"ไม่เป็นไร เมื่อคืนฉายไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง เขายังรบกวนพวกนายเลย..."
"...ว่าแต่ เมื่อคืนฉายไปนอนกับใครมาล่ะ?!"
คำถามของฉัน มันไม่ได้เพียงแต่ส่งผลให้ใจฉันสั่น แต่มันส่งผลให้ใครบางคนออกอาการทันที
เลิ่กลั่ก ไม่นิ่ง จะให้ฉันคิดเหรอ ว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ!
"เมื่อคืนมึงไม่ได้กลับห้องงั้นเหรอฉาย?" คำถามของกอล์ฟ มันยิ่งทำให้ฉันจุกที่ในใจ ฉันตวัดสายตามองหน้าผัวตัวเองทันที รายนั้นมีสีหน้าเครียดลงจนเห็นได้ชัด แต่ไม่ทันที่ฉายจะได้ตอบอะไรทั้งนั้น อีกคนก็รีบพูดแทรกขึ้นมา
"ก็เมื่อคืนมึงบอกว่าไม่ว่างไม่ใช่เหรอวะ"
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันยังเลือกที่จะไม่พูด หากฉันพูดตรงๆ ฉันเชื่อว่าคนที่แอบทำเรื่องแย่ๆ ลับหลังกัน จะต้องโกหกฉัน มันสู้ฉันเก็บทุกอย่างเอาไว้ แล้วค่อยๆ หาคำตอบด้วยตัวฉันเองจะดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว คำตอบมันอาจจะไม่ต่างกันคือฉันเจ็บ แล้วถ้ามันจะเจ็บ ก็ให้มันเจ็บแบบจบจะดีกว่า
"เออ ลืมไป เมื่อคืนกูไม่ว่างจริงๆ..."
"...อยู่กับแฟนน่ะ" ประโยคหลังกอล์ฟบอกกับฉัน มันทำให้ฉันส่งยิ้มจางๆ กลับไป แล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องครัว
ฉายกำลังเหยียบใจฉันแบบซึ่งๆ หน้า กับเพื่อนที่พากันทำเลวๆ แบบนั้น ยังกล้าปล่อยให้มาเผชิญหน้ากับฉัน มันหน้าไม่อาย มันทุเรศสุดๆ ไปเลย
ฉันถือถุงลูกชิ้นมาเก็บในห้องครัว โดยมีฉายที่เดินมาหยิบแก้ว แล้วกอล์ฟหิ้วถุงเบียร์มาเก็บในตู้เย็น เป็นจังหวะที่ฉันเดินกลับออกมาข้างนอก และเผชิญหน้ากับจีโน่ตรงๆ
"เมื่อคืนฉายเมามากงั้นเหรอโน่?"
"...อื้อ มันดื่มหนักหน่อย ก็เลยกลับไม่ได้"
"แล้วเขาค้างที่ห้องนายงั้นเหรอ?"
ฉันมองหน้าผู้ชายที่ชื่อจีโน่ตรงๆ ก่อนที่คนที่หายเข้าไปในห้องครัวจะกลับออกมา
"เมื่อคืนฉันค้างที่ห้องไอ้โน่จริงๆ!"
แล้วเจ้าของคำตอบนั้นก็คือผัวฉัน
"เมาแล้วขับ ถ้ากลับ ก็อาจจะมีปัญหาอยู่ดี แต่ไม่ต้องห่วงนะ ทีหลังจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว" ฉันไม่ได้ตอบอะไร เลือกที่จะเดินไปคว้ากระเป๋า แล้วเดินเข้าห้องนอน
ถ้าคนมันจะโกหก มันก็คงจะพยายามโกหกต่อไปจนตลอดรอดฝั่ง ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา เขาไม่มีทางยอมรับหรอก
พอฉันกลับเข้ามาในห้องนอน ฉายก็เดินตามฉันเข้ามา
"กินข้าวก่อนไหมปาย อยากกินอะไรเดี๋ยวโทรสั่งให้"
"ฉันกินมาแล้ว นายสั่งสำหรับตัวเองเถอะ"
"โกรธเหรอ?" หมอนั่นคว้ามือฉันไปจับ และไม่อยากเชื่อเลยว่า ความรู้สึกแย่ๆ ที่ฉายทำลับหลังฉัน ส่งผลให้ฉันปัดมือนั้นออกห่างทันที
"ขอโทษได้ไหมปาย สัญญาว่าฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว"
"..."
"อย่าทำเฉยชาแบบนี้ได้ไหม ฉันอยากให้เธอกลับมาเป็นสปายของฉันคนเดิม"
"แล้วนายล่ะฉาย นายคือตะวันฉายคนเดิมของฉันหรือเปล่า ในขณะที่นายเรียกร้องคำว่าเหมือนเดิมจากฉัน นายบอกฉันหน่อยสิ ว่านายยังเหมือนเดิมกับฉันอยู่ไหม"
"ฉันรักเธอคนเดียว"
เหอะ! คำพูดนั้นทำให้ฉันถึงกับยกยิ้มออกมา ตลกว่ะ รักฉัน แล้วไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทำบ้าอะไร!
"แล้วถ้าฉันบอกนายว่าฉันยังรักแค่นายคนเดียวเหมือนกันล่ะ นายจะเชื่อฉันไหม?" น้ำตาของฉันมันคลอออกมาใหม่ ฉันไม่ได้อยากอ่อนแอหรอก แต่พอมีเรื่องอะไรมากระทบกระทั่งความรู้สึกแล้วมันมักจะเก็บเอาไว้ไม่ได้ ฉันจะเข้มแข็งเท่าที่ฉันจะทำได้ แต่ส่วนไหนมันจะเก็บและซ่อนไม่ไหว แล้วมันจะทำให้ตะวันฉายรู้ตัวฉันก็ไม่แคร์
"เธอเปลี่ยนไป สายตาที่เธอใช้มองฉันมันเปลี่ยนไป" ก็ถือว่าเขารับรู้ในสิ่งที่ฉันกำลังเป็นจริงๆ
"..."
"เธอโกรธที่ฉันไม่กลับห้องเมื่อคืน"
"ไม่ ฉันไม่ได้โกรธที่นายไม่กลับห้องเมื่อคืน วินาทีแรกที่ฉันรู้ว่านายไม่กลับ สำหรับฉันมันคือความเป็นห่วง มันทำให้ฉันย้อนกลับมามองตัวเอง ว่าการที่ฉันขอให้นายรอเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษๆ เพราะฉันต้องทำงานมันผิดเหรอ นายโกรธฉันเพราะเรื่องแค่นั้นน่ะเหรอ แต่พอฉันมาคิดๆ ดูแล้ว เรื่องแค่นั้นมันเล็กมาก มากจนไม่น่าจะสามารถทำให้ฉันและนายทะเลาะกันได้ด้วยซ้ำ..."
"...คนที่เปลี่ยนมันไม่ใช่ฉัน แต่เป็นนาย!"
ฉันมองสบตากับตะวันฉายตรงๆ จริงๆแล้วฉายเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ที่เพียงแต่มองหน้าแล้วสามารถรับรู้ความรู้สึกที่ฉันกำลังเป็นได้ เพราะความใส่ใจที่เขาเคยมี มันทำให้เขาดูออก และถ้าในตอนนี้ เขายังรับรู้ในสิ่งที่ฉันเป็นได้เหมือนในตอนนั้น ฉายจะรู้ว่าฉันกำลังเสียใจ ฉันกำลังผิดหวัง และสาเหตุมันก็เป็นเพราะเขา
"ฉันรักเธอนะปาย ฉันยังยืนยันว่าฉันรักเธอมาก" มือหนาเลื่อนมาจับมือฉัน และโน้มตัวเข้ามาหา ทำท่าจะวุ่นวายกับร่างกายของฉัน แต่ฉันเลือกที่จะปฏิเสธ ทั้งที่ผ่านมาฉันไม่เคยปฏิเสธ แม้ฉันจะยังเลือกที่จะไม่พูด แต่อย่างน้อยๆ ฉันก็อยากให้ฉายรับรู้ว่า สิ่งที่ฉันกำลังแสดงออกต่อเขา มันมีที่มาที่ไป อยากให้มันเป็นสัญญาณเตือนให้เขารู้ตัวว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นมาต่อจากนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะปล่อยผ่าน และฉันก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน
.
