05

1225 คำ
“นี่คุณใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย ฉันเนี่ยนะจะพิศวาสปลาพวกนั้น พระเจ้า! พูดไปจะหาว่าบูลลี่ปลาอีก แต่มันไม่ได้ไง มองมุมไหนก็ไม่ได้ ถ้าหล่อแบบหยางหยาง ก็ว่าไปอย่าง แบบนั้นค่อยน่าพิศวาสหน่อย อ้อ! แล้วเผื่อคุณจะจำไม่ได้ว่าฉันเป็นคน ไม่ใช่ปลา เพราะฉะนั้นฉันไม่มีวันพิศวาสปลาตัวผู้ ไม่ว่ามันจะดูดีมากแค่ไหนก็ตาม จบนะ” เธอพูดยืดยาว ในขณะที่เขากลับขมวดคิ้วครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ้านี่พูดจาวกวน อีกทั้งวาจาก็ฟังดูพิลึกจนข้าสับสน” “ฉันลืมไปว่าฉันย้อนกลับมาหลายร้อยปี คำพูดยุคคุณกับยุคฉันก็คงไม่เหมือนกัน แล้วที่ต่างกันมากที่สุดคือ ยุคคุณไม่มีดาราหน้าตาดีๆ แบบหยางหยางด้วย แต่ช่างเรื่องนั้นเถอะ ตอนนี้คุณควรสนใจเรื่องปากท้องฉันก่อน ฉันหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว มีอะไรให้กินบ้างไหม” เธอโอดครวญพลางกุมที่ท้องเพื่อร้องขอความเห็นใจ “ใกล้มื้อกลางวันแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมีคนที่จวนเอาอาหารมาส่ง เจ้าเข้าไปรอข้างในก่อนเถอะ หากมีใครมาเห็นเจ้าในสภาพนี้ เกรงว่าจะดูไม่งาม อีกทั้งข้าเองก็อาจจะเสียหายได้” คนฟังหันขวับมามองคนพูดทันที “เดี๋ยวนะ ฉันว่าคุณต้องกำลังสับสนจนพูดผิดไปแน่ๆ เพราะคนที่เสียหายจริงๆ ต้องเป็นฉันนี่ ฉันเป็นผู้หญิง ส่วนผู้ชายอย่างคุณมีอะไรให้เสียหายมิทราบ” เธอลุกขึ้นยืนท้าวสะเอว พลางจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าที่พร้อมจะมีเรื่อง “งั้นข้าขอถาม เจ้ารู้จักใครในละแวกนี้บ้าง” คนถูกถามส่ายหน้า เขาจึงพูดต่อ “เช่นเดียวกัน ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่รู้จักเจ้าเช่นกัน ต่างกับข้าที่ถึงแม้จะจำชาวบ้านละแวกนี้ได้ไม่หมดทุกคน แต่ข้าเชื่อว่าชาวบ้านละแวกนี้ต้องจำข้าได้” หลี่ลู่อวี๋ได้ฟังก็เบะปากด้วยความหมั่นไส้ “คิดว่าตัวเองเป็นดาราแห่งยุครึไง เหอะ! หลงตัวเองชะมัด” “หากยังอยากใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ที่นี่ เจ้าต้องหัดสำรวมกิริยาวาจาให้มากกว่านี้ หาไม่แล้วเจ้าอาจจะถูกสาปให้กลับไปเป็นปลาดังเดิมก็เป็นได้” “โอเคๆ ฉันจะพยายาม แต่คุณเองก็ควรพยายามทำความเข้าใจด้วยเหมือนกัน ว่ารูปลักษณ์เดิมของฉันคือคน ไม่ใช่ปลา เลิกพูดว่าฉันจะต้องกลับไปเป็นปลาสักที เพราะนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นปลา ไม่ใช่คน” อีกครั้งที่เขาขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจกับคำพูดของเธอเท่าไหร่ ทั้งที่ทำเหมือนจะเชื่อฟัง แต่ก็ยังต่อต้านอยู่ในที “วาจาที่ฟังผิดแผกนี่เช่นกัน หากใครมาได้ยินก็คงสงสัยว่าเจ้าเป็นใครมาจากที่ใด หากต้องถูกขุดคุ้ย ถึงตอนนั้นเจ้าเองจะลำบาก” เขาเอ็ดราวกับเธอเป็นเด็กๆ ในขณะที่คนถูกเอ็ดก็ทำหน้าง้ำ แต่ก็ต้องยอม เพราะไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อต้านได้ “โอ…เอ่อฉัน…เอ้อ…ข้าหมายถึงเข้าใจแล้ว ต่อไปจะระวังให้มาก ช่วยไม่ได้ก็คุณ เอ๊ย! ท่านเป็นที่พึ่งเดียวตอนนี้นี่ อย่างน้อยก็จนกว่าข้าจะหาทางกลับบ้านได้ เฮ้อ!” เธอพยายามจะปรับตัว แต่พอพูดถึงเรื่องกลับบ้าน ก็อดถอนหายใจเสียงดังไม่ได้ “เจ้ามีชื่อหรือไม่ หรือจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไร” เห็นเธอทำหน้าเศร้าราวกับจะร้องไห้ ชายหนุ่มจึงพาเปลี่ยนเรื่อง “อืม…เรียกข้าว่าลูกหยีก็ได้” “ลู่…อวี๋?” เขาออกเสียงแปร่ง สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชื่อที่ใครต่อใครมักเรียกเธอในที่สุด “เฮ้อ! ลู่อวี๋ก็ลู่อวี๋ ฉันคงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ล่ะมั้ง” เธอบ่นงึมงำ “เจ้าปลาน้อย เหมาะกับเจ้าดีนี่” เขาบอกพลางยิ้มขำ ในขณะที่เธอก็ทำปากขมุบขมิบบ่นเป็นหมีกินผึ้ง “ช่างเรื่องปงเรื่องปลานั่นก่อนได้ไหม ตอนนี้ช่วยสนใจเรื่องปากท้องฉันก่อน ฉันเอ๊ย! ข้าหิวจนแสบท้องท้องไปหมดแล้ว” เธอโอดครวญอีกครั้ง เมื่อท้องเริ่มร้องประท้วงถี่ขึ้นเรื่อยๆ “เช่นนั้นก็รีบเข้าไปรอข้างในเถอะ จวนจะได้เวลาที่ถงอีอีจะมาแล้ว หากนางมาเห็นเจ้าตอนนี้คงตกใจ” “ถงอีอี? ภรรยาท่านเหรอ” เธอเลิกคิ้วด้วยความสงสัย “พูดจาเหลวใหล ข้ายังมิได้ตกแต่งสตรี ไฉนจะมีภรรยาได้” “ไม่มีก็ไม่มีสิ ทำไมต้องทำหน้าซีเรียสขนาดนั้นด้วย” เธอเบ้หน้าพลางยักไหล่ ครั้นพอหันไปสบกับดวงตาคู่คมที่กำลังมองตำหนิมา ซึ่งเธอเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรที่ผิดหูอีกฝ่ายไป “รู้แล้วๆ แต่ท่านก็ต้องเข้าใจข้าบ้างสิ คนเคยพูดแบบนั้นมาทั้งชีวิต จู่ๆ จะให้เปลี่ยนปุบปับในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เอ้อ…ไม่สิ เขาน่าจะเรียกชั่วยามใช่ไหม หึๆ โชคดีที่ดูหนังจีนกำลังภายในมาบ้าง” คนที่พยายามปรับเปลี่ยนคำพูดแอบหันไปยิ้มขำอีกทาง “เป็นสตรีควรสำรวมท่าทีไว้บ้างจะเป็นการดี” เห็นท่าทางกระโดกกระเดกผิดแผกไปจากสตรีทั่วไป เขาจึงเอ็ดอีก “เจ้าค่ะ” เธอถอนสายบัวให้ แต่นั่นกลับทำให้อีกฝ่ายหันมาส่งสายตาดุๆ ด้วยรู้ดีว่านั่นคือการประชด “โอเค ยอมแล้วเจ้าค่ะ ว่าแต่ถงอีอีใช่ไหมที่จะเป็นคนเอามื้อกลางวันมาให้ ขืนช้าไปกว่านี้ ข้าจะกินท่านแล้วนะ” เธอขู่พลางอ้าปากทำท่าจะงับ แตก็ต้องรีบหุบปาก เพียงเพราะหน้านิ่งๆ กับสายตาดุๆ ที่อีกฝ่ายส่งมาให้ “ถงอีอีเป็นสาวใช้ในบ้านข้า นางจะเป็นคนนำสำรับมาให้ในยามที่ข้าพำนักอยู่ที่นี่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้นางสงสัยหรือตกใจไปซะก่อน เจ้าควรรีบไปหลบข้างใน อย่าเพิ่งให้นางเห็น นางมานั่นแล้ว เจ้ารีบไปเถอะ” ถึงแม้จะไม่เข้าใจนัก แต่เธอก็รีบหลบเข้าไปตามคำสั่ง แต่เชื่อเถอะว่าประตูบานแค่นี้ปิดกั้นความอยากรู้ของเธอไม่ได้หรอก “คุณชายหิวแล้วหรือเจ้าคะ” สาวใช้เห็นคุณชายมายืนรออยู่ด้านหน้า จึงอดแปลกใจไม่ได้ “อืม…ก็นิดหน่อย” คนไม่ชอบการโกหกทำสีหน้าเลิ่กลั่ก “งั้นเดี๋ยวข้าน้อยรีบไปจัดสำรับมาให้นะเจ้าคะ” ถงอีอีทำท่ากุลีกุจอจะไปจัดสำรับให้ด้วยความกระตือรือร้น ด้วยไม่เคยเห็นคุณชายของตนเป็นเช่นนี้มาก่อน “ไม่ต้อง เดี๋ยวข้าจัดการเอง เจ้ามีอะไรต้องทำก็ไปทำเถอะ” เขาบอกพลางยื่นมือไปรับตะกร้าจากอีกฝ่าย แต่รายนั้นกลับปฏิเสธ มิหนำซ้ำยังรีบเบี่ยงตัวหลบ “ก็นี่ล่ะเจ้าค่ะสิ่งที่ต้องทำ มันเป็นหน้าที่ของข้านะเจ้าคะ” ถงอีอีกำตะกร้าไว้แน่นราวกับหวงแหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม