บทที่ 9

1462 คำ
‘กรกฎ! แกต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ’ กรกฎพึมพำด่าตัวเองอยู่ในใจอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์บางอย่างที่กำลังตีประดังเข้ามาจนเขารู้สึกปวดหัวไปหมด “ข้าวฟ่างใส่รองเท้าสเก็ตให้เรียบร้อยนะครับ เดี๋ยวผมจะไปหยิบอุปกรณ์อันอื่นๆ มาให้ข้าวฟ่างใส่ด้วย” “ค่ะคุณน้า” กาญต์พิชชารับคำโดยไม่ลืมคลี่ยิ้มหวานให้กับกรกฎอีกครั้ง ทำเอาผู้ที่หัวใจกำลังเต้นรัวเร็วถึงกับรีบเผ่นออกจากเก้าอี้ม้านั่งอย่างรวดเร็ว “กรกฎ พรุ่งนี้แกต้องไปพบจิตแพทย์ ให้คุณหมอเช็คสติของแกว่ายังเป็นปกติดีอยู่หรือเปล่า” เจ้าของสโมสรสเก็ตน้ำแข็งแห่งนี้งึมงำบอกตัวเองอยู่ในลำคอ ขณะก้าวเดินตรงไปยังล็อกเกอร์เพื่อหยิบสนับเข่า สนับข้อศอก และหมวกกันน็อคมาให้กาญต์พิชชาสวมขณะลงเล่นสเก็ตน้ำแข็ง เมื่อได้อุปกรณ์ตามที่ต้องการครบแล้ว กรกฎก็เดินกลับมาหากาญต์พิชชาอีกครั้ง ในตอนนี้กาญต์พิชชาไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวแล้ว แต่มีเลขาส่วนตัวของเขายืนอยู่ข้างๆ ในมือมีรองเท้าสเก็ตหนังแท้ของเขาถืออยู่ด้วย พอเห็นเจ้านายหนุ่มเดินตรงมายังบริเวณที่ตนเองและกาญต์พิชชานั่งอยู่ รณกรก็รีบยิงคำถามชุดใหญ่ใส่เจ้านายด้วยความสงสัยระคนแปลกใจอยู่มาก ที่จู่ๆ ก็เห็นเจ้านายกลับมาถึงก่อนกำหนดหลายชั่วโมง แถมยังเดินทางมายังสโมสรโดยไม่มีการเรียกให้เขาไปรับที่สนามบินด้วย “เจ้านาย มาถึงเมืองไทยเมื่อไรครับ แล้วเจ้านายมาที่สโมสรเองหรือครับ ทำไมไม่โทรให้ผมไปรับในสนามบินล่ะครับเจ้านาย...” กรกฎหัวเราะเบาๆ พร้อมกับยกมือห้ามทัพสกัดกั้นประโยคถ้อยคำที่เหลือไม่ให้รณกรเอ่ยถามต่อ พอลูกน้องชะงักไปชั่วขณะก็เอ่ยตอบเพียงสั้นๆ ทว่าได้ใจความยิ่งนัก “เอาไว้ผมจะตอบคำถามของคุณทีหลังนะรณกร ตอนนี้ช่วยส่งรองเท้าสเก็ตมาให้ผมก่อน” “เอ่อ...ได้ครับเจ้านาย” แม้ออกจะงุนงงกับการกระทำของเจ้านายหนุ่มอยู่มาก แถมยังคันปากหยิกๆ อยากถามเจ้านายจับใจว่ากำลังจะทำอะไร แต่กระนั้นรณกรก็ไม่อาจหลุดปากเอ่ยถามออกมาได้ เพราะรู้ดีว่าหากผู้กุมบังเ**ยนสโมสรแห่งนี้ไม่อยากพูด ต่อให้เขาถามจนเมื่อยปาก ก็ไม่มีทางได้รับคำตอบกลับคืนมา สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือการรอและรอเท่านั้น รอให้เจ้านายพร้อมเขาถึงจะสามารถออกปากเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจของเขาได้ ทางด้านของกรกฎพอรับรองเท้าสเก็ตหนังแท้มาจากรณกรแล้วก็รีบสวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็นำสนับเข่า สนับศอกที่หยิบติดมือมาก่อนหน้านี้ไปสวมให้กับกาญต์พิชชา ซึ่งตอนนี้สวมรองเท้าสเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ใส่สนับเข่า สนับศอกก่อนจะข้าวฟ่าง เวลาล้มกระแทกจะได้ไม่เจ็บมาก” “ค่ะคุณน้า” กาญต์พิชชาเอ่ยตอบเพียงสั้นๆ ทว่าทุกครั้งที่เอ่ยตอบออกมา ดวงตากลมโตเปล่งประกายสุกสกาว ใบหน้าเล็กประดับไปด้วยรอยยิ้มหวานอยู่ตลอดเวลา ทำเอากรกฎเกิดอาการตาพร่ามัวครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากรับคำของกรกฎไปแล้ว กาญต์พิชชาก็ยื่นมือไปข้างหน้าหมายจะรับอุปกรณ์ช่วยป้องกันอันตรายให้กับตนเองมาสวมใส่ ทว่ากรกฎส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะเป็นฝ่ายสวมให้กับเด็กน้อยเอง “เดี๋ยวผมใส่ให้เองครับ” ว่าแล้วกรกฎก็ถือวิสาสะสวมสนับเข่าและสนับศอกทั้งสองข้างให้กับกาญต์พิชชา ตามด้วยหมวกกันน็อคอุปกรณ์ป้องกันอันตรายสำคัญที่สุดสำหรับนักกีฬาทุกคน และสำหรับคนที่เพิ่งเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็นครั้งแรกเฉกเช่นกาญต์พิชชา “เรียบร้อยแล้วครับ” กรกฎเอ่ยบอกยิ้มๆ ขณะใส่หมวกกันน็อคให้กับกาญต์พิชชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จับข้อมือเล็กทั้งสองไว้มั่น ก่อนจะก้าวเดินแบบถอยหลังเข้าไปในลานสเก็ต เพื่อเป็นการประคองคนที่ไม่เคยเล่นสเก็ตอย่างกาญต์พิชชาให้เดินตามตนเองได้โดยสะดวก “ค่อยๆ เดินนะครับ เดี๋ยวผมจะสอนข้าวฟ่างเล่นสเก็ตน้ำแข็งเองครับ” กรกฎเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นไม่ต่างจากทุกครั้ง เมื่อเอ่ยพูดกับกาญต์พิชชา ชายหนุ่มพาเด็กน้อยนัยน์ตากลมโตเข้าไปเล่นสเก็ตบนลานอันกว้างใหญ่โดยไม่สนใจสายตาของนักกีฬาอีกหลายๆ คน รวมทั้งสายตาของรณกรซึ่งกำลังจ้องมองด้วยความแปลกใจอย่างยิ่งยวด การเล่นสเก็ตโดยมีเจ้าของสโมสรซึ่งเคยนักกีฬาสเก็ตน้ำแข็งเก่าคอยสอนวิธีการเดิน การวิ่งบนลาน แถมยังคอยประคับประคองในทุกครั้งที่ร่างเล็กกำลังจะล้มลง คอยจับมือพยุงให้กาญต์พิชชาผุดลุกขึ้นยืน และคอยปลอบประโลมในทุกคราที่เด็กน้อยล้มกระแทกกับพื้นน้ำแข็ง ผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงหัวเราะห้าวทุ้มของกรกฎ และเสียงหัวเราะหวานเล็กๆ ของกาญต์พิชชา โดยทั้งสองคนไม่รู้สึกตัวว่าได้พากันเล่นสเก็ตผ่านไปเกือบสามชั่วโมงเต็ม จวบจนกระทั่งมีเสียงประกาศตามสายให้เด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปรวมตัวกันหน้าสโมสรเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน กาญต์พิชชาถึงกับทำหน้าสลดด้วยความเสียดาย เมื่อรู้สึกว่าเวลาแห่งความสุขที่ตนเองได้รับในวันนี้กำลังจะหมดลงแล้ว “คุณน้าคะ แม่ทิพย์ประกาศเรียกข้าวฟ่างแล้ว ข้าวฟ่างต้องกลับบ้านแล้วค่ะ” กาญต์พิชชาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นาทีนี้รู้สึกว่าตนเองไม่อยากจากลานสเก็ตแห่งนี้ ไม่อยากจากคุณน้าผู้ใจดีไปไหน