ไปนอนกับใคร

1448 คำ
ทุกๆ สัมผัสที่มือหนาแตะต้องตัวฉัน จากที่ไม่เคยผลักไส ในตอนนี้มันกลับกลายเป็นความขยะแขยงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ฉันดันอกแกร่งออกห่างจนสุดแรง จากนั้นก็เดินผ่านหน้าตะวันฉายออกมา ฉันก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่จริงฉันอยากเปิดปาก อยากพูดว่าฉันเจอกับอะไรมาบ้าง อยากคาดคั้น อยากให้เขาบอกกับฉันตรงๆ ว่าเขาทำอะไรลับหลังฉันบ้าง แต่ก็พยายามเตือนตัวเองว่าถ้าฉันทำแบบนั้น ฉันอาจจะยังเป็นผู้หญิงหน้าโง่ ที่ถูกผัวสวมเขาให้แบบที่เขากำลังทำ ขนาดเราไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก่อนหน้านี้ เรื่องแบบนี้มันยังเกิดขึ้นมาได้ นั่นอาจจะเป็นเพราะฉายไม่ได้รักฉันมากพอ และถ้าฉันเลือกที่จะเปิดปากในตอนนี้ เลือกที่จะพร่ำถาม ในสิ่งที่มันทำให้ใจของฉันร้อนรุ่มเหมือนไฟ ฉันอาจจะไม่รู้เลยว่า จริงๆ แล้วธาตุแท้ของตะวันฉายมันเป็นยังไง ตอนนี้ทุกอย่างภายในใจของฉันมันสับสนมาก ทั้งที่เราเคยบอกว่ารักกัน แต่อยู่ๆ มันก็แปรผัน เหมือนเราเป็นคนที่ไม่รู้จักกันเลย "เดี๋ยวไปส่งเองปาย" "ไม่ต้อง!" ฉันตัดบทสนทนาอย่างเด็ดขาด แล้วเดินออกมาจากห้องนั้นทันที ทั้งที่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สุดท้ายในเรื่องของความรู้สึก ฉันไม่สามารถบังคับหัวใจ ทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยไม่ได้จริงๆ @เวลา 21 : 10 น. Lineeeee~ Lineeeee~ Lineeeee~ "ปาย โทรศัพท์ดังหลายครั้งแล้วนะ" ฉันเหลือบตามองโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้าเพียงนิด แล้วดึงสายตากลับมามองที่ชามก๋วยเตี๋ยวตามเดิม "ช่างมันเถอะ ฉันบอกเขาไปแล้วว่าวันนี้ฉันจะกลับเอง" ทุกๆ ข้อความที่ตะวันฉายส่งเข้ามา มันแสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ทุกครั้ง ฉันเห็นทุกๆ ข้อความ แม้จะไม่ได้เปิดอ่านแบบจริงจังก็ตาม หมอนั่นพยายามส่งข้อความเข้ามาบอกว่าจะมารับฉัน และถามว่าฉันอยู่ที่ไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันได้บอกเขาไปแล้ว ว่าฉันจะกลับเอง ไม่จำเป็นต้องลำบากใคร "จะปล่อยไว้แบบนี้จริงๆ เหรอปาย" นั่นน่ะสิ ฉันจะปล่อยไว้แบบนี้ได้นานแค่ไหน บอกตรงๆ ว่าถ้าจะให้ทำเหมือนไม่มีอะไร ปล่อยให้เขาเข้าใกล้ กอดฉัน คลอเคลียฉันเหมือนที่ผ่านมา ภาพที่เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นมันก็แทรกเข้ามารบกวนฉันอยู่ดี ฉันคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอ ก่อนจะเข้าไปที่โปรแกรมเฟซบุ๊ก เลื่อนหาเฟซบุ๊กส่วนตัวของเพื่อนสนิทตะวันฉาย นั่นก็คือจีโน่ เราเป็นเพื่อนร่วมเฟซบุ๊กกันฉันจำได้ และในตอนนี้ฉันก็อยากรู้ว่า จีโน่เป็นเพื่อนร่วมเฟซบุ๊กกับผู้หญิงที่ชื่อเหมยหรือเปล่า ซึ่งในส่วนด้านของฉายเอง ฉันเช็กเรียบร้อยแล้ว ฉายกับผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมกัน "ปาย มีอะไรหรือเปล่า กินก่อนไหม หายร้อนเดี๋ยวไม่อร่อยเอานะ" "เธอกินต่อเถอะเม ฉันกินอะไรไม่ลงจริงๆ" ฉันพยายามฝืนยิ้มให้เพื่อน และยังเห็นว่า เมยี่มองฉันอย่างห่วงใย "มีอะไรที่ฉันช่วยได้ บอกนะ ฉันพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ เธอโทรหาฉันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น อย่าลืมว่าเราเป็นเพื่อนกัน" "อื้อ" ฉันพยักหน้าออกมารัวๆ หากฉันในวันนี้ ยังไม่มีความรัก ยังไม่มีครอบครัว ฉันคงตั้งใจเรียนเต็มที่ และไม่มีทางพาตัวเองเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่านแบบนี้อย่างแน่นอน เมยี่กินก๋วยเตี๋ยวต่อ และฉันก็ก้มหน้าสนใจโทรศัพท์ต่อ มันมีอุปสรรค เมื่อเฟซบุ๊กของจีโน่ไม่ได้เปิดแสดงให้คนอื่นเห็น ว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมกับใครบ้าง หรือเพื่อนในเฟซของเขามีใครบ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังพยายาม ส่องรายการคอมเมนต์ ส่องรายชื่อของคนที่กดไลก์ ฉันไม่อยากถอดใจ ฉันไม่อยากปล่อยทุกอย่างเอาไว้นานๆ ผู้หญิงทรมานกับเรื่องแบบนี้มากจริงๆ แล้วสุดท้ายสิ่งที่ฉันพยายามค้นหามันก็ไม่ได้ไร้ความหมาย รายชื่อเฟซบุ๊กที่กดไลก์โพสของจีโน่ มีเฟซบุ๊กของผู้หญิงที่ชื่อเหมย เขาเป็นเพื่อนร่วมกัน นั่นหมายความว่า โพสของเหมย จีโน่ก็ต้องเห็น แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น แต่มันอยู่ที่ว่า จีโน่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ทั้งที่รู้ว่าฉายมีฉัน แล้วเป็นเพื่อนแบบไหนกัน ที่ยัดเยียดผู้หญิงคนใหม่ให้เพื่อน ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนมีเมีย! น้ำตาของฉันมันคลอออกมาอย่างสุดจะกลั้น ฉันมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าฉันกับจีโน่ ไม่เคยมีปัญหาหรือมีเรื่องราวบาดหมางใจกัน แล้วทำไมจีโน่ถึงทำกับฉันแบบนั้น ทำไมถึงปล่อยให้ฉายนอกใจฉัน แต่นอกจากความรู้สึกผิดหวังและคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญนั้น มันก็อดคิดถึงในสิ่งที่คนของฉันทำไม่ได้ ฉันไม่ได้โทษว่าฝ่ายนั้นผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้จะโทษที่เพื่อนปิดหูปิดตา ทำเหมือนไม่รู้อะไรเป็นอะไร แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่ที่คนของฉัน หากเขาหนักแน่น หากเขาคิดถึงฉันมากพอ เขาคงไม่กล้าทำแบบนี้อย่างแน่นอน "คืนนี้ไปนอนกับฉันไหมปาย ถ้ามันไม่สบายใจ ก็ถอยออกมา" "ผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับเพื่อนของฉาย ทั้งที่เพื่อนของฉายรู้แก่ใจว่าฉายไม่โสด แต่เขากลับปล่อยผ่าน ทำเหมือนไม่รับรู้อะไรเลย" "เห็นแก่ตัวที่สุด ผู้ชายพวกนั้นเห็นแก่ตัวที่สุดเลย" ฉันวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหมดแรง พลางวางมือทั้งสองข้าง ปิดกุมที่ใบหน้าของตัวเอง กระบอกตาของฉันมันร้อนไปหมด ฉันร้องไห้ทั้งวัน ฉันปวดหัว สิ่งที่ฉันรับรู้ และแบกรับอยู่ในตอนนี้ มันมากเกินไป แม้จะเสียน้ำตามามากแค่ไหน แต่พอนึกถึงทีไร มันก็ไหลซ้ำเติมออกมา . . . ฉันไม่ได้หนีปัญหา ไม่ได้หลบหน้า หลังจากที่เมยี่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ เราก็แยกกัน และฉันก็กลับมาที่คอนโดที่ฉันและฉายอยู่ด้วยกัน แกร๊กก~ ทันทีที่ฉันผลักประตูเข้าไป ฉายก็เงยหน้าจากโทรศัพท์แล้วมองมาที่ฉันทันที "ทำไมทำแบบนี้ปาย โทรหาทำไมไม่รับสาย แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้ไปรับ" "ก็บอกแล้วนี่ว่าฉันกลับเองได้" "ปาย..." "วันนี้นายไม่ไปไหนเหรอ?" ฉันถามแทรก แล้วมองสบตากับฉายตรงๆ ซึ่งเขาเองก็มองมาที่ฉันเช่นกัน "จะไปไหนได้ยังไงในเมื่อเรายังเคลียร์กันไม่จบด้วยซ้ำ" ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง~ และไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไรกลับไปทั้งนั้น เสียงสัญญาณที่หน้าห้องก็ดังขึ้นมา ฉายถอดหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตู แกร๊กก~ "มึงไปยอมออกไปหากู กูก็เลยมาหามึงเอง" กอล์ฟคือเจ้าของเสียงนั้น ในมือถือถุงเบียร์พร้อมทั้งกับแกล้ม "ปาย วันนี้มีลูกชิ้นปิ้งน้ำจิ้มรสเด็ดร้านเดิมด้วยนะ" กอล์ฟพูดกับฉันพร้อมกับยิ้มกว้าง ส่วนฉันตวัดสายตามองไปยังคนที่อยู่ทางด้านหลัง จีโน่มองฉัน แต่พอเห็นว่าฉันมอง หมอนั่นก็หลบสายตาทันที เพื่อนที่สนับสนุนให้เพื่อนทำในเรื่องที่ผิด แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเพื่อนรักหรอก เขาเรียกว่าเพื่อนเลว! "ตามสบาย เราเรียบร้อยมาแล้ว" ฉันหันมามองกอล์ฟอีกครั้ง แล้วยิ้มจางๆ กลับไป "เก็บไว้กินได้ เราตั้งใจซื้อมาฝากเธอจริงๆ" "ขอบคุณที่มีน้ำใจนะ ขอบคุณที่นึกถึง" ฉันบอก แล้วยอมรับถุงลูกชิ้นจากมือของกอล์ฟแต่โดยดี "วันนี้ขออนุญาตใช้พื้นที่อีกวันนะครับ" กอล์ฟบอกซ้ำ และมันทำให้ฉันมองหน้าทุกคนสลับกัน "ไม่เป็นไร เมื่อคืนฉายไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง เขายังรบกวนพวกนายเลย..." "...ว่าแต่ เมื่อคืนฉายไปนอนกับใครมาล่ะ?!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม