“ ภาคิณ แม่ว่าถ้าลูกเป็นแบบนี้ แม่ว่าลูกกลับไปพักใจที่เมืองไทยกับคุณย่า ไหมลูกเป็นแบบนี้คุณพ่อเห็นแล้วก็ปวดหัว แม่ก็เป็นห่วง งานก็ไม่เดิน แม่ว่าถ้าขืนลูกอยู่แบบนี้ลูก็ไม่มีทางดีขึ้นหรอก “ หม่อมจิตร ผู้เป็นแม่บอกลูกชายให้กลับไปที่ไทยเพื่อไปฟื้นฟูจิตรใจเมื่อเห็นลูกตัวเองเอาแต่เมาหัวราน้ำไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมทำงาน หม่อมจิตรเมื่อเห็นคนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเธอเป็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกเศร้าห่อเ**ยวในหัวใจ สามีของเธอหม่อมหลวงอานนท์ ก็เช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่กลบับมาจากที่ทำงานมาเห็นลูกชายอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ไม่สบายใจ จากนั้นสองคนผัวเมียก็เลยปรึกษากันว่าให้ลูกชายกลับไปเมืองไทยไปอยู่กับคุณหญิงย่า ที่วังคฤหบดี
“ ม่ายป่ายครับคุณแม่ ผมม่ายไปไหนทั้งนั้นคร๊าบบบบ อึก อึก อึก “ ภาคิณ พูดกบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงออ้แอ้ พร้อมกับกระดกเหล้าขึ้นมายกซดจนหมดแก้วอีกครั้ง หม่อมหลวงอานนท์ผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นลูกชายมีสภาพแบบนั้นก็รู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันทีก่อนจะพูดออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับฝ่าดฝ่ามือเข้าที่หน้าของลูกชายอย่างแรงเพื่อเรียกสติของเขา
เพลี๊ยะ
“ ตั้งแต่ฉันเกิดมาฉันไม่เคยเสียใจอะไรมากขนาดนี้มาก่อน แกไม่หน้าเกิดมาเป็นลูกฉันเลยจริงๆ ฉันเลี้ยงแกมาด้วยความรักไม่เคยทำให้แกเจ็บช้ำน้ำใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี้แกเป็นอะไรเป็นบ้าอะไรถึงได้ให้ผู้หญิงไม่มีค่าคนนั้นมาทำให้ชีวิตแกพังพินาศขนาดนี้ แกอย่าลืมว่าฉันกับแม่ของแกเคยเตือนแกว่ายังไงเรื่องหนูรูซี่ ไม่สิ ไม่ใช่แค่ฉันกับแม่ของแกทุกคนเลย ทุกคนเขาเตือนแกกันทั้งนั้น ไม่มีใครเขาเห็นด้วยกับแกเลยสักคนเรื่องผู้หญิงคนนี้ “ หม่อมหลวงอานนท์ ตบหน้าลูกชายเป็นครั้งแรกอย่างเหลืออด ด้วยความที่คนเป็นพ่อไม่อยากเห็นลูกชายอยู่ในสภาพที่เมาเหมือนหมาแบบนี้อีก อานนท์ไม่รู้จะทำยังไงเขาก็เลยตบหน้าลูกชายอย่างเหลืออดพร้อมกับด่าสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ หม่อมจิตรเมื่อลูกชายโดนพ่อตบหน้าจนล้มลงไปกองกับพื้น ด้วยความตกใจเธอก็รีบวิ่งเข้าไปประคองลูกชายทันทีก่อนจะหันมามองสามีด้วยสีหน้าตกตะลึง เพราะเธอรู้ดีว่าสามีของเธอรักลูกชายมากเขาไม่เคยที่จะทำร้ายร่างกายของลูกเลยจนกระทั้งวันนี้เธอรู้ดีว่าที่สามีทำไปคงจะเหลืออดแล้วจริงๆ
“ พอได้แล้วคะคุณ ฮือออออ ฮือออออ กระซิก กระซิก อึก อึก “ หม่อมฉันร้องไห้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจที่เห็นลูกชายเป็นแบบนี้ และเห็นสามีทำร้ายลูกชายเป็นครั้งแรกเธอก็เลยรับไม่ได้ ก่อนจะร้องไห้ออกมาพร้อมกับบอกให้สามีหยุด เมื่อหม่อมหลวงอานนท์ เห็นน้ำตาของภรรยาที่ไหลออกมาเขาก็ได้สติกก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นปล่อยให้แม่ลูกเขาอยู่กันตามลำพัง
“ ภาคิณ อย่าทำแบบนี้เลยนะลูก ลูกเจ็บแม่เห็นลูกเป็นแบบนี้แม่เจ็บกว่าลูกรู้ไหม ฮือออออ ฮือออออ กระซิก กระซิก “ หม่อมจันทร์ ร้องไห้ออกมาแทบขาดใจเพราะรู้สึกเสียใจที่เห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองมีสภาพไม่ต่างจากลูกหมา หลงทางภาคิณที่เห็นน้ำตาของแม่และสายตาผิดหวังของผู้เป็นพ่อ ภาคิณก็ส่างเมาแล้วก็ได้สาติทันทีว่าตัวเองทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
7 วันต่อมา
บรื้น ….บรื้น…บรื้น
เสียงรถหรูของวังคฤหบดีวิ่งเข้ามายังวังด้วยความเร็วปกติ หม่อมจันทร์ที่รู้ข่าวว่าหลานชายจะมาเธอก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า มาเพื่อเตรียมหุงหาอาหาร จัดแจงของ และก็สั่งคนใช้ให้ทำความสะอาดกันตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะรอหลานชายเพียงคนเดียวของเธอ
