ตอนที่ 6 เปิดศึก

1708 คำ
เด็กหนุ่มวัยสิบสี่นั่งอยู่บนพื้นที่ปูพรมนุ่ม ตั้งศอกทั้งสองข้างขึ้นบนโต๊ะไม้ตัวเตี้ย มีหนังสือกับสมุดการบ้านของเด็กชายคเชนทร์วางอยู่อย่างเตรียมพร้อม มือประสานปลายนิ้วเรียวยาวเข้าหากัน จากนั้นก็วางคางตรงจุดที่ปลายนิ้วเชื่อมประสาน ด้วยท่วงท่าเดียวกับเด็กน้อยวัยสี่ขวบ ราวกับถอดแบบกันมา ทั้งสองเหลือบตาบอกหญิงสาววัยสิบแปดเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้ "แฟนเมจังหล่อเนอะ" เรียวยักคิ้วหลิ่วตา ทำตาหวานหยาดเยิ้มให้ตังเม "หล่อที่สุดเลยค่ะ" มือบางยื่นไปบีบแก้มนุ่มของเรียวเบาๆ อย่างหยอกเย้าเอ็นดู พอได้ยินคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยเหล่มองพร้อมยักคิ้วให้กับเด็กหนุ่มหน้ายักษ์ที่นั่งข้างๆ อย่างเป็นต่อ "แฟนเมจังหล่อเนอะ" ไฟยักคิ้วหลิ่วตา ทำตาหวานหยาดเยิ้มให้ตังเมบ้าง "ค่ะหล่อ แล้วยังน่ารักมากอีกด้วย ทำให้พี่ยิ้มได้ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ใช่ไหมคะคุณคเชนทร์" ตังเมสบตากับนัยน์ตาสีนิล ไฟยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะหุบยิ้มในพลันเมื่อคำเยินยอนั้นไม่ใช่สำหรับตน "มาๆ หอมแก้มให้รางวัล แฟนเรียวน่ารักสุดๆ" เด็กน้อยลุกไปกอดคอแล้วหอมแก้มตังเมสองฟอดใหญ่ๆ โอบกอดแนบใบหน้า มิวายเหลือบมองคนตัวโตกว่าด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "มาทำการบ้านกันดีกว่าค่ะ" "ครับ...แฟน" เรียวหอมแก้มตังเมอีกฟอด ไฟหรี่ตามอง อยากจะงับหัวเด็กแสบเสียเดี๋ยวนี้ "พี่ไฟไม่ได้เป็นแฟนพี่เมจัง เรียวเป็นพี่เมจัง แฟนเรียวสวยเนอะ เนอะๆ" เมื่อกลับมานั่งที่ เด็กน้อยยังคงยียวนอีกฝ่ายให้หัวร้อน "เด็กแสบ ฝากปลาย่างไว้กับแมวจริงๆ" ไฟเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองค้อนเรียวปะหลับปะเหลือก "ปลาย่างไร พี่ไฟอยากกินปลาย่างเหรอ ไปบอกป้านวลสิ แล้วบ้านนี้ไม่มีแมวเหมียวนะ มีแต่หนมถ้วยกับหมาดำสามตัว เปียกปูน สำลี โอเลี้ยง" เด็กน้อยเอียงคอถาม ไม่เข้าใจสำนวนที่ไฟพูดเปรียบเปรย "คุณเรียวทำการบ้านดีกว่าค่ะ" "ครับ...แฟน" เรียวกระตือรือร้นเปิดสมุดการบ้านขึ้นมาทำ และยังยียวนใส่ไฟไม่เลิก "ทำการบ้านไปเลยไอ้แสบ" "แสบเหมือนพี่ไฟแหละ" "เถียงเก่งนักนะ" ไฟยื่นมือไปบีบแก้มของเรียวจนยืดติดมือ "งืออออ พี่เมจัง พี่ไฟแกล้ง เจ็บ" เรียวร้องราวกับเจ็บปวดเสียเต็มประดา ยื่นหน้าไปใกล้ตังเมอย่างออดอ้อน ได้รับจูบเป็นการปลอบประโลม ใบหน้าเด็กน้อยปรากฏรอยยิ้มยียวนอีกครั้งเมื่อหันไปสบตากับไฟ ที่มองด้วยความหมั่นไส้ "คุณไฟ" จู่ๆ ไฟก็ลุกขึ้นยืน เดินมาหาตังเม และล้มตัวลงนอนโดยมีตักของเธอเป็นหมอน ท่อนแขนโอบสะโพกมน ซุกหน้าเข้าหาหน้าท้องแบนราบ "ไฟปวดหัวมากเลยเมจัง" "พี่ไฟแกล้ง" "แกล้งใช่ไหมคะ" "ปวดหัวจริงๆ เดินทางตั้งหลายชั่วโมง คิดถึงเมจังมาก เลยให้คุณพ่อพาไปหาเมจังที่โรงเรียนนั่นแหละ ถึงบ้านยังโดนเด็กแสบชกเอาชกเอา" ไฟพูดทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่ที่หน้าท้องของตังเม "พี่ไฟตัวอุ่นๆ ด้วยพี่เมจัง ไม่ได้แกล้ง" เรียวลุกมานั่งยองข้างๆ ใช้หลังมือเล็กสัมผัสหน้าผากของไฟ รับรู้ถึงไอร้อน ตังเมใช้หลังมือสัมผัสไปในตำแหน่งเดียวกัน "พี่ไปเอายาให้" "ไม่เอา ไฟไม่ชอบกินยา นอนพักเดี๋ยวก็หาย ขอนอนตักเมจังนะ" "อยากนอนก็นอนค่ะ" "เมจังเกาหลังให้ไฟได้ไหม" "ค่ะ" ตังเมมองคนบนตักด้วยสายตาเอ็นดู เพิ่งจะโต้เถียงกับเรียวแท้ๆ จู่ๆ ก็เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง ดวงตาปรอยปรือจะหลับเสียให้ได้ "แบบนี้เรียกหมดสภาพใช่ไหมครับพี่เมจัง" "คงแบบนั้นค่ะ" "ขอนอนเอาแรงก่อนนะไอ้แสบ แล้วจะเปิดศึกด้วยต่อ เรื่องระหว่างเรายังไม่เคลียร์นะ" ไฟอยู่ในอาการง่วงงุนเนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และร่างกายยังปรับจังหวะเวลาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมไม่ได้ เมื่อครั้งไปถึงแคนาดาไฟก็มีอาการเจ็ทแลค กว่าจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร "บ่นงึมๆ งำๆ อะไรของพี่ไฟ ไม่ไหวๆ ทำการบ้านดีกว่า" เด็กน้อยส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ได้ยินที่ไฟพึมพำไม่ถนัด ก่อนจะตั้งใจทำการบ้าน "ไฟมีเรื่องจะคุยกับเมจัง ตื่นแล้วจะคุยด้วยนะ คิดถึงเมจังมากเลยรู้ไหม ร้องไห้ทุกวันเลย แต่ไม่อยากให้เมจังเห็น ขอโทษนะ ไฟขอโทษ จะไม่ทำให้เมจังร้องไห้อีกแล้ว สัญญา....." มือบางยังคงทำหน้าที่เกาหลังให้เด็กหนุ่มที่ปากยังขยับเอื้อนเอ่ยเสียงพึมพำ แต่ตังเมก็พอจะจับใจความ และมาปะติดปะต่อได้ นัยน์ตาของเธอแฝงรอยยิ้ม แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านประตูบ้านกว้างที่เปิดแง้มไว้ ม่านสีขาวปลิวสะบัดตามแรงลมพร้อมแสงจ้าตกกระทบดวงตาที่ปิดสนิท กระทั่งเปลือกตาคู่คมค่อยๆ เปิดขึ้น กะพริบถี่ๆ ยามแสงอุ่นในยามเช้าแยงตา ไฟพยุงกายขึ้นนั่ง กวาดสายตามองไปรอบๆ พบว่าตนอยู่เพียงคนเดียวตรงตำแหน่งเดิมที่เด็กน้อยจอมแสบนั่งทำการบ้าน ตักนุ่มก็มีหมอนมาแทนที่ พร้อมผ้าห่มสีขาวสะอาดตาที่คลุมกาย "หลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเรา" ไฟยกมือขึ้นไปบีบนวดต้นคอตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าขับไล่ความง่วงงุนที่ยังเหลืออยู่ "ตื่นแล้วเหรอไฟ" ไฟเงยหน้ามองตามเสียงหวานที่คุ้นเคย "ครับคุณแม่ แล้ว....." "พี่เพลงกับพี่ตังเมไปปัจฉิมตั้งแต่เช้าแล้ว ต้องเตรียมการแสดงบนเวทีด้วย" "อ๋อครับ" "ไฟไปอาบน้ำ จะได้กินอาหารเช้า ทุกคนกินกันหมดแล้ว เหลือไฟอยู่คนเดียวนี่ละ" ยี่หวาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน พลางเก็บที่นอนให้ลูกชาย "ไฟเก็บเองครับ คุณแม่รู้ไหมครับว่าพี่เพลงกับเมจังแสดงกี่โมง" "หลังปัจฉิมเสร็จ ก็น่าจะเหมือนกับทุกๆ ปีนะ" "ตอนนี้เก้าโมง ก็น่าจะขึ้นเวทีประมาณสิบเอ็ดโมง ไฟไปอาบน้ำก่อนนะครับ ขอบคุณครับที่เก็บที่นอนให้" ไฟเหลือบตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ก่อนจะผลุนผลันออกไปเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหอมแก้มคนเป็นแม่ "อะไรของลูกคนนี้ ไฟ! ระวังตกบันได ไฟเอ้ย" ยังไม่ทันขาดคำ ไฟก็ล้มคะมำอยู่หน้าบันไดทางขึ้น แต่ก็ลุกขึ้นโดยเร็ว วิ่งขโยกเขยกไปยังบ้าน คนเป็นแม่ถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา "ไทเกอร์ นายจะไม่บอกตังเมจริงๆ เหรอ" เจไดเอ่ยถามเมื่อมีโอกาสอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ หลังจากพิธีปัจฉิมนิเทศจบลง และกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของความครื้นเครงกับการแสดงมินิคอนเสิร์ตบนเวที "ไม่ใช่ไม่กล้านะ แต่กลัวเสียตังเมไป เรายังมีเวลาอีกเยอะที่จะทำให้ตังเมรู้ความรู้สึกที่เรามี นายเองก็ไม่ต่างจากเราหรอก" "ต่างสิ เพลงกำลังหมั้น" เจไดพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "รู้ว่าเพลงกำลังหมั้น แต่ก็ยังจะรักเพลง แถมจะตามเพลงไปเรียนต่อแคนาดาอีก ทำไมไม่ตัดใจ" "ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ ได้คอยดูแลเท่าที่จะทำได้ ขอแค่ได้เห็นเพลงยิ้ม สถานะไหนก็ยอม" "รักของนายช่างบริสุทธิ์" "แล้วรักของนายล่ะ นายก็รู้ว่าไฟรู้สึกยังไงกับตังเม" "ไม่มีอะไรแน่นอน ความใกล้ชิดอาจทำให้เราชนะใจตังเม อยู่ที่ตังเมเท่านั้นว่าจะเลือกใคร ไปกันเถอะ ใกล้ได้เวลาขึ้นเวทีแล้ว ไปช้าเดี๋ยวแม่เพลงได้บ่นหูชา" ไทเกอร์ว่า "อืม" เจไดพยักหน้า แล้วทั้งคู่จะออกไปจากห้องน้ำของโรงเรียน ก่อนที่ร่างสูงของเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีทั้งสี่คนจะก้าวออกมาจากห้องน้ำคนละห้อง "จะเปิดศึกกันเหรอพี่ไทเกอร์" แววตาของเด็กหนุ่มดุจเปลวไฟที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่างให้วอดวายจนหมดสิ้น เฉกเช่นนามของเขา...เพลิงกัลป์ เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อการแสดงมินิคอนเสิร์ตของวง TXRBO วงดนตรีประจำโรงเรียนจบลง และการแสดงครั้งนี้ถือเป็นการแสดงส่งท้าย เพราะหัวหน้าวง นักดนตรี และนักร้องประจำวง ได้จบการศึกษาในปีนี้แล้ว หลังจากทุกคนลงจากเวที เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นระลอกใหญ่กับการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา อดีตนักดนตรีประจำวง TXRBO อย่าง ดิน น้ำ ลม และไฟ วันนี้มีการสลับตำแหน่งการเล่น ดินเป็นมือกลองแทนไฟ ส่วนไฟเป็นมือเบส เพราะวันนี้จะควบตำแหน่งนักร้องนำด้วย ส่วนน้ำกับลมเป็นมือกีตาร์เหมือนอย่างเคย เมื่อทุกอย่างพร้อมการแสดงดนตรีของแฝดสี่ก็เริ่มขึ้นกับบทเพลง ลมหายใจ เพลงรักที่ทำให้คนฟังรู้สึกอิ่มใจ "แย่งซีนกันเหรอ" เพลงว่าน้องชายทั้งสี่คนที่ก้าวลงจากเวทีอย่างไม่จริงจัง "เปล่านะพี่เพลง คนมันหล่อเลยได้ซีนแบบช่วยไม่ได้" ไฟพูดพร้อมไหวไหล่เบาๆ ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ "ไม่คิดเลยนะว่าไฟก็ร้องเพลงเพราะ" เฟรย่าเอ่ยขึ้น ด้วยไม่เคยได้ยินเสียงร้องของไฟ หรือแม้แต่ดิน น้ำ ลม ก็ไม่เคยร้องเพลงให้ได้ยิน "ปกติไฟไม่ค่อยชอบร้องเพลงน่ะพี่เฟรย่า แต่วันนี้อยากร้องให้เมจังฟัง ...เธอคือลมหายใจ เธอคือทุกอย่าง จะรักเธอไม่มีวันจาง ไปจากใจ" ไฟขับร้องเป็นท่วงทำนองเมื่อยืนต่อหน้าตังเม พร้อมดอกไม้ที่นำมาให้เธอ ดอกไม้ที่ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้งถึงกับพูดไม่ออก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม