮูหยินรองหันหน้ามามองบุตรสาวของตน และตบไปที่ใบหน้างามนั้นอย่างแรงตามแรงโทสะของตน
"เจ้ายังมีสมองดีอยู่หรือไม่ เจ้าบอกความจริงกับข้ามาเดี๋ยวนี้ เรื่องที่นางผู้หญิงแพศยานั้นพูดเป็นความจริงหรือไม่ เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าจะมาโกหกแม่ ข้าบอกให้เจ้าพูดความจริงออกมา"
ฮูหยินรองตะโกนใส่บุตรสาวของตนอย่างเดือดดาล
เมื่อเยี่ยไป๋หลันได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเป็นยิ่งนัก มองมารดาตัวเองด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อว่ามารดาจะลงมือตบใบหน้าตนเองได้ ตั้งแต่เล็กจนโต มารดานั้นไม่เคยลงไม้ลงมือกับนางเลยแม้แต่สักครั้งเดียว นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้
"พวกเจ้าออกไปให้หมด"
ฮูหยินรองหันไปกล่าวกับบ่าวไพร่ที่อยู่ในห้องโถงตอนนี้ เมื่อทั้งสองคนอยู่ในห้องเพียงลำพัง นางจึงหันไปสบตาบุตรสาวของตนเองนิ่งด้วยต้องการหาคำตอบจากบุตรสาวของตน
"ท่านแม่ให้อภัยลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ ลูกผิดไปแล้ว"
"นี่เจ้าทำเช่นนี้เจ้ามีหัวคิดบ้างหรือไม่บุรุษมีตั้งมากมาย ทำไมเจ้าถึงต้องไปแย่งคู่หมั้นของนางแพศยานั้นด้วย ถ้ามีคนรู้เข้าเจ้ารู้หรือไม่ว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเสียหายมากเพียงใด ถ้าบิดาของเจ้าทราบเรื่องนี้เข้า มีหวังเจ้าต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่ที่กล้าทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเยี่ยงนี้"
"ท่านแม่ท่านต้องช่วยลูกนะเจ้าคะ ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีหลานในท้องของลูกที่ท่านต้องให้เขามีบิดาด้วยนะเจ้าคะ”
เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วเยี่ยไป๋หลัน ไม่ต้องการที่จะปิดบังอะไรมารดาของตนเองอีก เพราะนางรู้ว่าสถานการณ์ของนางตอนนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพียงลำพังอีกต่อไป"
"เจ้าว่าอะไรนะนี่เจ้ากำลังตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮูหยินรองก็ถึงกับเซถอยหลังไปหลายก้าว
เยี่ยไป๋หลันรีบเข้าไปประคองมารดาของตน และร้องไห้น้ำตานองหน้ากอดมารดาแน่น
"ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าให้อภัยลูกด้วยนะเจ้าค่ะท่านต้องช่วยลูกไม่เช่นนั้น ลูกจะมีชีวิตอยู่ได้เช่นไรถ้าผู้อื่นรู้เรื่องนี้เข้า"
ฮูหยินรอง ได้แต่กุมขมับเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น และต่อว่าบุตรสาวของตัวเองอย่างหนัก ที่ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว
"แล้วองค์ชายเก้าว่าอย่างไรบ้าง องค์ชายทรงทราบเรื่องนี้หรือยัง"
“องค์ชายเก้าทรงทราบเรื่องนี้แล้วเจ้าค่ะท่านแม่ องค์ชายทรงตรัสว่าจะแต่งข้าเข้าเป็นชายารองของเขา แต่คงต้องรอให้เขาจัดการแต่งนางอสรพิษนั่นเข้าไปในตำหนักเป็นชายาเอกของเขาเสียก่อน เขาไม่สามารถแต่งข้าเป็นชายาเอกของเขาได้ อันเนื่องมาจากว่า เขาได้หมั้นหมายกับนางอสรพิษนั่น มันเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ พระองค์ก่อน ที่ได้หมั้นหมายนางอสรพิษนั่นไว้กับองค์ชายเก้าก่อนที่พระองค์จะสวรรคต องค์ชายเก้าจึงตรัสว่าไม่สามารถที่จะขัดราชโองการได้ ลูกไม่ยอมนะเจ้าค่ะ ลูกไม่ยอมเป็นรองนางอสรพิษนั่นเป็นเด็ดขาด ท่านแม่ต้องช่วยลูกให้ลูกได้เป็นชายาเอกของเขา เพียงแค่ไม่มีนางอสรพิษนั่นสักคนทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของลูก"
เยี่ยไป๋หลันกล่าวออกมาด้วยความเคียดแค้นชิงชังที่มีต่อเหมยฮวา ที่เป็นผู้ได้ ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของนางไป
เมื่อฮูหยินรอง คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว นางจึงกล่าวบางสิ่งกับเยี่ยไป๋หล้นและแยกย้ายกันกลับเรือนของตนเอง
"คุณหนูเจ้าขาท่านหายไปไหนมาทั้งคืนเจ้าค่ะ"
'นั่นไงประโยคยอดฮิตจะถามกันทั้งวันทั้งคืนเลยใช่ไหม'
เหมยฮวาได้แต่บ่นในใจอย่างเบื่อหน่าย แต่ก่อนอื่นเธอต้องนึกให้ออกเสียก่อน ว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้คือผู้ใดกัน เนตรดาวจึงต้องเค้นความทรงจำของร่างๆ นี้เกี่ยวกับประวัติของสตรีตรงหน้า ไม่นานเธอก็ได้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว สตรีเบื้องหน้าเธอนี้คือบ่าวรับใช้คนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ ที่ยังเหลืออยู่หลังจากที่แม่นมที่ได้ชุบเลี้ยงเธอได้เสียชีวิตลง
"เสี่ยวหง เจ้าอย่าเพิ่งถามอะไรข้าให้มากความได้หรือไม่ เจ้าช่วยไปต้มน้ำให้ข้าอาบ และจัดสำรับสักสองสามอย่างไว้ให้ข้าก่อน แล้วเอาไว้ข้าจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เจ้าฟังทีหลัง เข้าใจหรือไม่ วันนี้ข้าเหนื่อยเต็มทีแล้ว"
เมื่อเหมยฮวาจัดการธุระทุกอย่างของตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าจะเข้าไปนอนพักผ่อนเพื่อเอาแรงสักพัก เพราะตอนนี้นั้นนางรู้สึกว่าพลังงานเหลือน้อยเต็มที