อ้อมแขนแข็งแรงวางผู้หญิงร่างเล็กบอบบางลงบนเตียงอย่างเบามือ
การันผละตัวออกจากเจ้าหล่อนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะใช้แขนยันตัวเองเอาไว้
คนใต้ร่างของเขาใบหน้าแดงกล่ำแถมขาทั้งสองยังเบียดเสียดเข้าหากันอย่างทรมาน ปากก็พร่ำครางงืมงำอยู่ในลำคอจนเขาต้องเผลอยกยิ้มออกมาอย่างสมเพช
“ได้โปรด...” เสียงร้องขอของเธอดังมาอีกครั้งอย่างแผ่วเบาและแหบพร่า
การันยกมือขึ้นไปลูบกรอบหน้าของเจ้าหล่อนก่อนที่เขาจะซุกไซ้เข้าหาซอกคอหอมกรุ่นของคนใต้ร่าง
“อือ...” เสียงครางหวานกำลังเติมไฟราคะของเขาให้พุ่งทยานสูงขึ้น
กลิ่นกายของเจ้าหล่อนยิ่งรุนแรงแต่การันก็ใช้ความเป็นเจ้าของกลบมันเอาไว้ให้เขาได้กลิ่นแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนกลิ่นตัวของเขาที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้องยิ่งทำให้คนใต้ร่างดิ้นพล่านเพราะเธอจะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
การันเลื้อยจากลำคอของเธอลงมาหาไหปลาร้าของเธอที่นูนขึ้นมาอย่างคนหุ่นสวย เขาใช้ลิ้นโลมเลียมันบางเบาและเชื่องช้าราวกับกลั่นแกล้งให้เธอแทบขาดใจ
เสียงหวานเปล่งร้องดังระงมเพราะเธอไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป
ก๊อก ๆ ๆ
“บอสคะ...” เสียงหวานจากทางหน้าห้องดังเข้ามาพร้อมกับเสียงเคาะประตู
คนสวยใต้ร่างยกมือขึ้นมาอุดปากของตัวเองเอาไว้เพื่อกักกลั้นเสียงที่น่าอับอาย แต่คนขี้แกล้งด้านบนกลับยกยิ้มเมื่อนึกไอเดียอะไรดี ๆ ออก
“นี่คุณ!” เธอร้องลั่นเมื่ออยู่ ๆ เขาก็พลิกร่างของเธอให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
การันฉีกเสื้อผ้าของหล่อนจนขาดลุ่ยเผยเต้าอวบอิ่มจุกสีชมพูหวาน ทั้งยังดันรั้งร่างของหล่อนให้เอาหน้าแนบชิดกับผนักเอาไว้และจับสะโพกของเธอยกขึ้น
การันช้อนตัวมายืนด้านหลังก่อนเขาจะเลิกชายกระโปรงของเธอขึ้นและดึงแพนตี้ตัวน้อยสีหวานให้หลุดลุ่ยลงมา
ความปราณีจะไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเขานั้นมันป่าเถื่อนอยู่แล้ว!
“คุณจะ...จะทำอะไร!” เสียงหวานเอ็ดไม่ดังมากนักเพราะกลัวว่าคนด้านนอกที่ยังเอ่ยเรียกกันนั้นจะได้ยินมัน
“ชู่ว! เดี๋ยวแม่เลขาสาวของเธอก็ได้ยินเอาหรอกเด็กดี” รอยยิ้มเยาะที่ออกมาจากริมฝีปากของเขาทำเอาเธอแทบอยากจะหันไปปาดคอเสียให้รู้รอดไป
แต่คนด้านหลังกลับส่งมือบางมาเขี่ยเล่นตรงจุดอ่อนไหวของเธอ จนคำด่าว่าที่ตั้งใจในตอนแรกนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น
“เปียกขนาดนี้แล้วงั้นหรือนี่...”
“อ้ะ! อื้อ...” อาริสายกมือปิดปากของตัวเองเอาไว้เมื่อความรู้สึกแปลกใหม่กำลังแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเธอ
มันคือความรู้สึกที่ดีมาก ๆ จนเธอไม่อยากจะให้เขาหยุดมัน แถมตอนนี้เธอยังทรมานมากกว่าเดิมที่ไม่สามารถเปล่งเสียงที่อัดอั้นนี้ได้
“บอสคะ...” เลขาสาวยังเอ่ยร้องเรียกกันไม่หยุด
แล้วถ้าหากเธอไม่ยอมทำอะไรสักอย่างหล่อนคงมาไขกุญแจห้องเธอเป็นแน่ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้เด็ดขาด!
“อ้ะ! ฉะ ฉันขอพักสักเดี๋ยว อ้ะ!” เมื่อยามที่เธอเอ่ยปากตอบ คนด้านหลังก็กลับกลั่นแกล้งเธอโดยการที่เขากดไปที่จุดอ่อนไหวของเธออย่างแผ่วเบา
และพอเธอหันไปจะต่อว่า เขากลับกดเข้ามาอีกครั้งแถมยังทำหน้ายียวนจนเธอแทบทนต่อไปไม่ไหว
“บอสเป็นอะไรไหมคะ! ให้เทลเข้าไปไหมคะ?”
“มะ ไม่ต้อง!” เธอรีบปฏิเสธพัลวัน “ฉันฮีทอยู่ ขะ...ขอพักสักงีบนะ” อาริสากัดปากตนเองจนห้อเลือด
ตอนนี้คนด้านหลังสอดแทรกนิ้วเรียวยาวเข้ามาในร่างกายของเธอแล้ว และเธอเองก็แทบจะยืนทรงตัวต่อไปไม่ไหว
“ได้โปรด...ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” ทันทีที่เสียงประตูหน้าห้องปิดลงเธอก็เอ่ยร้องขอในทันที
การันยกยิ้มที่เห็นลูกไก่ในกำมือของเขากำลังดิ้นพล่านและทรมาน เขาจับตัวเธอขึ้นมาอีกครั้งและโยนลงไปบนเตียงอย่างแรงจนอาริสาเผลอจุกท้อง
เขาดึงกระโปรงตัวเก่าของเธอออกอย่างรุนแรงจนมันขาดลุ่ยและโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ
การันก้มหน้ามามองดอกไม้สีสดสวยที่กำลังมีน้ำฉ่ำเยิ้มอย่างชื่นชมในฝีมือของตน เขาใช้ลิ้นแตะไปที่มันบางเบาแต่คนใต้ร่างกลับสะดุ้งโหยงและส่งมือมากดท้ายทอยของเขาเอาไว้
“อ้ะ! อื้อ...” น้ำเสียงหวานของเธอกำลังทำให้ความรู้สึกของเขาตีกันรวนไปหมด
แต่เพียงไม่นานเสียงครางหวานของเธอก็ดังยาวพร้อมกับตัวกระตุกเกร็งอย่างคนที่ถึงจุดหมาย
อาริสานอนหมดแรงหายใจหอบถี่ในสภาพที่เปลือยเปล่า ความรู้สึกแปลกใหม่นี้เธอไม่เคยได้รับจากใคร แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก
และเธอกำลังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ...
“ลุกขึ้นมา...” คำสั่งจากคนด้านบนส่งผลให้คนที่นอนหลับตาพริ้มนั้นเงยหน้าขึ้นสบมอง
อาริสาตาเบิกโพลงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอกำลังตั้งค้ำผงาดและกำลังรอการปลดปล่อย
เธอเบี่ยงสายตาหลบอย่างไม่กล้าสู้หน้ามันเพราะความเขินอายที่ยังคงมี
“เลียมัน...” เสียงคำสั่งของเขาทำให้เธอต้องรีบหันหน้ากลับมาเตรียมจะต่อว่า
แต่อัลฟ่าผู้นี้กลับใช้ดวงตาในการกดขี่จนเธอต้องยอมสิโรราบแต่โดยดี
“อืม...” ทันทีที่ปลายลิ้นของเธอแตะลงบนสิ่งนั้นเขาก็ครางงึมงำขึ้นมาอย่างพอใจ
การันจับหัวของเธอเอาไว้และออกแรงรั้งให้หล่อนเข้ามาชิดใกล้
จากตอนแรกที่นึกรังเกียจแต่แล้วเพราะความที่เขาเป็นเจ้าของเธออย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้เธอกำลังรู้สึกหลงใหลกับมันตามสัญชาตญาณดิบเถื่อน
ยิ่งช่วงที่เธอฮีทหนักแบบนี้มันก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นในความรู้สึก พวกโอเมก้าเมื่อยามที่มีรอบฮีทจะทำให้อารมณ์และนิสัยของคน ๆ นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“อืม...เก่งนี่สาวน้อย” เขาเอ่ยชมเธอเสียงทุ้มหนายิ่งทำให้เธออยากปรนนิบัติและเอาใจ
อาริสาจับเจ้าสิ่งนั้นและรูดมันขึ้นลง ปากก็ยังทำหน้าที่โลมเลียมันอย่างเอร็ดอร่อยตามสัญชาตญาณของเธอ
“อืม...ใกล้กว่านี้” การันพูดทั้งยังจับหัวของเธอให้เข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น
เขากดรั้งท้ายทอยของเธอไปมาจนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งออกมารดใบหน้าของเธอจนเปรอะเปื้อน
การันโน้มหน้าลงมาหาหล่อนอีกครั้งทั้งยังกดจูบไปที่ริมฝีปากบางนั้นอย่างปลอบประโลม
แววตาหวานซึ้งทั้งสองสบกันพร้อมทั้งที่ดวงตาของการันอ่อนลงจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน...” เขาว่าจบก็ผละตัวออกจากเธอและลุกขึ้นยืนสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“แล้วคุณจะออกไปยังไง?”
“อย่าลืมว่าฉันไม่ใช่พวกอ่อนอย่างเธอ...” การันว่าจบและก็เตรียมจะหันหลังจากไป “เธอคงจะยังไม่ไล่ฉันออกใช่ไหม หืม” เขาถามทั้งที่ยังไม่หันหน้ามาสบมองกัน
อาริสามองคนตัวสูงโปร่งที่กำลังจะเดินจากไปด้วยความรู้สึกของเธอที่ตีตื้นขึ้นมา
ดวงตาสีเหลืองอร่ามแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มสดใสเมื่อยามที่เธอนั้นตื่นตัวหรือตื่นเต้น
ใบหน้าของเขาคุ้นเคยเหมือนกับพี่สาวของเธอในวันวาน ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่พี่รันเคยสบมองเธอมาเสมอฉายชัดขึ้นมาจนหัวใจเต้นระรัว
แต่สุดท้ายความคิดของเธอก็ต้องหยุดลงเพราะพี่รันของเธอเป็นคนอ่อนโยนและใจดี
ไม่ใช่คนป่าเถื่อนและหัวรุนแรงเหมือนกับเขาคนนี้...
คำสัญญาในวัยเด็กเธอยังจดจำมันได้เสมอ และเธอเชื่อว่าสักวันเราจะได้กลับมาพบกัน และเมื่อถึงวันนั้น...เธอจะไม่ปล่อยให้เขาจากเธอไปไหนอีกเลย