.
.
ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ จากนั้นคนที่พยายามปรับความเข้าใจกับฉัน ก็เดินผละออกไป ขึ้นชื่อว่าผัวเมียกัน บางคนอาจจะมองว่าเคลียร์ง่าย ต่อให้ผิดพลาดอะไรมา ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ง่ายๆ แต่นั่นมันไม่ใช่กับฉัน เพราะฉันเชื่อมาตลอดว่า หากผู้ชายที่ฉันรัก เขารักฉันมากพอ เขาจะไม่มีวันนอกใจฉันเป็นอันขาด เหมือนที่ฉันเองก็คิดว่าแม้มีโอกาส ฉันก็ไม่มีวันทำร้ายและหักหลังผู้ชายที่ฉันรักด้วยวิธีแบบนั้นเช่นกัน
ฉันนอนลืมตาอยู่แบบนั้น จมอยู่กับความคิดของตัวเองเงียบๆ จนกระทั่ง...
Lineeeee~
เสียงโทรศัพท์ที่ชาร์ทแบตอยู่บนโต๊ะภายในห้องนอน ความเงียบที่ปกคลุมในเวลานั้น ทำให้ความสนใจของฉันไปหยุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องนั้นทันที ในเมื่อโทรศัพท์ฉันวางอยู่ตรงนี้ นั่นก็หมายความว่า โทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงนั้น มันคือของฉาย
เพื่อนสนิทของเขาอยู่ที่นี่ทั้งคู่ แล้วใครล่ะ ที่เป็นเจ้าของไลน์นั้น?
ไวเท่าความคิด ฉันลุกจากเตียงเงียบๆ แล้วตรงไปยังตำแหน่งโทรศัพท์ของฉายที่วางอยู่ทันที
Lineeeee~
'เพื่อน : ส่งสติกเกอร์'
สิ่งที่ฉันเห็นแจ้งเตือนอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้ใจของฉันเต้นแรงมาก อยู่ดีๆ มือก็สั่น คำว่าเพื่อนมันน่าสงสัย แต่สิ่งที่ทำให้ฉันร้อนไปทั้งใจ นั่นก็คือการตั้งค่าลายนิ้วมือเอาไว้ ทั้งที่ผ่านมาคนอย่างตะวันฉาย ไม่เคยล็อกรหัสหน้าจอโทรศัพท์เอาไว้เลย
แม้จะเป็นการทักแช็ตที่ส่งเพียงสติ๊กเกอร์ เท่านั้น แต่สติกเกอร์ครีเอเตอร์ที่บอกชัดเจนว่าเป็นตัวแทนของผู้หญิง มันไม่สามารถทำให้ฉันนิ่งเฉย ปล่อยผ่าน ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยได้เลย
รหัสที่มาจากตัวเลขวันเดือนปีเกิด ไม่ผ่าน!
รหัสที่มาจากวันเดือนปีเกิดของฉลาม ไม่ผ่าน!
รหัสที่มาจากวันเดือนปีที่เราคบกัน ไม่ผ่าน!
รหัสจากหมายเลขโทรศัพท์ ไม่ผ่าน!
รหัสจากเลขท้ายของบัตรประชาชน ไม่ผ่าน!
สิ่งที่ฉันกำลังพยายามทำ มันบีบหัวใจของฉันแน่นมาก เพราะนอกใจกันจริงๆ ใช่ไหม ถึงต้องมีความลับ เพราะทำเหี้ยๆ ลับหลังกัน เพราะทรยศความรักของฉัน เพราะแอบไปเอากับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่มีฉัน นั่นใช่ไหมที่ทำให้เขามีความลับต่อกัน
ติ๊งงง~
และแล้ว เสียงของการใส่พาสเวิร์ดที่ถูกต้องก็ดังขึ้น ส่งผลให้โทรศัพท์ของฉายที่อยู่ในมือของฉัน พร้อมใช้งาน