“ คุณท่านเจ้าขา คุณท่านนู่นเจ้าคะคุณภาคิณมานู่นแล้วเจ้าคะ “ เสียงของป้าแช่มหัวหน้าแม่บ้าน บอกเจ้านายตัวเองด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นรถตู้ของวังวิ่งเข้ามา หม่อมจันทร์เมื่อเห็นแบบนั้นไม่ใช่ว่าท่านไม่ตื่นเต้นเพราะนี้ก็นานมากแล้วที่ไม่เคยมีญาติคนไหนมาเยี่ยมท่านเลย พอรู้ว่าหลานชายจะมาหาเท่านั้นแหละหม่อมจันทร์ก็รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นยิ่งกว่าเด็กได้ของเล่นถูกใจซะอีก
“ ฉันเห็นแล้วแช่ม หลานฉันอยู่ในรถนั้นด้วย “ เสียงของหม่อมจันทร์ที่ฟังดูแล้วตื่นเต้นดีใจพร้อมกับหันมามองป้าแช่มและทุกคนด้วยสายตาที่ดูจะตื่นเต้นเป้นพิเศษ จากนั้นไม่ถึง1นาทีรถตู้ของวังก็วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าวัง พร้อมกับมีขาเรียวยาวของหลานชายที่หม่อมจันทร์เฝ้ารอยื่นออกมาจากด้านในรถก่อน
“ สวัสดีครับคุณหญิงย่า “ ภาคิณ ที่ลงมาจากรถเขาก็ไหว้ หม่อมจันทร์ผู้เป็นย่าด้วยความน้อบน้อม หม่อมจันทร์เมื่อเห็นหลานชายที่โตเป็นหนุ่ม ตัวสูงขาวดูเป็นสง่ายืนไหว้ตัวเองอยู่ต่อหน้า หม่อมจันทร์เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็อ้าปากค้างก่อนจะยิ้มออกมา ทั้งน้ำตาด้วยความดีใจที่เห็นหลานชาย
“ ภาคิณ ภาคิณหลานย่า หลานย่าจริงๆด้วย อึก อึก กระซิก กระซิก “ หม่อมจันทร์ โผล่เข้ากอดหลานชายทั้งน้ำตา ด้วยความดีใจ ภาคิณที่โดนคุณย่ากอดแบบนั้นเขาก็กอดตอบพร้อมกับหลับตาลงซึมซับความอบอุ่นจากท่าน
*นี้นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้กลับมาหาคุณหญิงย่าเลย * ภาคิณ เมื่อโดนคุณหญิงย่ากอดแบบนั้น ความคิดก็วิ่งเข้ามาในหัวทันทีเพราะนานมากแล้วที่ตัวเองไม่เคยมาที่นี้อีกเลยหลังจากที่คุณย่ากับคุณพ่อทะเลาะกันเรื่องอะไรไม่รู้ เขาจำไม่ได้เพราะตอนนั้นเขายังเด็กจนกระทั้งตอนนี้ ภาคิณอายุ25ปีบริบูรณ์ เขาเพิ่งได้กับมาที่นี้
“ ภาคิณเป็นยังไงบ้างลูก สบายดีไหม เหนื่อยไหมลูก “ หม่อมจันทร์ผละกอดจากหลานชายพร้อมกับถามหลานชายออกมาทั้งน้ำตาด้วยความทราบซึ่งใจ และดีใจ จากนั้นย่าหลานก็พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาย่าหลานที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ภาคิณไม่ได้เล่าให้คุณหญิงย่าฟังนั้นก็คือ เรื่องของรูซี่ แฟนเก่าที่นอกใจเขาทำให้เขาเป็นแบบนี้
เรือนหลังเล็ก
“ นี้แก แกเห็นคุณภาคิณไหม หล่อมาก…….อย่างกับพระเอกเกาหลีในซีรี่ย์แหนะ “ เสียงเหล่าแม่บ้านวัยใสต่างก็คุยกัน ด้วยน้ำเสียงที่ดูจะตื่นเต้นเมื่อเห็นหลานของเจ้านายตนที่ดูหล่อมาก เรียกว่ามากจนไม่รู้จะอธิบายว่าเป็นคนหรือว่าเป็นเทพบุตรลงมาจุตติ
“ เห็นสิว่ะ ฉันแทบจะเป็นลมนึกว่า โอ้ปป้ามาเอง ว๊ายยยยยย ฉันรักเขา…..” เสียงเหล่าสาวใช้ ต่างก็พากันกรี๊ดกร้าด เรื่องความหล่อของหลานชายเพียงคนเดียวของเจ้านาย
“ ฉันจะต้องเอาคุณมาเป็นผัวของฉันให้ได้ หึหึหึ “ ขนุน แสยะยิ้มออกมาก่อนจะพูดออกมาเบาๆอย่างไม่อยากให้ใครได้ยินว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ความคิดของเธอตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะใฝ่สูเรียกได้ว่านางจะกินบนเรือนแล้วก็ขี้ใส่หลังคาเลยก็ว่าได้
“ ขนุน ขนุน นี้เธอเป็นอะไรไปอยู่ๆก็ไม่พูด แกไม่เห็นเหรอว่าคุณภาคิณหลานคุณท่านนะ หล่อแค่ไหน “ เสียงชมพู่ เพื่อนของขนุนหญิงสาวคนรับใช้ถามเพื่อนอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าอยู่ๆ ขนุนก็นิ่งไปเฉยๆอย่างไม่แสดงความเห็นอะไรเลย และนั้นก็เป็นที่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ชายที่หล่อ รวย สเป๊คของเธอเลย แต่ขนุนกับนิ่งอย่างไม่แสดงความเห็นอะไรเลย ชมพู่ก็เลยแปลกใจ แค่นั้นเอง