บทที่ 6 ยินดีที่ได้รู้จัก

1493 คำ
           ขวัญชีวารู้สึกตัวขึ้นในเช้าวันใหม่เมื่อแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าลอดผ่าน บางสิ่งบางอย่างเข้ามากระทบใบหน้าของเธอเข้าอย่างจัง หญิงสาวรู้สึกปวดหนักไปทั่วทั้งตัวในทันทีที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ ดวงตาของเธอหนักอึ้ง อีกทั้งยังรู้สึกจุกเสียดบริเวณท้องน้อยที่ถูกจอแดนและพรรคพวกทำร้ายอย่างรุนแรง แม้จะเจ็บปวดทุกครั้งที่ขยับตัว แต่หญิงสาวก็ยังอดทนพยายามที่จะฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างหนักให้จงได้            และเมื่อเธอเริ่มขยับเคลื่อนไหวใครอีกคนที่กำลังนอนอยู่ข้าง ๆ กันก็เริ่มที่จะรู้สึกตัวตามไปด้วยตามสัญชาตญาณ            “จะรีบตื่นไปไหนครับ ยังเช้าอยู่เลย” คนที่กำลังฝืนพยายามจะลืมตาอยู่ถึงกลับสะดุ้งสุดตัวก่อนจะแน่นิ่งหยุดชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงเข้ม ๆ ของใครบางคนเข้าจากด้านหลัง ดวงตาที่เคยหนักอึ้งจนแทบจะลืมไม่ไหวบัดนี้กลับลืมโพรงขึ้นราวกับเปิดสวิตช์ ไม่ช้าใบหน้าที่กำลังตื่นตระหนกตกใจอย่างหนักก็หันไปมองเจ้าของเสียงที่ว่านั้นอย่างรวดเร็ว            “คะ...คุณเป็นใคร! แล้วเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง!” หญิงสาวหวีดเสียงร้องขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับใครบางคนที่กำลังนอนเปลือยอกอยู่บนเตียงข้างกายกัน เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้เป็นใคร และที่แย่ไปมากกว่านั้นคือไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอบ้างหลังจากที่หมดสติไปเพราะถูกจอแดนและพรรคพวกทำร้าย เพราะความหวาดหวั่นต่อสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ทำให้หญิงสาวไม่รีรอที่จะระดมทุบอกเปลือยเปล่าของคนตรงหน้าอย่างรุนแรงพร้อมกับแผดเสียงด่าทอเขาด้วยคำพูดแรง ๆ เท่าที่สมองจะนึกออก            “โอ๊ย! นี่คุณทำอะไรของคุณ ผมเจ็บนะครับ โอ๊ยนี่!” อลันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าจะถูกใครสักคนปลุกด้วยการทำร้ายร่างกายเหมือนกับที่เขากำลังโดนอยู่ในตอนนี้            ชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิทอยู่ดี ๆ กลับต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกรีดร้องโวยวายของคนข้างกายที่ไม่ยอมฟังอะไรเลยสักอย่าง เอาแต่หลับหูหลับตาระดมทุบกันราวกับจะฆ่าให้เขาตายด้วยฝ่ามือน้อย ๆ ของตัวเองยังไงยังงั้น            จนสุดท้ายเมื่อความหงุดหงิดบังเกิดเขาจึงรวบเอาแม่ตัวดีเข้าหาตัวอย่างแรง ก่อนจะเหวี่ยงเธอล้มลงบนเตียงพร้อมกับกระโดดขึ้นไปคร่อมร่างเล็กเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่ยอมปล่อยให้เธอได้ทำร้ายร่างกายของตัวเองไปมากกว่านี้ได้อีก            ผู้หญิงอะไร เห็นตัวเท่าลูกแมว แต่เรี่ยวแรงของหล่อนมันถึงได้มหาศาลขนาดนี้ได้ นี่เขาช่วยชีวิตของเธอเอาไว้แท้ ๆ ไหงถึงได้ตอบแทนกันแบบนี้ มันน่าจับขึงแล้วข่มขืนให้ยับเสียจริง            “หยุด! ไม่งั้นผมจูบ และผมไม่รับปากหรอกนะครับว่ามันจะจบเพียงจูบเดียวด้วยหรือเปล่า” ได้ผลในทันทีเมื่อเขาตวาดขึ้นเสียงดัง อีกฝ่ายก็ชะงักค้างไปก่อนจะจ้องมองเขาทั้งน้ำตา รู้สึกหวาดกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาจับใจ เพราะเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะทำอย่างที่ปากพูดมาทั้งหมดจริง ๆ หรือเปล่า            “คนเลว! คุณทำอะไรฉัน” ขวัญชีวาร้องถามทั้งน้ำตา เรี่ยวแรงที่แม้แต่จะขยับตัวให้หลุดพ้นไปจากท่อนแขนแข็งแกร่งก็ค่อย ๆ เลือนรางเข้าไปทุกที ยิ่งเขากำราบกันด้วยท่าทีดุดันยิ่งทำให้เธอกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรง ๆ            “ผมเปล่าทำ และอีกเรื่องที่คุณต้องรู้เอาไว้คือที่นี่ไม่ใช่ห้องของคุณนะครับคนสวย นี่มันห้องผม และตอนนี้คุณก็ยังอยู่ในบ้านของผม” อลันพยายามปรับน้ำเสียงให้ดูอ่อนลงกว่าเดิมไปอีกสักนิด เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังสั่นเทาอย่างหนักเพราะหวาดกลัวเขาอยู่ แต่ถึงกระนั้นมันก็น่าจะมาฟาดก้นเสียให้เข็ดอยู่ดี ชายหนุ่มย้อนคิดพร้อมทั้งกวาดสายตามองแผงอกที่เต็มไปด้วยรอยเล็บของแม่ตัวดีใต้ร่างอย่างโมโห แบบนี้มันก็เท่ากับว่าเขาทำคุณได้บาปโดยแท้            “คะ...คุณว่าอะไรนะคะ” ขวัญชีวาเอ่ยขึ้นแผ่วเบา และไม่รอให้เขาได้ตอบอะไรกลับมาเธอก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรวดเร็ว ราวกับจะค้นหาความกระจ่างให้กับตัวเอง และมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่าไว้ทั้งหมด ในเมื่อตอนนี้เวลานี้เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในห้องนอนสีขาวที่อัดแน่นไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา ซึ่งต่างจากห้องเช่าโกโรโกโสของตัวเองมาก            อลันยอมหยุดนิ่งให้เธอสำรวจห้องนองของเขาจนพอใจถึงได้เอ่ยสมทบต่อคำพูดจากที่ค้างคาเอาไว้ต่อไป            “นี่อย่าบอกนะครับว่าคุณจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว” ให้ตายสิ! อะไรจะลืมได้รวดเร็วปานนี้ แล้วนี่แม่คุณจะจดจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนจู่ ๆ ก็นึกประหลาดสะดุ้งตื่นขึ้นมาอาละวาดกลางดึกเพราะอาจจะฝันร้าย แต่กลายเป็นเขาที่กระโดดเข้าไปปลอบขวัญแต่กลับถูกหล่อนข่วนหน้าจนเลือดซิบ        “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวทวนคำถามของเขาที่เพิ่งจะได้ยินอย่างช้า ๆ ก่อนสมองจะสั่งการให้เธอย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่หากเขาไม่เอ่ยถามมันขึ้นมาบางทีเธออาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ภาพความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนที่สติจะดับหายไปนั้นเธอกำลังเดินฝ่าความหนาวเหน็บมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของตัวเองก่อนจะถูกพรรคพวกของจอแดนดักเล่นงานระหว่างทางเข้าซะก่อน และถ้าหากเดาไม่ผิดคนตรงหน้าเธอคนนี้ก็คงจะเป็นเขาคนนั้น            เจ้าของรองเท้าหนังสีดำ ที่เข้ามาช่วยเธอจากคนพวกนั้น!            “นี่คุณคือ...”            “ผมชื่ออลัน ครับ คุณคงจำได้แล้วใช่ไหมว่าผมคือคนที่ช่วยคุณจากพวกนักเลงพวกนั้นไว้เมื่อคืน” คนถูกถามจำต้องรีบพยักหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานก็ต้องผงะขึ้นมาอีกครั้งเมื่อก้มมองเห็นสภาพของตัวเองที่มันไม่ได้อยู่ในชุดเดิมที่เคยสวมเมื่อคืนที่ผ่านมาเข้า แต่ในตอนนี้นั้นเธอกลับสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งเอาไว้แทน ยังไม่ทันที่ริมฝีปากบางสวยจะได้ทันเอ่ยถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นชายหนุ่มปริศนาที่เธอรู้แค่เพียงว่าชื่อของเขาคืออลันก็ชิงสาธยายเรื่องทั้งหมดขึ้นมาซะเอง            “คุณช่วยทำใจให้เย็น ๆ แล้วฟังสิ่งที่ผมกำลังจะพูดก่อนนะครับ คือว่าอย่างนี้ เมื่อคืนหลังจากที่ผมช่วยคุณจากไอ้พวกสวะสามคนนั้นมาได้คุณก็มาดันหมดสติไปซะก่อน และผมเองก็ไม่รู้ด้วยว่าจะต้องพาคุณไปส่งที่ไหน อีกอย่างตอนนั้นมันก็ดึกมากแล้วด้วย ผมจึงไม่มีทางเลือก ต้องพาคุณกลับมาที่นี่ด้วยกัน และช่วยเปลี่ยนชุดให้...” มาถึงตรงนี้เขาหยุดช่วงไปเพราะอยากจะมองดูท่าทีของอีกฝ่าย และเมื่อเห็นเธอมีท่าทีร้อนรน เหมือนอยางที่คิดเอาไว้เขาจึงได้เอ่ยต่อ            “ผมสาบานด้วยเกียรติของผมเลยครับว่าผมแค่เปลี่ยนชุดให้คุณเท่านั้น เพราะถ้าขืนผมปล่อยให้คุณนอนในสภาพแบบนั้นทั้งคืนมันคงจะไม่เป็นผลดีกับตัวคุณแน่ ๆ” หญิงสาวนิ่งเงียบไปนาน เพราะไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคำพูดที่เขาเพิ่งจะเอ่ยออกมาดีหรือไม่ แต่เธอก็พอจะสัมผัสได้อยู่บ้างว่าร่างกายตัวเองยังคงปกติดีทุกอย่าง            สิ่งที่ไม่ปกติก็เห็นจะมีบริเวณท้องน้อยเท่านั้นที่ยังคงรู้สึกปวดอยู่เพราะถูกพวกคนใจร้ายพวกนั้นรุมทำร้าย ส่วนจุดอื่น ๆ ก็ยังคงความปกติเอาไว้เช่นเดิมเหมือนอย่างที่เคยเป็น และถ้าหากเขาล่วงเกินเธอมันก็อาจจะต้องมีบางส่วนบนร่างกายที่ปวดร้าวขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อส่วนนั้นที่ว่ายังคงปกติเธอก็ยิ้มออกมาได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม