ในเอกสารฉบับนั้นระบุว่าเจ้านายของเลขาฯ ที่ชื่อรณกร ต้องการให้เด็กๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปเที่ยวชมสถานที่ทำงานของเขาในวันเด็กแห่งชาติที่จะถึงนี้ ซึ่งเขาจะสั่งให้ลูกน้องจัดงานวันเด็กไว้รอรับ และเด็กๆ ทุกคนที่มาเที่ยวชมงานวันเด็กในปีนี้ จะได้รับของขวัญติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกคน
เพราะนอกจากเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมในปีนี้จะเป็นวันเด็กแห่งชาติแล้ว ยังเผอิญไปตรงกับวันเกิดของเขาด้วย ซึ่งเขาต้องการมอบความสุข ต้องการมอบรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ทุกคน
หลังจากอ่านเอกสารแบบคร่าวๆ เพราะดีใจจนน้ำตาซึมดวงตาพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปลื้มปิติดีใจ นางก็ตอบรับคำเชิญผ่านเลขานุการของท่านผู้ใหญ่ใจดีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
พอเลขานุการที่ชื่อรณกรเดินทางกลับไปแล้ว นางก็นำข่าวดีไปบอกเด็กๆ ทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากสิ้นคำพูดของนางแล้ว เด็กๆ ทุกคนซึ่งไม่เคยออกไปเที่ยวนอกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเลย ต่างก็ร้องเฮดังลั่นปรบมือกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ที่พวกเขาจะได้ออกไปเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติเป็นครั้งแรกในชีวิต
“แม่ทิพย์คะ เมื่อไรแม่ทิพย์จะขึ้นรถคะ”
เสียงแหลมเล็กของกาญต์พิชชา กอปรกับมือเล็กนุ่มนิ่มที่จับแขนแม่ทิพย์เขย่าเบาๆ ช่วยให้แม่ทิพย์ของเด็กๆ ตื่นจากภวังค์ความคิด นางหันมามองใบหน้าเล็กเรียวรูปไข่ ซึ่งส่อเค้าว่าโตขึ้นเด็กน้อยคนนี้จะสวยงดงามอยู่ไม่น้อย จากนั้นก็ออกปากเอ่ยถามกาญต์พิชชาบ้าง
“เมื่อสักครู่ข้าวฟ่างถามแม่ทิพย์ว่ายังไงนะคะ”
กาญต์พิชชาคลี่ยิ้มบางๆ ให้แม่ทิพย์ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงหวาน “ข้าวฟ่างถามแม่ทิพย์ว่าเมื่อไรแม่ทิพย์จะขึ้นรถคะ ตอนนี้พวกเราขึ้นรถหมดแล้วค่ะ เหลือแค่แม่ทิพย์คนเดียวเท่านั้นค่ะ”
พอกาญต์พิชชาบอกเช่นนี้ แม่ทิพย์ก็รีบกวาดสายตามองไปยังรถบัสหรูหราทั้งสี่คัน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีดีเด็กๆ ทุกคนก็ขึ้นไปนั่งฉีกยิ้มแป้นอยู่บนรถกันหมดแล้ว
“อะไรกัน พากันขึ้นรถหมดแล้วหรือนี่”
แม่ทิพย์อุทานเสียงหลงด้วยความไม่เชื่อสายตา ไม่นึกว่าเด็กๆ ทุกคนจะตื่นเต้นดีใจกับการไปเที่ยวครั้งนี้มาก บรรดาลูกสาวลูกชายของนางจึงรีบขึ้นไปนั่งบนรถบัสอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะคาดถึง
“พวกน้องๆ ขึ้นไปนั่งบนรถตั้งแต่สามนาทีที่แล้วค่ะแม่ทิพย์”
กาญต์พิชชาบอกยิ้มๆ ซึ่งไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงเลย เพราะเด็กกำพร้าทุกคน ซึ่งต่างก็เป็นน้องและเป็นเพื่อนของเธอ ได้ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถบัสอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็เป็นไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อยตามที่ถูกพร่ำสอนมา
แม่ทิพย์ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างอดไว้ไม่อยู่ เมื่อได้ยินคำตอบจากกาญต์พิชชา นางยกมือขึ้นไปโอบกอดบ่าเล็กของกาญต์พิชชา แม่หนูน้อยคนสวยที่บรรดาครูพี่เลี้ยงทุกคนต่างก็พูดพ้องกันว่าโตขึ้น กาญต์พิชชาจะงดงามไม่ต่างจากดอกไม้งามยามต้องอรุณรุ่ง จากนั้นก็เอ่ยถามเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นระคนรักใคร่เอ็นดู
“แล้วข้าวฟ่างล่ะลูก เมื่อไรจะขึ้นรถสักที”
“ข้าวฟ่างรอขึ้นรถพร้อมแม่ทิพย์ค่ะ”
กาญต์พิชชาเอ่ยประจบประแจง พร้อมกันนั้นก็จะจับมือแม่ทิพย์ไว้มั่น แล้วพาแม่ทิพย์ก้าวเดินตรงไปยังรถบัสคันที่เธอต้องนั่งกับน้องๆ ในกลุ่มสีเดียวกัน
แม่ทิพย์เดินตามกาญต์พิชชาไปขึ้นรถบัสคันดังกล่าว และก่อนจะทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่นั่งของตนเอง ก็ไม่ลืมเอ่ยขอคำมั่นสัญญาจากลูกสาวแสนสวยอีกครั้ง
“โตขึ้นอย่าทำให้แม่ทิพย์ผิดหวังนะข้างฟ่าง”
กาญต์พิชชาคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับแม่ทิพย์ จากนั้นก็เอ่ยรับคำมั่นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่แพ้การให้คำมั่นสัญญากับแม่ทิพย์ในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
“ไม่แน่นอนค่ะ ข้าวฟ่างจะไม่ทำให้แม่ทิพย์ผิดหวังแน่นอนค่ะ ข้าวฟ่างสัญญา”
เอ่ยตอบไปแล้ว กาญต์พิชชาก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ของตัวเอง ซึ่งข้างๆ กันนั้นก็มีน้องตัวเล็กอายุราวๆ สามขวบให้กานต์พิชชาต้องดูแลน้องๆ ด้วย
แม่ทิพย์มองตามร่างเล็กของหนูน้อยเลือดผสมไทย-ฟินแลนด์ ซึ่งเจ้าตัวและนางไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อแม่ของแม่หนูน้อย พลางถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ เพราะนางรู้ดีว่าในขณะที่กาญต์พิชชาคลี่ยิ้มหวานให้กับนาง หรือหัวเราะสดใสให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นั้น
และแม้กาญต์พิชชาจะพยายามปกปิดความรู้สึกของตัวเอง แต่นางและครูพี่เลี้ยงทุกๆ คนก็รู้สึกได้ว่าข้างในลึกๆ แล้วเด็กน้อยกำลังร้องไห้น้ำตาท่วมหัวใจดวงเล็กอยู่ เพราะเด็กน้อยต้องการมีครอบครัว ต้องการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเหมือนเด็กคนอื่นๆ ที่เกิดมาโชคดีหนักหนา
“อดทนไว้นะข้าวฟ่าง คงมีสักวันที่จะเป็นวันอันแสนสวยงามของหนู”
แม่ทิพย์เอ่ยออกมาเบาๆ ราวกับต้องการฝากสรรพสิ่งรอบกายให้ช่วยนำคำพูดของเธอส่งไปถึงเด็กน้อยที่นางรัก เอ็นดูและตั้งให้เป็นความหวังของทุกๆ คนในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้
ลานสเก็ตน้ำแข็งซึ่งใหญ่ที่สุดใน [1]เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถูกสร้างอยู่บนพื้นที่ห้าไร่เศษใจกลางเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ ที่มีชื่อว่า The World Of Ice Skate (เดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต) คือสถานที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2544
บริเวณโดยรอบลานสเก็ตน้ำแข็งเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ที่เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อค้าขายสินค้าหลากหลายรายการ มีทั้งร้านอาหารหรูหรา ทั้งร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับชั้นนำมากมาย เรียกได้ว่านอกจากจะมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งอันเป็นกีฬาโปรดของใครหลายๆ คนแล้ว ผู้ที่เดินทางมายังลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งนี้ยังสามารถช้อบปิ้งเลือกซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งอื่นให้เสียเวล่ำเวลาอีกหลายทอด
แต่สำหรับวันนี้พื้นที่ซึ่งเคยเป็นบริเวณขายสินค้า ถูกปรับแต่งให้เป็นลานจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของลานสเก็ตแห่งนี้ บรรยากาศในการจัดงานวันเด็กเป็นไปแบบล้ำสมัย มีการจำลองท้องฟ้า จำลองยานอวกาศและจำลองเครื่องบินรบแบบต่างๆ มาให้เด็กน้อยที่มาเที่ยวชมงานในวันนี้ได้ชื่นชมกัน
++++++++++++
[1] เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อุษาคเนย์ หรือ เอเชียอาคเนย์ เป็นอนุภูมิภาคของทวีปเอเชีย ประกอบด้วยประเทศซึ่งทิศเหนือติดจีน ทิศตะวันตกติดอินเดีย ทิศตะวันออกติดปาปัวนิวกินี และทิศใต้ติดออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบ่งได้ภาคภูมิศาสตร์ได้สองภาค ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แผ่นดินใหญ่ หรืออินโดจีน ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า ไทยเวียดนาม และมาเลเซียตะวันตก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมุทร ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซียตะวันออก ติมอร์ตะวันออก อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์