ตอนที่ 2

1102 คำ
“มีเรื่องอะไรหนักใจ กระเต็นบอกพี่ได้นะครับ พี่ยินดีรับฟัง และเต็มใจเป็นที่ปรึกษาให้” ภาสกรยื่นมือออกไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาบีบเบาๆ มองหญิงสาวด้วยสายตาหวานเชื่อม พลอยไพลินยิ้มแหยๆกับการถึงเนื้อถึงตัวเธอของเขา หญิงสาวชักมือกลับช้าๆ ไม่ให้เป็นการดูเสียมารยาท “ขอบคุณพี่กรนะคะ แต่ไม่เป็นไร เต็นทำได้แน่นอนค่ะ” พลอยไพลินค่อยๆเลื่อนสองมือลงจากโต๊ะวางไว้บนตัก ซุกซ่อนมันจากการฉวยโอกาสของเขา ภาสกรมองตามอย่างแสนเสียดาย เพราะแม้ว่าพลอยไพลินจะยอมรับนัดเขาบ่อยๆ หรือกระทั่งเธอเป็นคนนัดเขาเอง แต่หญิงสาวก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวเลย แม้เธอจะดูเป็นปาร์ตี้เกิร์ลแต่เธอก็ไว้ตัวราวกับนางพญา “น้องกระเต็นของพี่เก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีแน่นอน” “ค่ะ” พลอยไพลินยิ้มแหยอีกครั้งกับคำว่า น้องกระเต็นของพี่ อยากจะถามเขาเหลือเกินว่า ฉันไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไรกันยะ เธอรู้สึกว่า คิดผิดเสียแล้วที่เลือกโทรหาอีตานี่ให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวฟังเพลง ตอนแรกๆที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก็เห็นเขาเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็เลยไว้ใจ แต่พอมาวันนี้ชักจะไม่ใช่อย่างที่คิดแล้ว เขาไม่น่าไว้วางใจ และเธอจะไม่ให้โอกาสเขาอีกแน่นอน อารมณ์ยิ่งกำลังไม่เข้าที่เข้าทางอยู่ด้วย พอมาเจอคนฉวยโอกาสแบบนี้ เลยพลอยทำให้ไอ้ที่เครียดอยู่แล้ว ก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่…เธออยากกลับบ้านแล้ว “กระเต็น” เสียงเรียกคุ้นเคยที่ได้ยินชัดเจนเต็มสองหู ทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อยๆ และร้อนวาบไปทั้งสันหลัง พลอยไพลินรีบเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะด้วยสายตาตื่นตระหนก “พี่โย!” หญิงสาวบอกไม่ถูกว่าจะดีใจหรือตกใจกันแน่ที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้ เธอกำลังอยากกลับบ้านก็จริง แต่เธอไม่อยากกลับกับเขา แต่เธอก็รู้ดีว่าเมื่อเขามายืนอยู่ตรงนี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะได้กลับบ้านเอง หรือแม้กระทั่งได้นั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปอีกเกินห้านาที “พี่มารับน้องกลับบ้าน” ใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงทุ้มน่าเชื่อถือ ประกอบกับรอยยิ้มมีมารยาท และท่าทางที่ดูเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วของคนที่อ้างว่ามารับน้องกลับบ้านทำให้ภาสกรอึ้งไปชั่วครู่ ชายหนุ่มรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือวาโย เขาเป็นเครือญาติต่างสายเลือดของพลอยไพลิน ผู้ชายคนนี้ได้รับการยอมรับ และได้รับความไว้วางใจให้เข้านอกออกในบ้านของคุณเพชรเพทายและคุณตวิษา ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของหญิงสาว แถมเขายังได้รับเกียรติจากบิดาของหญิงสาว ด้วยการให้ลูกๆทั้งสามนับถือเขาในฐานะพี่ชายด้วย ไม่นับที่เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของหยาดพิรุณ ซึ่งเป็นบุตรสาวบุญธรรมที่ผู้ใหญ่ทั้งสองชุบเลี้ยงมาแต่เด็ก ก่อนที่วาโยจะตามหาน้องสาวต่างมารดาจนเจอเมื่อปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ของวาโยกับครอบครัวของพลอยไพลินค่อนข้างแน่นแฟ้น ดังนั้นการที่เขามาเอ่ยปากบอกว่าจะพาน้องกลับบ้าน ภาสกรจึงไม่กล้าขัด ใบหน้าน่ารักงอหงิก ปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น จมูกเหมือนมีไฟพ่นออกมาทุกครั้งที่หายใจออก ดวงตาคู่งามราวกับมีกองเพลิงลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ทว่าเธอก็ต้องจำยอมนั่งมาในรถยุโรปคันหรูของคนเป็นต่อ ยิ่งชำเลืองตามองฝ่าแสงสลัวภายในรถแล้วเห็นรอยยิ้มเยาะของเขา เธอก็ยิ่งโมโห อยากจะข่วนหน้าหล่อๆกวนๆสักสิบที หน้าตาแบบนี้จะเห็นเฉพาะเวลาเขาอยู่กับเธอสองต่อสองเท่านั้น คนอื่นน่ะเหรอ...คงเคยเห็นแต่ใบหน้าเคร่งขรึมน่าเชื่อถือ และรอยยิ้มอบอุ่นเป็นมิตรของเขา ไม่มีใครรู้หรอกว่า เขาเป็นเสือซ่อนเล็บ ซ่อนจนมิด จนไม่มีใครสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของเขา มีแต่เธอนี่แหละ ถูกเสือตัวโต เขี้ยวยาว เล็บคมอย่างเขาทั้งตะปบทั้งกัดขย้ำจนบอบช้ำไปแทบจะทั้งตัวแล้ว เกลียด! ...คนเจ้าเล่ห์ คนชอบสร้างภาพ “ไปกินข้าวไปเป็นเพื่อนพี่ก่อน” “ไม่ค่ะ เต็นจะกลับบ้าน” “พี่แค่บอก ไม่ได้ถามว่าเต็นอยากไปไหนสักหน่อย” น้ำเสียงราบเรียบกับรอยยิ้มบางบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้พลอยไพลินอยากจะกรี๊ดให้ลั่นรถ หากแต่การต้องอยู่กับเขาสองต่อสองแบบนี้ ไม่เป็นการดีเลยถ้าเธอจะทำอย่างนั้น เธอเรียนรู้ว่าพี่โยเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ เขาจำเพาะเจาะจงเอาแต่ใจกับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขามีวิธีทำโทษที่ทำให้เธอไม่กล้าหือ ไม่กล้าขึ้นเสียงสักแอะ พลอยไพลินยังจำได้ดีถึงตอนที่เธอถูกเขาทำโทษครั้งแรก ตอนนั้นบริษัทของเขามีหน้าที่รับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยงานแฟชั่นโชว์เครื่องประดับและอัญมณี ซึ่งบริษัทของครอบครัวเธอก็ได้นำเครื่องเพชรไปโชว์ในงานด้วย ในงานนั้นเธอโกหกเขาว่าพลอยชมพูหรือกระติ๊บน้องสาวของเธอโทรมาบอกว่าเครื่องเพชรของบริษัทถูกปล้น เพราะต้องการแยกเขาออกจากน้ำฝน เพื่อเปิดโอกาสให้พี่เพลิงได้ลักพาตัวน้องสาวบุญธรรมของเธอกลับไร่ภูอิงฟ้าไปปรับความเข้าใจกัน เธอโกหกเขา พาเขาเดินวกไปวนมา เขาเองก็ยอมเดินตาม ทั้งที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีการปล้นเกิดขึ้น กระทั่งเธอพลาดที่พาเขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว “ไหนล่ะกระติ๊บ” วาโยวิ่งตามพลอยไพลินเข้ามาถึงห้องส่วนตัวที่หยาดพิรุณใช้แต่งตัวก่อนเริ่มงาน “เอ่อ...สงสัยอยู่อีกห้องหนึ่ง หรืออาจจะอยู่ที่ลานจอดรถ อืม...เต็นว่าเราไปที่ลานจอดรถกันเถอะค่ะ” ร่างบางเดินกลับไปยังประตูที่เพิ่งเปิดเข้ามาได้ครู่เดียว แต่วาโยกลับเดินมาขวางไว้ ชายหนุ่มกอดอกส่งสายตาดุมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างประเมิน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม