ตอนที่2 กามวิตถาร
มู่หยงฟู่เปลื้องอาภรณ์ออกเผยร่างกำยำล่ำสัน ทุกสัดส่วนของอดีตทหารแนวหน้าผู้กล้าตายอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเฉกเช่นบุรุษเหล็กผู้ผ่านสมรภูมิสงครามมานับไม่ถ้วน เดิมทีเขาเคยเป็นอดีตนักท่องยุทธภพผู้หนึ่งพเนจรรอนแรมไปทั่วแผ่นดิน ไร้อุดมการณ์อันเป็นเป้าหมายของชีวิต
กระทั่งวันที่สวรรค์สาปนรกส่งก็มาถึง วันหนึ่งในช่วงปลายฤดูร้อนขณะที่เขากำลังเดินทางมุ่งหน้าไปทางใต้ระหว่างทางก็พบกับหญิงสาวนางหนึ่ง ดรุณีนางนั้นเป็นสาวโฉมสะคราญงามเหนือหญิงชาวบ้านสามัญ นางใช้มารยาเข้าหลอกล่อ ใช้เล่ห์กลลวงให้เขาหลงใหลก่อนจะเผยธาตุแท้ออกมาว่านางเป็นนกต่อของเผ่ากินคนแห่งเมืองใต้อันโหดเหี้ยม
พวกมันเข้าจับกุมตัวเขาโดยง่าย มู่หยงฟู่ถูกทรมานหวังให้เขายอมรับสารภาพว่าเป็นคนของทางการที่เข้าไปสอดแนมหาข่าวในเขตแดนของพวกมัน สุดท้ายเขาถูกหนึ่งในพวกมันเล่นพิเรนทร์ทางทวารหนักย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นชาย หากชะตาชีวิตของมู่หยงฟู่ยังไม่ถึงฆาต ต่อมาแม่ทัพเล่งฮู้ชงผู้เกรียงไกรนำกำลังทหารหน่วยหนึ่งออกมาลาดตระเวนแล้วพบเขาเข้าพอดี นับแต่ครานั้นมู่หลงฟู่จึงคิดตอบแทนบุญคุณและติดตามรับใช้แม่ทัพใหญ่ในเวลาต่อมา
ร่องรอยแผลเป็นจากการรบปรากฏบนร่างกายของหัวหน้าโจรผ้าแดงหลายแห่ง มันเสมือนจารึกแห่งความเหี้ยมหาญประดับอยู่บนผิวเนื้อสีทองแดง หากสิ่งที่หญิงสาวชาวบ้านผู้อาภัพรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงยามนี้หาใช่เพียงร่างกายและท่าทางน่ากลัวของเขาเพียงสิ่งเดียว เครื่องเพศของหัวหน้าโจรผ้าแดงที่นางเห็นทำให้เลือดในกายสาวแทบจับเป็นก้อน ด้วยขนาดที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าท่อนฟืนที่นางเคยยัดใส่เตาไฟ หากสีของมันดำขลับส่วนปลายมนหยัก ยามนี้ใบหน้าอันเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำตาแดงจัด
นางยกมือขึ้นปิดใบหน้าด้วยไม่เคยพบเห็นเครื่องเพศของชายใดมาก่อน
“นายท่านได้โปรดเมตตาข้าน้อยด้วย”
“เปิดตาของเจ้าออกแล้วมองดูข้าให้เต็มตา”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเจือด้วยสุราดังก้องกระโจมทำให้ร่างอรชรสะดุ้งตัวสั่น ร่างกำยำคืบคลานเข้ามาใกล้ก่อนจะจับบร่างบอบบางให้หันมาเผชิญหน้า
“พวกสตรีอย่างเจ้าก็ไม่ต่างกันนัก ล้วนเป็นได้เพียงแค่เครื่องบำเรอความใคร่เท่านั้น” มือใหญ่หยาบกร้านฉีกทึ้งเสื้อผ้าของหญิงสาวชาวบ้านออกจนร่างของนางเปลือยเปล่า
“จงรับชะตากรรมของเจ้าเสียเถอะ”
มู่หยงฟู่ใช้มือแข็งราวกับคีมเหล็กทั้งสองข้างจับยึดร่างของหญิงสาวเอาไว้ มันตะโบมจูบฟอนเฟ้นไปทั่วปทุมถันของนางทั้งสองเต้าทรวง ลักษณะอาการไม่ต่างจากสัตว์ป่าดุร้าย กลิ่นกายของสตรีใต้ร่างปลุกกำหนัดให้ปะทุขึ้นอย่างแรงกล้า นางเป็นเด็กสาวอายุไม่น่าจะเกินสิบแปดปีแม้นภายนอกรูปร่างจะดูผอมบางไปสักหน่อย หากพอปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้มเรือนกายเยี่ยงนี้ เขากลับพบว่าสัดส่วนแห่งเครื่องเพศอันบ่งบอกความเป็นหญิงของนางล้วนสมบูรณ์เพียงพอ
“ข้าเจ็บ”
เสียงสะอื้นน่าเวทนาดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของหญิงผู้อาภัพเป็นระยะ ร่างกายแทบทุกตารางนิ้วของนางล้วนถูกครอบครองรุกล้ำโดยปลายจมูก และเรียวลิ้นของหัวหน้าโจรผู้เป็นประหนึ่งเจ้าชีวิต หลายต่อหลายคราเขาใช้ฟันขบกัดผิวเนื้อบอบบางของนางจนเลือดอาบ แล้วใช้ปลายลิ้นดูดดุนเลียหยาดโลหิต กลิ่นคาวเลือดของนางยิ่งทำให้มันคลุ้มคลั่ง
“เสียงร้องของเจ้ายิ่งทำให้ข้าสนุก”
ร่างบอบบางถูกจับให้นอนคว่ำหน้าลง มู่หยงฟู่ก้มลงให้ฟันขบกัดแผ่นหลังขาวเนียนจนแดงฉานไปด้วยหยาดโลหิต ร่างอรชรสั่นสะท้านเหมือนคนเป็นไข้ป่าส่งเสียงร้องครางฟังไม่เป็นภาษา เขาขบกัดนางไปทั่วร่างเป็นที่พึงพอใจแล้วก็หยัดกายลุกขึ้นใช้ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงบนก้นงอนเสียงดัง
มันยืนมองร่างของเด็กสาวอยู่ครู่หนึ่งอย่างพึงพอใจกับผลงานของตนเอง สองมือจับบั้นท้ายงอนให้แยกออกถ่มน้ำลายรดลงไปในร่องหลืบเบื้องหน้า แล้วมันก็จับแกนกายจรดไปยังปากทวารของนางแล้วขยับเอวสอบแทงความเป็นชายพรวดเข้าไปจนมิดลำ
“อ่า”
มันร้องคำรามลั่นใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขกระสัน ในขณะที่หญิงสาวใต้ร่างดิ้นเร่าด้วยความเจ็บปวดทรมาน จากสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ที่กำลังรุกล้ำเข้าไปในร่างกายจากทางด้านหลังอย่างผิดที่ผิดทางทำให้เกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ นางร้องเหมือนเจียนจะขาดใจ ในขณะที่หัวหน้าโจรร้ายกระหน่ำแทงความเป็นชายเข้าออกในร่างของนางอย่างเมามัน
คนหนึ่งสุขสมเหมือนได้ล่องลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ อีกคนเจ็บปวดเหมือนโดนฉุดกระชากลงสู่มหาอเวจี กระทั่งเด็กสาวทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหวร่างบอบบางอ่อนปวกเปียกไม่ต่างจากซากศพ แต่มู่หยงฟู่ยังคงไม่หยุดแม้นางบำเรอของมันจะขาดใจไปแล้ว มันยังคงเสพสุขกับเรือนร่างไร้วิญญาณของนางกระทั่งมันเสร็จสมอารมณ์ปรารถนา