ความเฉยชาของธาวิน #2

1301 คำ
รถยนต์แล่นออกไปตามเส้นทางที่เธอไม่ค่อยคุ้นเคย เคลื่อนที่ช้า ๆ ไปตามถนนของหมู่บ้านผ่านป้อมยาม เลี้ยวขวาวิ่งไปตามถนนซอยเล็ก ๆ ซึ่งสองฟากเป็นอาคารบ้านเรือนและตึกพาณิชย์ ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสายหลัก วิ่งตรงไปอีกครู่หนึ่งก็เห็นป้ายซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน คนรถจอดส่งเธอที่หน้าประตูทางเข้า โรสลินได้แต่อมยิ้มอย่างรู้สึกประดักประเดิด เพราะทุกครั้งที่เธอมากับแม่ ผู้เป็นมารดาจะขับรถเข้าไปในลานจอดแล้วก็พาเธอเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต หญิงสาวจึงไม่ค่อยชินกับการดูแลบริการ ตอนเดินซื้อของก็มีลำดวนคอยเข็นรถใส่ของคันเล็ก ๆ ตามอยู่ด้านหลัง ต้องเป็นครู่ใหญ่หญิงสาวถึงจะสามารถทำใจกับความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ได้ โรสลินเดินไปตามโซนต่าง ๆ ทั้งผักสด เนื้อสด ค่อย ๆ เลือกทุกอย่างด้วยความพิถีพิถัน ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เดินทางกลับ ซึ่งโรสลินได้วัตถุดิบทุกอย่างมาครบตามที่ต้องการ ลำดวนถือวัตถุดิบทั้งหมดเข้าไปในครัว โดยมีสาวใช้อีกคนเข้ามาช่วยถือของ เนื่องจากโรสลินเพิ่งเคยเจอกับสาวใช้อายุน้อยคนนี้ ถึงได้พูดคุยถามไถ่สักหลายคำ และได้รับรู้ว่าสาลี่เป็นหลานของลำดวนนั่นเอง สาลี่ยังเด็กและค่อนข้างช่างคุยจึงตามไปเรียนรู้วิธีการทำอาหารด้วย ฝ่ายลำดวนเห็นว่ามีคนช่วยงานคุณผู้หญิงแล้ว ตนจึงไปทำงานอย่างอื่น โรสลินพาสาลี่ล้างมือและใส่ผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อย ก่อนที่เธอจะเริ่มลงมือทำอาหาร “แกงเทโพเป็นแกงกะทิแบบเผ็ด เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือกะทิ ต้องตั้งไฟให้เดือดแล้วค่อยใส่เครื่องแกงลงไปผัดให้แตกมันนะ” โรสลินบอกวิธีการทำแกงเทโพให้กับสาลี่ฟัง โดยที่สาลี่ก็ปฏิบัติตามอย่างไม่อิดออด พร้อมทั้งเรียนรู้ไว้เป็นวิชาติดตัว “เสร็จแล้วเราก็เอาหมูสามชั้นที่หั่นพอดีคำไว้แล้วเนี่ย ใส่ลงไปเคี่ยว ให้น้ำแกงมันซึมเข้าไปในเนื้อ เวลาเรากิน ทุกคำจะได้มีรสชาติของน้ำแกงเข้มข้น” บอกลูกมือของตนแล้วเริ่มทำให้ดูเป็นตัวอย่าง สาลี่ก็ปฏิบัติตาม “มะกรูดนี่เราจะใส่เป็นลูก ๆ อย่างนี้เลยเหรอคะ” สาลี่มองด้วยความตกใจเมื่อเห็นโรสลินหั่นมะกรูดเตรียมไว้แบบหนึ่งลูกสองซีก “ใช่แล้วจ้ะ ตรงผิวมะกรูดเนี่ยมันมีต่อมน้ำมัน ทำให้กลิ่นแกงหอม แถมยังแก้ท้องอืดได้ด้วยนะ”อธิบายเหตุผลไปแล้วยื่นให้กับสาลี่เพื่อนำใส่ลงในหม้อ หลังจากทำเมนูแรกเสร็จ โรสลินจึงทำเมนูอาหารที่เหลือ เธอตำกระเทียมพริกไทยและรากผักชีเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องหมักกระดูกหมู ในระหว่างที่รอเครื่องซึมเข้าเนื้อ เธอก็ผสมหมูบดกับวุ้นเส้นและแคร์รอตหั่นเต๋าเพื่อทำเป็นไส้ในเมนูมะระยัดไส้ โรสลินใช้เวลาอยู่ในครัวเพื่อทำอาหารทั้งสามเมนูอยู่นานจนกระทั่งถึงห้าโมงครึ่ง จากนั้นเธอบอกกับสาลี่ว่าถ้าธาวินเดินทางกลับมาถึงแล้ว ให้ช่วยนำอาหารขึ้นโต๊ะให้ด้วย เอ่ยจบเสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นทำให้เธอต้องหันไปกดรับ หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเป็นสายเรียกเข้าจากผู้เป็นแม่ “ฮัลโหลค่ะแม่...” โรสลินตอบกลับเสียงสดใส “เป็นยังไงบ้างลูก เมื่อคืน หลับฝันดีมั้ยจ๊ะ”​ คุณนายสร้อยสุดาถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเนื่องจากน้อยครั้งนักที่โรสลินจะไปไหนไกลบ้าน ครั้นได้ตบแต่งออกไปเป็นภรรยาในบ้านคนอื่น คนเป็นแม่ก็ห่วงหาอยู่ไม่น้อย แต่ฟังจากน้ำเสียงของลูกสาว เธอก็ค่อนข้างเบาใจ “โซ่สบายดีมากเลยค่ะแม่ ทุกอย่างโอเคมาก เมื่อคืนโซ่ฝันดีสุด ๆ ไปเลยค่ะ” แม้จะมีบางสิ่งไม่ชอบใจแต่เธอก็ไม่อยากให้มารดาเป็นห่วง “ฝันดีที่ว่านี่คือฝันว่าอะไรคะลูก เล่าให้แม่ฟังหน่อยเร็ว” สร้อยสุดาถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงสดใส “ฝันถึงแม่หรือเปล่าจ๊ะ” โรสลินคลี่ยิ้ม ความฝันที่จะได้เป็นคนรักของธาวิน ได้แต่งงานกับเขาและร่วมสร้างครอบครัวร่วมกัน เป็นจริงแล้ว ต่อจากนี้ เธอแค่ต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในการทำให้ชีวิตครอบครัวดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุข “โซ่... จำไม่ได้แล้วค่ะ แต่เป็นฝันที่ดีมาก ๆ เลย” หญิงสาวยังคุยกับมารดาต่ออีกหลายประโยค ก่อนจะย้ำให้สร้อยสุดาหายกังวลว่า “โซ่มีความสุขมากจริง ๆ ค่ะแม่ พี่ภีมดูแลโซ่ดีมากเลย โซ่รักแม่นะคะ รักมาก ๆ รักที่สุดเลย คิดถึงมากด้วยค่ะ” หลังกดวางสาย เธอจึงเดินออกไปชะเง้อชะแง้มองไปทางประตูบ้าน เผื่อว่าธาวินจะกลับมาแล้ว …. ท้องฟ้าด้านนอกกลายเป็นสีดำเข้มนานแล้วกว่าธาวินจะละจากงานตรงหน้า เมื่อมองจากหน้าต่างห้องทำงานจะเห็นเพียงแสงไฟระยิบระยับตามอาคาร ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะก่อนเอนตัวพิงพนักคล้ายต้องการผ่อนคลายความเมื่อยล้า ไม่ต้องรอนานก็มีเสียงตอบรับ (“ครับเจ้านาย”) ปลายสายคือเสียงของกันตพงษ์ หรือกันต์ เลขานุการคนสนิทของธาวิน ซึ่งควบทั้งตำแหน่งมือขวาและคนขับรถ เขาเป็นคนที่ทำหน้าที่คอยดูแลและตามใจธาวินทุกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง บวกกับอยู่ด้วยกันมานานหลายปี นั่นทำให้กันตพงษ์ได้กลายเป็นลูกน้องคนโปรดและลูกน้องคนสนิทมากที่สุด “เตรียมรถด้วย ฉันจะไปหาแนนนี่” (“แต่คุณภีมเพิ่งแต่งงาน...”) “เดี๋ยวนี้แกกล้าขัดคำสั่งฉันแล้วเหรอวะ” น้ำเสียงขุ่นมัวนั้นบ่งบอกระดับความหงุดหงิดของเจ้านายหนุ่ม ทำให้กันตพงษ์ต้องกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ (“ไม่กล้าครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”) หลังวางสาย เขาจึงลุกขึ้นและหยิบเสื้อสูทขึ้นสวม จัดแต่งให้เข้าที่เล็กน้อยจากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า พร้อมก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปด้านนอก เดินตรงไปที่ลิฟต์ เมื่อเข้าไปอยู่ด้านในก็กดเรียกชั้นที่จอดรถ ขณะออกจากลิฟต์เป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์สีดำคันหรูเคลื่อนมาจอดเทียบ กันตพงษ์กระวีกระวาดลงจากรถยนต์ไปเปิดประตูที่นั่งตอนหลังให้ผู้เป็นเจ้านาย และต่อมาสารถีก็เหยียบคันเร่งบังคับให้รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เส้นทางจากอาคารสำนักงานของบริษัทคอมฟี่มีเดียไปสู่คอนโดมิเนียมอันเป็นรังรักของเขาและนางแบบสาวชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศมีระยะห่างประมาณครึ่งชั่วโมง กันตพงษ์ก็ยังเหยียบคันเร่งให้ไวขึ้นไปอีกเพื่อที่จะได้ไปถึงยังที่หมายไวขึ้น โชคดีที่ตลอดทางรถไม่ค่อยติดมากให้ต้องรำคาญใจเล่น อาจเพราะพ้นช่วงหัวค่ำมาแล้ว รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ธาวินหันไปบอกให้คนขับเลิกงานได้ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็ว มือขวาหนุ่มทิ้งตัวลงพิงเบาะคนขับก่อนจะถอนหายใจออกมา “น่าสงสารคุณผู้หญิงจริง ๆ” ฝ่ายธาวินใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าสู่อาคาร จากนั้นขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นปลายทางขณะเดียวกันก็กดส่งข้อความหานางแบบสาวคู่ควงคนโปรดเพื่อบอกจุดประสงค์ในการเดินทางไปหา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม