Chapter 8 ต้องรัก

1769 คำ
ต้องรัก เป็นหลานเพียงคนเดียวของเจ้าสัวฉัตรอรุณ เจ้าของอาณาจักรส่งออกอาหารทะเลแปรรูปรายใหญ่ โรงงานตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย แม่ของเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวฉัตรอรุณ เธอตั้งท้องในวัยเรียนตั้งแต่อายุอยู่ในระดับมัธยมปลาย โดยที่เจ้าสัวฉัตรอรุณไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้ว่าต้องรักเป็นลูกของใคร เพราะหลังจากที่แม่ของต้องรักคลอดลูก เธอก็ทนกระแสสังคมไม่ไหวฆ่าตัวตายโดยทิ้งลูกไว้กับบิดา “แกอย่ามาทำเป็นยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง เมื่อก่อนตอนแกอยู่เมืองนอกก็ส่วนอยู่เมืองนอก แต่ตอนนี้แกกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ใช้วัฒนธรรมของคนไทย ก็สมควรที่จะรักษาเกียรติของตัวเองและวงศ์ตระกูล อย่ามาริอ่านทำตัวเหมือนแม่ของแก ฉันคาดหวังกับแกมาก” “คุณตาขา...รักรู้ว่ารักกำลังทำอะไรอยู่ค่ะ” หญิงสาวบอกเสียงอ่อนลง แม่ของเธอทำให้ตาเสียใจมาก ต้องรักรู้จากคณินเลขาของตาเธอว่า...แม้กระทั่งวาระสุดท้ายที่แม่ของเธอสิ้นลมหายใจ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็ยังเข้าหน้ากันไม่ติด เธอรู้ว่าตาของเธอเสียใจมาก แต่ทิฐิทำให้เขานิ่งเก็บความรู้สึกไว้ข้างใน และเธอก็สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า เธอจะไม่มีวันทำให้ตาของเธอเสียใจเป็นอันขาด “ถ้าแกยืนยันอย่างนั้น ฉันจะเชื่อแกสักครั้ง อย่าลืมพาไอ้หมอนั่นมาแนะนำให้ฉันรู้จักก่อนที่แกจะเข้าพิธีแต่งงานนะ ฉันไม่อยากได้ข่าวผ่านสื่อ ฉันไม่อยากเห็นชื่อฉันบนบัตรเชิญโดยที่ยังไม่ได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวของแกก่อน” ผู้สูงวัยไม่ไหวเหน็บแนม ตามสภาวะอารมณ์ของคนแก่วัยนั้น ต้องรักรู้ดีว่าตาของเธอรักเธอมากแค่ไหน เธอหัวเราะเสียงดังตามสายไป หยอกเย้าตาตามนิสัยของตัวเองอีกครั้ง “ฮ่าๆ คุณตาอยากเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมั้ยคะ” “ไม่ต้องมาทำเป็นเล่น จะไปทำงานก็ไป แล้วก็รักษาตัวดีๆ เสร็จงานแล้วก็รีบกลับมาด้วยล่ะ” “ค่า” หญิงสาวลากเสียงยาวตอบกลับ ไม่วายทิ้งเสียงอ้อนตามนิสัย “คิดถึงคุณตานะคะ” คนปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น เดาว่าสภาวะอารมณ์ตอนนี้คงไม่เหมือนตอนที่โทรมา “แกก็เป็นซะอย่างนี้ ฉันจะอดคิดถึงแกได้ยังไง” “ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ แล้วรักจะรีบกลับให้เร็วที่สุด อย่าลืมไปสืบประวัติว่าที่หลานเขยนะคะ เผื่อว่าที่หลานเขยของคุณตาซุกซ่อนเมียเด็กเมียสาวเอาไว้ที่ไหน รักจะได้จ้างมือปืนไปตามเก็บได้ทันก่อนเข้าพิธีแต่งงาน” หญิงสาวบอกเย้าทิ้งท้ายก่อนจะวางโทรศัพท์ไป ต้องรักหันหน้าออกไปมองนอกระเบียงอีกครั้ง ยิ้มให้กับลมทะเล ยิ้มให้กับเกลียวคลื่นที่กำลังพลิ้วไหวราวกับกำลังเริงระบำยินดีไปกับความสำเร็จของเธอ เสียงโทรศัพท์หัวเตียงปลุกหญิงสาวเจ้าของเครื่องให้ตื่นรับวันใหม่ เธองัวเงียขยี้ตาปรับสภาพให้เข้ากับแสงพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบเครื่องมือสื่อสารตัวจ้อย ที่ส่งเสียงร้องอยู่บนหัวเตียงมากดรับ “มีอะไรกับฉันแต่เช้าฮึ! กอกล้วย” หญิงสาวกรอกเสียงถามห้วนจัด ทันทีที่รู้ว่าปลายสายคือใคร กอกล้วยเป็นลูกน้องคนสนิท ครีเอทีฟของทีมเธอและเจ้าหล่อนยังเป็นคนเขียนสคริปงานทุกโปรเจกต์ให้เธอ จากที่เมื่อก่อนเมล่อนเคยทำตำแหน่งนี้ “ถามจริง พี่ลูกกวางรู้มั้ยว่าคนที่เราจะทำสกู๊ป เป็นแฟนของยัยต้องรัก” “ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อคืนนี้แหละ เหมือนโดนตบหน้ากลางงาน ยัยนั่นยิ้มเยาะฉัน นี่ถ้ายัยต้องรักได้รู้ว่าโปรเจกต์งานหน้าต้องไปทำสกู๊ปคอนโดเพาะเลี้ยงนกแอ่นของนายหัวปัณณ์แล้วละก็ ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเหมือนกัน” “แล้วพี่ลูกกวางจะทำอย่างไร พี่นัตตี้เชื่อใจพี่มากนะ” “ฉันไม่มีวันยอมหรอก ยังไงโปรเจกต์นี้ก็ต้องเป็นของฉันเหมือนเดิม ฉันจะตัดหน้าติดต่อนายหัวและขอนัดทำสกู๊ปก่อน เขาต้องตกลงกับฉันก่อนที่ยัยต้องรักจะกลับกรุงเทพฯ และทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนที่ฉันจะบินกลับกรุงเทพวันนี้เหมือนกัน” หญิงสาวบอกอย่างมั่นใจ “มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิพี่ พี่ลูกกวางเห็นข่าวกรอบหน้าหนึ่งวันนี้หรือยัง” “ฉันเพิ่งตื่นนอนจะได้เห็นอะไรล่ะ” ลูกกวางบอกอย่าหงุดหงิด “งั้นพี่เปิดอินเตอร์เน็ตเลย พี่จะได้รู้ว่างานของเรามันไม่ง่ายต่อไป ไม่รู้ว่าที่สถานีจะว่าอย่างไรบ้าง เดี๋ยวฉันเข้าไปที่สถานีได้ข่าวคืบหน้าอย่างไรฉันจะโทรแจ้งอีกทีนะ” หญิงสาวรีบกดปิดโทรศัพท์ และเปิดดูข่าวของวันนี้ทันที สิ่งที่เห็นทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือดลง ไม่ง่ายอย่างที่กอกล้วยบอกจริงๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเธอจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด ต้องรักแต่งตัวเฉิดฉายเดินลงมาล็อบบี้ของโรงแรม มือเล็กจับหูกระเป๋าแนบไว้ข้างลำตัวและกวาดสายตามองรอบๆ แม้ว่าจะต้องย้ายออกจากโรงแรม แต่เธอยังต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลต่อ สื่อมวลชนหลายคนต่างกำลังจะเตรียมตัวกลับ หนึ่งคนในนั้นคือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เพื่อนร่วมสายอาชีพที่พร้อมจะแทงข้างหลังเธอได้เสมอ หากแต่วันนี้เธอมีเกราะป้องกันหลังแน่นหนา หญิงสาวเดินเข้าไปทักลูกกวางที่นั่งอยู่ก่อน “ไงจ๊ะ มาทำงานหรือ ไม่ยักรู้ว่าเธอมีงานเกี่ยวกับข่าวเปิดตัวโครงการโรงแรมด้วย คงจะเป็นงานพิเศษสินะ” หญิงสาวเหน็บแนมเพื่อนสาวผ่านไปถึงหัวหน้าของเธออีกคน ตอนนี้เธออยากระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจ แต่ก็ทำได้เพียงมองเวลาที่กำลังจะคืบคลานมานิ่งๆ คนถูกถามหน้าเจื่อนไปนิด แต่เธอก็ยังดึงสติเรียกใบหน้ามั่นใจกลับมาได้เหมือนเดิมภายในเวลาไม่กี่วินาที “แล้วไง” หญิงสาวตอบกลับกรอกสายตามองสูงแบบไม่ยี่หระ เบ้หน้าเล็กน้อย “ช่วงนี้ฉันว่างเหมือนเธอนั่นแหละ แต่ฉันก็เลือกที่จะทำประโยชน์ให้สถานีมากกว่าลางานยาวหนีมาพักผ่อนเหมือนเธอ” “หรือจ้ะ” ต้องรักถามกลับ จงใจใช้เสียงและหน้าตามองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน “เธอจะกลับกรุงเทพเลยหรือเปล่าล่ะ ฉันจะได้ฝากน้ำพริกกุ้งเสียบเจ้าประจำไปที่ออฟฟิศด้วย” ลูกกวางยักไหล่ “ฉันไม่รับหิ้วของฝากของใคร ไม่มีปัญญาหิ้วกลับเองก็ไม่ต้องฝาก ฉันไปล่ะ...มีงาน!” หญิงสาวบอกพร้อมกับลากกระเป๋าใบย่อมในมือของเธอเดินออกไป ทันทีที่เห็นพนักงานขับรถของเธอมาจอดเทียบ ต้องรักมองตามหลังและยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน ไม่รอช้าที่เธอจะก้าวออกจากโรงแรมนี้ไปเหมือนกัน เพราะถ้าเจ้าของโรงแรมผ่านมาเจอเธอเข้าอีกครั้ง เธอยังไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอเป็นสื่อมวลชนคนหนึ่ง ลูกกวางมาถึงรีสอร์ทของชายหนุ่มอีกครั้งในเวลาสาย เธอสืบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่โรงแรมว่าเขาจะพักที่บ้านหลังเล็กในเขตพื้นที่รีสอร์ท และเขามักจะอยู่ที่นี่เป็นประจำหากเขาไม่ได้ไปที่เกาะมาหยามันตรา และแน่นอนว่าวันนี้เขาคงยังไม่กลับเกาะ เหมือนอย่างที่เธอขอเข้าพบเขาใน 2 วันก่อน “ดิฉันมาขอพบนายหัวปัณณ์ เจ้าหน้าที่ที่โรงแรมแจ้งว่านายหัวพักที่นี่” “คุณอีกแล้วเหรอคะ” พราวเอ่ยทัก ยิ้มเจื่อนส่งให้เห็นสาว “ต้องขอประทานโทษค่ะ นายหัวไม่สะดวกรับแขก และขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์สื่อใดใดทั้งสิ้นค่ะ” ต้องรักเดินตามเข้ามาเงียบๆ ตามหลังลูกกวางที่เดินเชิดหน้าเข้ามาก่อนอย่างมั่นใจ หญิงสาวเลือกที่จะเดินหลบไปอีกมุมเพื่อไม่ให้เพื่อนสาวได้เห็นและเก็บข้อมูลโดยรวมของสถานที่เอาไว้ เธอใช้หมวกปีกกว้างอำพรางใบหน้าและใช้หนังสือนิตยสารเปิดกลางเอาไว้ทำทีเป็นอ่าน ทั้งที่หูของเธอสนใจเรื่องราวที่ลูกกวางสนทนากับพนักงานในรีสอร์ท พร้อมกับส่งสายตากวาดมองรอบๆ เป็นระยะ “แต่สิ่งที่ฉันจะสัมภาษณ์เป็นเรื่องเกี่ยวกับคอนโดรังนกที่อยู่บนเกาะมาหยามันตรานะคะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน” เสียงของลูกกวางพยายามอธิบาย ต้องรักพยายามเงี่ยหูฟังเพื่อเก็บข้อมูลสุดชีวิต อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลต้นทุนที่ช่วยทำให้เธอสืบเดาแนวทางได้ง่ายขึ้น นอกจากข้อมูลที่เมล่อนให้มา “ต้องแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ เกาะมาหยามันตราเป็นเกาะส่วนตัวที่นายหัวหวงแหนที่สุด นอกจากคนที่มีหน้าที่บนเกาะแล้ว นายหัวไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปค่ะ” “ฉันขอพบนายหัวสักครั้ง ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะรอ ฉันอยากคุยรายละเอียดกับเขาเอง และนั่นก็เป็นผลดีกับเขาที่สุด” “ฉันช่วยคุณไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะนายหัวสั่งมาไว้อย่างนี้ ต้องขอโทษคุณอีกครั้งด้วยนะคะ” ลูกกวางขยับตัวลุกขึ้น ขืนจะทู่ซี้ดันทุรังต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องพบชายหนุ่มให้ได้ เธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้โปรเจกต์นี้ไปอยู่ในมือของต้องรักเป็นอันขาด “ยังไงก็ฝากคุณเรียนนายหัวด้วย ฉันจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน” หญิงสาวบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป แต่ทว่าต้องรักที่ยืนกางนิตยสารอยู่อีกมุมกลับยิ้มออกมาอย่างพอใจ เธอยืมข้อมูลจากลูกกวางเก็บข้อมูลความชอบของนายหัวหนุ่มเอาไว้ “เกาะส่วนตัวที่หวงแหน และไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปบนเกาะ” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองเบาๆ คิดหาทางที่จะเข้าถึงตัวชายหนุ่มให้มากขึ้นจนเขายอมอนุญาตพาไปที่เกาะ หลังจากนั้นเธอค่อยบอกเหตุผลก็คงไม่สาย เพราะเชื่อแน่ว่านักธุรกิจทุกคนก็ต้องการใช้พื้นที่สื่อในการกระจายข่าวและประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม