ณ ตำหนักของอดีตเทพเทียนซือ
เทพธิดาเจียลี่กลับมาตำหนักเก่าที่เคยพำนักอยู่สมัยก่อนตั้งแต่นางถือกำเนิดขึ้นมา บัดนี้บนสวรรค์ชั้นฟ้ามิมีผู้ใดกล้ารังแกนางอีกแล้ว เพราะได้รับความคุ้มครองจากองค์ราชาสวรรค์ ตำหนักแห่งนี้เลยกลายเป็นของนางอย่างไม่เป็นทางการเพราะนางยังคงมีความดีความชอบอยู่ไม่น้อย
ตำหนักเทียนซือแห่งนี้ตั้งห่างออกมาจากตำหนักอื่นสักหน่อย ตัวของตำหนักตั้งลอยเด่นสง่าอยู่บนชั้นฟ้า ล้อมรอบไปด้วยปุยเมฆสีขาวตัวเรือนของตำหนักประดับไปด้วยดอกไม้บุปผาของสวรรค์มากมายหลากสีสัน ด้วยฝืมือการเพาะปลูกของนางเอง ตำหนักเทียนซือนั้นค่อนข้างจะเงียบเหงาเพราะมีนางอยู่กับเซียนรับใช้ผิงผิงที่เป็นเผ่าดอกไม้เหมือนกันกับนางเพียงสองคนเท่านั้น
บัดนี้เทพธิดาเจียลี่กำลังนางกำลังนั่งคัดตำราอยู่ตรงโต๊ะไม้หน้าตำหนักอย่างเพลิดเพลิน วันนี้นางสวมใส่อาภรณ์สีขาว บนศีรษะของนางประดับไปด้วยมงกุฏไข่มุกเหมือนที่จ้าววิหคเฉินฟานอี้เคยให้นางสวมใส่ตอนอยู่แดนวิหค
เซียนรับใช้ผิงผิงเดินถือถาดน้ำชาเข้ามาวางบนโต๊ะกลิ่นหอมของชาทำให้เจียลี่หันไปมองอย่างกระหาย ผิงผิงมองผู้เป็นนายพรางครุ่นคิดแต่ก่อนนั้นใบหน้าของนางฉายไปด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่บัดนี้ใบหน้าของเทพธิดาเจียลี่นั้นดูเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลาทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย
"วันนี้ท่านขยันคัดตำราแต่เช้าเลยนะเจ้าคะ"
"ข้านอนไม่หลับน่ะผิงผิง เลยออกมาหาอะไรทำแก้เบื่อเสียสักหน่อย"
กล่าวพรางวางพูกันลงแล้วยกกาน้ำชาเทใส่จอกน้ำชาที่กำลังร้อนจนควันโขมงส่งกลิ่นหอมของดอกไม้ขึ้นมาจิบ
"หืม...ชานี้รสชาดดียิ่งนัก...ชาดอกอะไรกัน?"
"ดอกกุ้ยฮวาที่ท่านชอบ..เหตุใดลืมกระทั่งดอกกุ้ยฮวาแล้วเจ้าคะ...ท่านหายไปเสียนาน..กลับมาคราวนี้ท่านจะไปที่ใดอีกหรือไม่..อย่าลืมพาข้าไปด้วยนะเจ้าคะ"
"คงไม่แล้วล่ะผิงผิง...ข้าอยากอยู่สงบๆที่นี่..เป็นเทพเซียนธรรมดามิต้องเก่งแย่งชิงดี หรือพยายามเลื่อนขั้นเซียนตัวเองจนโดนกลั่นแกล้งเหมือนแต่ก่อนแล้ว"
"ท่านดูใจเย็นลงมาก"
"บางครั้งการที่ข้าได้ออกไปภายนอก..มันก็ทำให้ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายในยุทธภพทั้งหกแดนนี้ เรียนรู้ที่จะอดทนโดยเฉพาะเรื่องของความรักความใคร่"
"ท่านมีความรักอย่างนั้นหรือ ข่าวลือที่ว่าท่านถูกองค์ชายหลินหยางปฏิเสธความรักจริงหรือไม่เจ้าคะ ข้าแอบไปได้ยินพวกเซียนรับใช้กล่าวนินทาซุบซิบเรื่องนี้กัน ยังโมโหแทนท่านอยู่เลยเจ้าค่ะ"
"จริงกระมัง..แต่ช่างเถิดใครจะกล่าวหาว่าอย่างไรก็ช่าง..ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็คือเรื่องจริงหรือมิใช่เรื่องจริงก็ช่าง..ข้ามิอยากจะไปตามแก้ตัวกับผู้ใด"
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ทีไร หัวใจของนางก็เจ็บแปลบจนจะขาดใจตายทุกครั้งไป แม้นว่าตอนนี้นั้นเหมือนว่าทำใจได้บ้างแล้ว แค่เพียงได้แอบมององค์ชายหลินหยางอยู่ห่างๆในทุกๆวันก็เป็นที่พอใจแล้ว การที่นางตื่นเช้าทุกวันเนื่องจากว่า ไปแอบมองร่างงามสง่าขององค์ชายหลินหยางที่ออกมารับแสงอาทิตย์ในทุกๆเช้า เขาดูแข็งแรงและสง่างามขึ้นมาก แม้จะมิได้เป็นคนเก่าเพียงแต่เขามีความสุขนางก็พลอยมีความสุขไปด้วย
เสียงกระดิ่งวิเศษกระทบกับพลังเซียนดังขึ้นมาในทันใด แสดงว่ามีผู้มาเยือนในตำหนัก
กุ่งกิ่ง!
ปรากฏร่างขององค์ชายรัชทายาทเหว่ยหลี่หยางในชุดงามสง่าสีขาวเช่นเดิม รอยยิ้มของเขาปรากฏอยู่บนใบหน้าเมื่อเจอเทพธิดาเจียลี่ ในมือเรียวนั้นถือพัดโบกไปมา
"ถวายบังคมเพคะองค์รัชทายาท"
"มิต้องมากพิธีหรอกเจียลี่ ข้ากับเจ้าเป็นเหมือนสหายสนิทกัน"
"มิได้หรอกเพคะ..หม่อนฉันเป็นเพียงเซียนฐานะอันต่ำต้อยมิอาจเทียบเคียงเทพที่มีฐานะอันสูงส่งเช่นองค์ชาย"
"เจ้าอย่าได้คิดมากไป...ข้ามาวันนี้เพราะเสด็จพ่อให้ข้ามาตามเจ้าไปเข้าเฝ้าในวันพรุ่งนี้ยามเฉิน"
"องค์ชายพอจะรู้หรือไม่เพคะว่าองค์ราชาจะให้ข้าไปเข้าเฝ้าเรื่องอันใด?"
"อืม..ก็คงจะเป็นเรื่องวันก่อนที่โลกมนุษย์..เสด็จพ่อคงจะมีรางวัลให้เจ้ากระมัง"
กล่าวพรางนั่งลงข้างๆเทพธิดาเจียลี่
"น้ำชาเพคะองค์ชาย"
เทพธิดาเจียลี่รินน้ำชาใส่จอกให้องค์ชายเหว่ยหลี่หยางพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้า แม้ว่าแววตานั้นจะแฝงไว้ด้วยความเศร้าหมองแต่เหมือนนางจะพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ข้างในแต่ก็มิอาจปิดบังสายตาขององค์ชายเหว่ยหลี่หยางได้แม้แต่เพียงนิด สายตาขององค์ชายเหว่ยหลี่หยางยังคงจับจ้องมองมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อนางในดวงใจอยู่เสมอ
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"
"หม่อมฉันสบายดีเพคะ.."
"ข้าหมายถึงเรื่องของท่านพี่ของข้า"
"หม่อมฉันลืมเรื่องนั้นไปแล้วเพคะองค์ชาย.."
"ข้ารู้ว่าเจ้ามิได้ลืมเลือนท่านพี่ของข้า ข้าจะพยายามหาวิธีให้ท่านพี่หลินหยางจำเจ้าได้...เพราะลูกในครรภ์ของเจ้าจะต้องมีพ่อนะเจียลี่"
"ลูกในครรภ์?"
"ข้าสัมผัสได้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตในท้องของเจ้า...และนี่ความพิเศษของข้า..เพียงได้สัมผัสกลิ่นไอของเจ้าข้าก็รับรู้ได้ทุกอย่างเจ้ามิต้องปิดบังข้าหรอกเจียลี่"
"เอ่อ..หม่อมฉัน...."
"ข้าจะบอกให้เสด็จพ่อจัดงานแต่งของเจ้ากับท่านพี่..."
"องค์ชายเพคะ...อย่าเลยมันจะทำให้องค์ชายหลินหยางลำบากใจ..และอย่าให้องค์ชายจำข้าได้เลยเพคะ..หากองค์ชายหลินหยางจำข้าได้..ก็จะจำตนเองตอนเป็นจอมมารได้..นั่นก็หมายถึงความเจ็บปวดของขององค์ชายหลินหยาง..หม่อมฉันเพียงต้องการให้องค์ชายมีความสุขต่อไปเพคะ!"
เทพธิดาเจียลี่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าพร้อมกับลูบท้องเบาๆ บัดนี้นางตั้งครรภ์อยู่ก็จริงแต่ทว่ามิอยากเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการแต่งงานเข้าตำหนักขององค์ชายหลินหยาง
"เจ้าอย่าลืมนะ เด็กคนนี้คือเลือดเนื้อของท่านพี่และเป็นหลานของข้า..และมีฐานะเป็นถึงองค์ชายหรือองค์หญิงน้อยของสวรรค์ชั้นฟ้า..อย่างไรเสียข้าก็ต้องบอกเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ"
"องค์ชาย.."
เทพธิดาเจียลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นทีเรื่องนางตั้งครรภ์นั้นคงจะปิดไว้มิได้เสียแล้ว มันรู้สึกอึดอัดใจเสียเต็มประดากับเรื่องนี้ ส่วนองค์ชายรัชทายาทนั้นแม้นเดิมทีแล้วจะหลงรักนางเพียงใดก็ตาม แต่ในเมื่อนางมิได้รักตอบก็ไม่เคยคิดที่จะแย่งชิงมาเป็นของตน ถึงแม้ตอนนี้ภายในใจจะเจ็บปวดกับเรื่องนี้เพียงใดก็ตาม
ทุกการสนทนาของเทพธิดาเจียลี่และองค์ชายเหว่ยหลี่หยางมีบุคคลที่สามที่ยืนอยู่หน้าตำหนักได้ยินทุกการสนทนาทุกถ้อยคำ คราแรกนั้นเขาเพียงแค่จะมาเยี่ยมองค์เทพเทืยนซือ(ซึ่งองค์ชายยังไม่รู้ว่าเทพเทียนซือนั้นดับขันค์ไปแล้ว) แต่ทว่ายังมิทันได้เข้าไปแต่อย่างใด ก็ได้ยินการสนทนาของทั้งคู่จนหมดสิ้น
'นางคือคนรักของจ้าววิหคซึ่งก็เป็นตัวของข้าในตอนนั้นเองเช่นนั้นหรือ..แล้วบุตรในครรภ์ของนางก็คือลูกของข้า'
อย่าขำเสียงกริ่งวิเศษของไรท์นะคะ?ไม่รู้ว่าจะเขียนอธิบายยังไงใครรู้ช่วยแนะนำด้วยนร้า