หากแม้นเป็นไปได้เธออยากอยู่เล่นสเก็ตกับเขาทั้งวันทั้งคืน แต่เมื่อไม่อาจทำตามใจต้องการได้ เด็กน้อยจึงจำต้องเดินออกจากลานสเก็ตอย่างแสนเสียดาย กรกฎถอนหายใจลึก เมื่อรับรู้ได้ถึงความเศร้าสร้อยที่เผยออกมาจากใบหน้าของกาญต์พิชชา ชายหนุ่มช่วยเด็กน้อยถอดหมวกกันน็อครวมทั้งอุปกรณ์การเล่นสเก็ตน้ำแข็งออกจากร่างเล็ก และก่อนที่กาญต์พิชชาจะเดินกลับไปหาแม่ทิพย์ตามเสียงประกาศเรียก ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงห้าวทุ้มว่า “ข้าวฟ่าง ชอบเล่นสเก็ตน้ำแข็งมากไหมครับ” กาญต์พิชชาทอดสายตามองไปยังลานสเก็ตน้ำแข็งใหญ่โตด้วยสายตาละห้อยเผยแววเศร้าสร้อยให้ผู้เอ่ยถามรวมทั้งรณกรได้เห็น จากนั้นก็เอ่ยตอบตามความรู้สึกของตนเองในขณะนี้ “ข้าวฟ่างชอบสเก็ตน้ำแข็งมากค่ะ แต่ข้าวฟ่างคงไม่มีโอกาสมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งอีก ข้าวฟ่างจะจำวันเด็กปีนี้ไว้ในใจของข้าวฟ่างตลอดไปค่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยตอบอย่างเศร้าสร้อย เพราะรู้ว่าตนเองอยู่ในฐานะอะไร รู้ว่าตนเองขาดซึ่งโอกาสอันสวยงามเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ทำเอากรกฎและรณกรต้องหันมามองหน้ากันพลางถอนใจหายยาวด้วยความรู้สึกสงสารกาญต์พิชชาไม่แพ้กัน และก็เป็นกรกฎที่เป็นผู้หยิบยื่นอนาคตอันสวยงามให้กับเด็กน้อยที่ชื่อกาญต์พิชชา “ข้าวฟ่าง ถ้าหากผมจะอุปการะข้าวฟ่างให้เป็นนักกีฬาในสโมสรของผม ข้าวฟ่างเต็มใจมาอยู่ในสโมสรเดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต ไหมครับ” “คะ...คุณ...คุณน้าจะให้ข้าวฟ่างเป็นนักกีฬาในสโมสรของคุณน้าหรือคะ” กาญต์พิชชาเบิกตาโต ดีใจจนนึกอะไรไม่ออก น้ำเสียงที่เอ่ยถามออกมาติดตะกุกตะกักแฝงไปด้วยความดีใจอย่างยิ่ง “ถูกต้องแล้วครับ ถ้าหากข้าวฟ่างพร้อมมาอยู่ในสโมสร มาฝึกเล่นสเก็ตภายใต้การดูแลของโค้ชผู้เชี่ยวชาญ ผมก็พร้อมสนับสนุนข้าวฟ่างและผมจะเป็นคนไปแจ้งเรื่องนี้ให้แม่ทิพย์ของหนูทราบด้วยตนเองครับ” ไม่เคยมีครั้งใดที่กรกรฎจะรู้สึกว่า เขาได้เอ่ยตอบตกลงรับคำกับใครคนใดคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นที่สุด และคำตอบของเขาก็เรียกรอยยิ้มหวานๆ ให้ปรากฏบนใบหน้าดวงเล็กได้ทันที “ตกลงค่ะคุณน้า ข้าวฟ่างอยากเป็นนักกีฬาสเก็ตน้ำแข็ง ข้าวฟ่างอยากมีเงินเยอะๆ ข้าวฟ่างจะเก็บซื้อบ้านให้กับตัวเองให้ได้ค่ะ” กาญต์พิชชาคลี่ยิ้มกว้างใบหน้าเล็กระบายไปด้วยริ้วรอยแห่งความสุขกับสิ่งที่เอ่ยตอบออกมา ดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับกับความฝันที่วาดวางไว้ในอากาศ ซึ่งเด็กน้อยให้สัญญากับตัวเองว่าสักวันจะทำความฝันให้เป็นจริงให้จงได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม