ธาวินเมื่อได้หันมาเห็นเจ้าสาวของตนมีหยดน้ำตาลงมาก็ส่งนิ้วโป้งไปเกลี่ยให้อย่างอ่อนโยน เสียงทุ้มเอ่ยปลอบขวัญคนรักทันที “อย่าร้องไห้เลยนะครับโซ่ คนดีของพี่”
“ฮึก... ก็โซ่มีความสุขนี่คะ ขอบคุณนะคะพี่ภีม”
“ขี้แยของพี่ยังเหมือนเดิมเลยนะครับ” ธาวินว่าแล้วลูบศีรษะของโรสลินไปเบา ๆ หลังจากคลิปวิดีโอฉายจบก็ถึงเวลาที่คู่บ่าวสาวจะต้องขึ้นไปบนเวทีเพื่อพูดความในใจที่มีต่อกัน
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน” ธาวินเป็นฝ่ายพูดก่อน “ผมต้องขอขอบคุณท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้มาร่วมงานมงคลของผมและเจ้าสาวสุดที่รักของผมในวันนี้ ผมรู้สึกดีใจและรอคอยวันนี้มาอย่างเนิ่นนาน ในวันนี้ผมมีหน้าที่และมีความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น เป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิตที่ผมยินดีและเต็มใจที่จะรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้หญิงคนนี้ ชีวิตของโรสลิน ผมขอให้สัญญาไว้ ณ ที่นี้ว่า ผมจะรักและดูแลโรสลินไปชั่วชีวิต ผมจะไม่มีวันทำให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะผมแม้แต่ครั้งเดียว ผมขอขอบคุณคุณพ่อทัพรุจและคุณแม่สร้อยสุดาที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูให้ความรัก ความเอาใจใส่ ตลอดจนส่งเสริมให้โรสลินได้มารักกับผมในวันนี้ โซ่ครับ พี่ภีมรักโซ่มาก ๆ นะครับ พี่สัญญา ว่าพี่จะรักโซ่เพียงคนเดียวตลอดไปครับ” ธาวินเอ่ยคำกล่าวทั้งหมดออกมาก่อนจะหอมแก้มของคนรักเบา ๆ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแซวของญาติผู้ใหญ่ข้างล่าง
โรสลินรับไมโครโฟนต่อมาจากเจ้าบ่าวแล้วก็เอ่ยต่อด้วยเสียงสั่นเครือ “สวัสดีค่ะ... ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่มาก ๆ ที่ให้กำเนิดโซ่มา ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้ความรัก ให้ความอบอุ่นกับโซ่มาตลอด ทำให้โซ่รู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ ถ้าไม่มีพ่อกับแม่โซ่ก็คงไม่มีวันนี้ ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ สำหรับพี่ภีม โซ่อยากจะบอกว่า โซ่รักพี่ภีมมาก รักมาตั้งแต่เด็ก ๆ วันนี้ วันที่เราสองคนแต่งงานกัน โซ่แทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นความจริง โซ่ขอให้สัญญาว่า โซ่จะเป็นภรรยาที่ดี เป็นคุณแม่ที่ดีในอนาคต และจะซื่อสัตย์กับพี่ภีม รักและมีแค่พี่ภีมคนเดียวตลอดไป”
กล่าวจบโรสลินก็สวมกอดเจ้าบ่าวของตนด้วยความรู้สึกตื้นตัน เป็นจังหวะเดียวกับเสียงปรบมือและเสียงร้องแสดงความยินดีซึ่งดังมาจากข้างล่างเวที ทั้งสองกอดกัน ถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีต่อกันจนกระทั่งพิธีทั้งหมดในการแต่งงานเสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อย
ตอนนี้โรสลินเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของธาวินอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะทั้งสองได้ทำการจดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อตอนเช้า
บนห้องพักโรงแรมชั้นบนสุดคือสถานที่ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ในทีแรกทั้งสองครอบครัวตกลงปลงใจกันแล้วว่าจะให้เข้าหอที่บ้านเจริญกิจธารา หรือไม่ก็ต้องเป็นคฤหาสน์ของตระกูลอรรถเศรษฐากุล หากทว่าธาวินกลับดื้อดึงและให้เหตุผลว่าโรงแรมที่จัดงานเย็นกับคฤหาสน์นั้นไกลกันมาก ให้พาโรสลินกลับก็สงสารกลัวว่าจะเหนื่อยขอเข้าหอที่โรงแรมเลยดีกว่า
พ่อแม่ของทั้งคู่ได้ฟังแล้วก็คิดว่ามีเหตุผล อีกส่วนหนึ่งเพราะโรสลินก็เห็นดีเห็นงามไปกับสามี สองครอบครัวจึงยินยอมใช้ห้องพักสุดหรูในการทำพิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ
“พ่อฝากโรสลินด้วยนะภีม ลูกพ่อคนนี้ไม่ดื้อไม่ซน เขาเป็นคนเรียบร้อยพูดน้อยมาตั้งแต่เด็ก ๆ หัวอ่อนไม่ทันคนเท่าไหร่ ชีวิตของเขาหลังจากนี้ พ่อยกให้ภีมไปแล้ว ภีมช่วยรักษาเขาไว้ด้วยนะ” ทัพรุจเอ่ยบอกลูกเขยของตนแล้วหันมาหาลูกสาวต่อ
“โซ่ พ่อพาลูกมาส่งให้กับคนที่ลูกรักแล้วนะ หลังจากนี้พ่อกับแม่ก็อยากขอให้ลูกมีความสุขกับชีวิตคู่นะลูก” พ่อลูกสวมกอดกันแล้วสะอื้นไห้ออกมาด้วยความรู้สึกอาทร
“พ่อกับแม่ขอฝากโซ่ด้วยนะภีม” สร้อยสุดาเอ่ยสำทับก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดู “ได้เวลาเข้าหอแล้ว พ่อกับแม่ต้องไปแล้วนะลูก”
ทั้งสองก้มลงกราบแทบเท้าบิดามารดา ก่อนจะไปยืนส่งท่านถึงหน้าประตู เธอบอกลาพ่อแม่อีกเล็กน้อยก่อนปิดประตูลง
เมื่อหันกลับไปมอง โรสลินเห็นว่าธาวินกำลังถอดเสื้อสูทสีขาวตัวนอก คล้ายต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำ เธอจึงเดินตรงเข้าไปช่วยเขาทว่ากลับโดนปฏิเสธเสียก่อน
“คุณจัดการตัวเองเถอะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชากว่าเมื่อหลายนาทีก่อนจนเธอหน้าม้าน โรสลินจึงยอมถอยหลังออกมาจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง แม้การปลดตะขอชุดแต่งงานจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงกระนั้นยามเห็นท่าทีหมางเมินเหินห่างแบบแปลก ๆ ของเขา เธอกลับไม่กล้าอ้าปากเอ่ยขอให้ชายหนุ่มช่วย
ธาวินเข้าไปอาบน้ำและกลับออกมาหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาตรงไปล้มตัวนอนบนเตียงโดยไม่คิดจะหันมาสนใจเธอสักนิด หญิงสาวได้แต่มองตามขณะใช้สำลีเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า แอบนึกกังขาว่าเขาจะเข้านอนไปง่าย ๆ ทั้งที่เป็นคืนแต่งงานน่ะหรือ ถึงโรสลินจะไม่เคยคบหาเป็นแฟนกับผู้ชายคนไหน แต่เธอก็อายุสามสิบแล้วเรื่องพรรค์นี้ย่อมรู้อยู่บ้าง ยิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาแล้วเห็นเขานอนหลับสนิท หญิงสาวยิ่งขมวดคิ้ว ไม่น่าเชื่อว่าเข้าหอคืนแรกหลังแต่งงาน เธอและเจ้าบ่าวจะต้องต่างคนต่างหลับไปทั้งอย่างนี้ โรสลินนึกหงุดหงิดใจเล็กน้อยแต่จะให้เธอปลุกเขาขึ้นมาเพื่อทำเรื่องอย่างว่าก็น่าขายหน้าเกินไป หญิงสาวจึงยอมทิ้งตัวลงนอนและหลับตาลง
“โรสลิน! ตื่นได้แล้ว”
หญิงสาวเจ้าของชื่อสะดุ้งลุกขึ้นนั่งกับเสียงดังที่คล้ายลั่นอยู่ข้างหู
“ตื่นสายอย่างนี้ จะทำมาหากินอะไรได้ทัน” น้ำเสียงขุ่นเคืองแฝงความหงุดหงิดดังขึ้นอีก ส่งผลให้โรสลินต้องรีบสลัดตนเองออกจากความง่วงงุน เมื่อหันไปมองต้นตอของเสียงก็เห็นว่าสามีของเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ผมให้เวลาคุณจัดการตัวเองห้านาที”
“คะ?” โรสลินขานเสียงถามด้วยความสงสัย
“ถ้าหลังจากพ้นห้านาที คุณยังเตรียมตัวไม่เสร็จ ผมก็จะกลับบ้านโดยทิ้งคุณไว้ที่นี่”
ผู้ฟังยังมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“เหลืออีกสี่นาทีสามสิบวินาที”
ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงรีบลุกจากเตียง วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไปด้วยความว่องไว
ปกติเธอไม่ใช่คนที่อาบน้ำแต่งตัวนานอยู่แล้ว ฉะนั้นเวลาที่เขากำหนดให้จึงพอดีอย่างฉิวเฉียด ถึงกระนั้นธาวินกลับก้าวออกไปทันทีที่หมดเวลาทำให้หญิงสาวต้องรีบวิ่งตาม กระทั่งตามทันขณะที่เขาหยุดยืนรออยู่หน้าลิฟต์ หลังประตูโลหะเปิดออก ชายหนุ่มก็เดินนำเข้าไปจากนั้นจึงกดชั้นหนึ่ง