หากย้อนเวลากลับไปได้ ปัณณิกาจะขอถอนคำพูดที่ว่าให้เขาทำกี่รอบก็ได้จนกว่าจะพอใจ เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดจึงถูกกอดรังแกจนถึงเช้า ผิวกายที่อยู่ใต้ร่มผ้ามีรอยจูบและกัดประทับเอาไว้จนทั่ว โดยเฉพาะหน้าอกที่เขาชมว่าทรงสวยมาก ซึ่งเธอเองก็คิดว่า ‘คุณ’ แค่ต้องการปลอบใจกัน
หลายคำที่หลุดออกจากปากเขาล้วนทำปัณณิการู้สึกดี แต่บางคำก็ทำให้รู้สึกอายจนไม่กล้ามองหน้า เขาชมว่าปากนุ่ม ๆ ของเธอทำหน้าที่ได้ดีและขยับเอวเก่งกว่าที่คิดไว้มาก โชคดีที่ครั้งหลัง ๆ เขายอมใช้เจลหล่อลื่นเข้าช่วย ทำให้ปัณณิกาไม่ทรมานมากนัก
ทว่าพอเธอได้ยินเขารับโทรศัพท์ในยามฟ้าใกล้สาง ปัณณิกาก็รู้สึกปวดร้าวในใจขึ้นมาทันที
“คิดถึงครับ ว่าแต่ทำไมคุณลดาถึงโทร. มาแต่เช้านักล่ะครับ” ความเงียบในห้องทำให้เสียงที่ตอบกลับดังชัดมากพอสำหรับปัณณิกาที่กำลังนอนหมดแรงอยู่ ผู้หญิงที่อยู่ปลายสายทำเสียงอู้อี้แล้วบอกว่าต้องตื่นขึ้นไปใส่บาตร เพราะวันนี้คือวันคล้ายวันเกิดของเธอ
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับ ผมขอให้คุณลดามีความสุขมาก ๆ แล้วไว้เจอกันนะครับ” เขาวางสายก่อนจะลุกไปแต่งตัว ปัณณิกาจำต้องแกล้งหลับ เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง เธอสัมผัสได้ว่ามือหนาลูบศีรษะเบา ๆ ก่อนจะขยับผ้าห่มคลุมร่างให้ และไม่นานก็มีเสียงปิดประตูห้อง
คุณที่ปัณณิกาไม่รู้จักชื่อกลับไปแล้ว เขาไม่เหมือนกับที่เธอจินตนาการไว้เลยสักนิด แรกเริ่มดุดันจนเธอเจ็บแทบจะขาดใจ แต่พอเขารู้ว่าเธอไม่ช่ำชองก็ค่อย ๆ ทำทุกอย่าง ไม่ได้เร่งรัดอะไรอีก
ข้อมูลหลายอย่างที่เธอได้มาจากลิตาดูจะไม่ค่อยถูกต้องนัก เขาบอกว่าไม่อยากให้เธอสวมชุดนอนเซ็กซี่ แค่เสื้อยืดตัวหลวมกับแพนตี้สักตัวก็ใช้ได้แล้ว และอีกเรื่องคือเขาไม่ได้แวะมา ‘พักผ่อน’ แค่สองสามชั่วโมง ทว่านอนค้างจนถึงเช้า นับดูแล้วอยู่ด้วยกันเกือบสิบชั่วโมงเลยทีเดียว
ปัณณิกาบอกตัวเองว่าคุณแค่ไม่ต้องการให้เธอรู้สึกแย่ เพราะเมื่อคืนจนถึงเช้าก็เป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกผลักตกเหว ด้วยการสนทนากับปลายสายอย่างอ่อนโยนตั้งแต่เช้าตรู่
น้ำเสียงของเขานุ่มทุ้มไม่ต่างจากที่คุยกับเธอเลยสักนิด
“อีกแค่สองเดือนนิด ๆ” เธอข่มอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ร้องไห้ แม่ตีเจ็บกว่านี้มากยังไม่มีน้ำตา กับคนแปลกหน้าก็ไม่ควรปล่อยให้เขามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกด้วยเช่นกัน
ปัณณิกาหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้ในขณะที่กำลังหลับอยู่ ทั้งยังสะอื้นเบา ๆ เรียกหาคนปลอบใจ
ทว่ากลับไม่มีใครอยู่ข้างกายเลยสักคน
หลังจากนอนยาวจนถึงบ่าย ปัณณิกาก็ปรากฏตัวอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ใจกลางเมือง นักเรียนคนโปรดของเธอเดินลงน้ำหนักขาเดียวตรงเข้ามาหา ก่อนจะพากันไปเรียนในสวนหลังบ้านเพราะวันนี้อากาศค่อนข้างดี
“พี่แก้มไม่สบายเหรอคะ หน้าซีดจัง” สาวน้อยวัยสิบแปดปีเอ่ยทักหลังจากบทเรียนประจำวันจบสิ้นลง
“เมื่อคืนพี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ” ปัณณิกากินยาแก้ไข้ตั้งแต่เช้า ตอนนี้มันเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว เธอจึงรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวจนแทบจะครองสติของตัวเองไม่ไหว
“หน้าซีดเหมือนคุณพ่อเลยค่ะ นี่เมื่อคืนคุณพ่อก็ไม่กลับบ้าน สงสัยจะอยู่กับสาว” นาราจีบปากจีบคอพูด ไม่พอใจที่บิดาหายตัวออกจากบ้านตลอดคืน แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่เด็กไม่รู้ประสาแล้ว จึงไม่เอ่ยทักท้วงผู้ให้กำเนิดต้องลำบากใจ
“นาราดูท่าจะหวงคุณพ่อมากเลยนะเนี่ย”
“หวงสิคะพี่แก้ม คุณพ่อของนาราหล่อจะตาย สาว ๆ งี้รุมตอมกันให้หึ่งเลยละค่ะ” ทว่านาราไม่ได้พูดต่อ เพราะถูกคุณครูคนสวยตีแขนเบา ๆ พร้อมกับสอนว่าไม่ควรนินทาหรือเปรียบเทียบผู้ใหญ่ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม
“อย่าลืมทำการบ้านที่พี่ให้ไว้ด้วยนะนารา” ปัณณิการีบเก็บของ ก่อนจะกดแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ให้มารับกลับคอนโดมิเนียม
“วันนี้แฟนพี่แก้มไม่มารับเหรอคะ”
“แฟน แฟนที่ไหนกัน?”
“ก็คนที่หล่อ ๆ เหมือนลูกครึ่งไงพี่แก้ม”
นาราเล่าว่าเคยเห็นหนุ่มตัวสูงและผิวขาวจัดแวะเวียนมารับปัณณิกาอยู่บ่อย ๆ และทุกครั้งที่มาก็จะสวมแว่นกันแดดสีชาพรางตัวไม่ให้ใครเห็นหน้า
“นั่นมันนายโปรด น้องชายของพี่ต่างหาก นาราก็” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนรอบตัวคิดว่าเธอกับน้องชายเป็นคู่รักกัน
ปาณัฐหน้าตากระเดียดไปทางบิดาที่เป็นลูกเสี้ยวญี่ปุ่นอเมริกันครึ่งไทย เขาจึงมีรูปร่างสูงใหญ่แบบฝรั่ง ทว่าดวงตากลับเรียวเล็กและมีเสน่ห์จนคนมองต้องเหลียวหลัง
เพราะปาณัฐมีความคล้ายบิดาทั้งหน้าตาและนิสัย ทำให้ปัทมารักลูกชายคนนี้อย่างมากและพร่ำบอกเสมอว่าเขาเกิดมาให้โชค ต่างจากลูกสาวอย่างปัณณิกาโดยสิ้นเชิง
ปัณณิกาคือตัวซวย
พอปัทมาคลอดลูกสาวที่ไม่ต้องการแล้ว เธอก็ยกให้ผู้เป็นแม่ดูแลและคบดูใจกับคนรักใหม่เพื่อให้ลืมอดีต เธอสวยจัดอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ ณัฐคุณ วัชรโยธิน หลงเสน่ห์ได้ไม่ยาก คบหาไม่ถึงปีก็แต่งงานกันและมีปาณัฐออกมาเป็นพยานรัก
ทว่าพอคุณแม่ของปัทมาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เธอก็จำต้องยอมรับเรื่องราวอดีตอย่างไม่เต็มใจและพาปัณณิกาที่อายุแค่เพียงสิบขวบเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
วันนั้นคือวันที่ความสัมพันธ์ของปัทมาและณัฐคุณเริ่มที่จะมีปัญหา
บิดาของปาณัฐไม่ใช่คนไร้เหตุผล เขาไม่พอใจเพราะถูกปิดบังเรื่องของปัณณิกาอยู่ไม่นานก็นึกเอ็นดูเด็กน้อยหน้าตาน่าสงสารและให้ความอบอุ่นราวกับตนเป็นบิดาแท้ ๆ
ณัฐคุณสอนให้ลูกชายที่อายุอ่อนกว่าพี่สาวต่างพ่อแค่สองปีให้รักและดูแลกันให้ดี แต่เรื่องที่ทำให้เขาไม่พอใจคือเรื่องที่ปัทมาชอบด่าทอและทุบตีหนูน้อยแก้มหวานทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งเขาและปาณัฐจึงต้องช่วยกันปกป้องดูแลสมาชิกใหม่อย่างสุดความสามารถและนั่นยิ่งทำให้ปัทมาไม่พอใจ
เธอกล่าวหาว่าปัณณิกามาแย่งความรัก หากโตเป็นสาวเมื่อไหร่ก็คงจะเอาพ่อเลี้ยงทำผัว เพราะเลือดชั่ว ๆ ที่ติดตัวมา
ไม่มีใครรู้ได้ว่าเรื่องที่ปัทมากล่าวหานั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะสามีที่เธอทั้งรักและหวงประสบอุบัติเหตุ ลาจากโลกไปตั้งแต่ปาณัฐอายุได้แค่เพียงสิบห้าปีและปัณณิกาถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
เพราะปัณณิกาคือตัวซวย…