พลอยไพลินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอยังไม่พร้อมจะสูญเสียความสาวในตอนนี้ พี่โยนี่ก็กระไร รุกเธอหนักเหลือเกิน เล่นเจ้าล่อเอาเถิดอยู่ได้ ทั้งที่ไม่มีอะไรชัดเจนกับเธอเลย
“เต็นไม่ยอมนะ พี่โยจะมาทำกับเต็นแบบนี้ไม่ได้” น้ำเสียงสั่นๆ ตัดพ้อน้อยใจ
“เต็นคิดว่าพี่จะทำอะไร” วาโยถามเสียงเข้ม ทว่าใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“ทำ เอ่อ...”
“คิดไปไกลนะเรา เดี๋ยวพี่ก็ทำตามที่เต็นคิดจริงๆซะหรอก” วาโยว่ายิ้มๆ
“คิดอะไร เต็นไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ปล่อยเต็นได้แล้วค่ะ เต็นจะไปอาบน้ำ” พลอยไพลินเปลี่ยนเรื่อง ไหนๆเธอก็ต้องจำใจอยู่กับเขาต่อ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ยกแม่น้ำทั้งโลกมาอ้าง เขาก็ไม่มีทางพาเธอกลับแน่ๆ
“ตกลงจะไม่แลก” วาโยถามเสียงทุ้ม คิ้วเข้มข้างหนึ่งเลิกสูง สายตาคมปลาบจับจ้องดวงหน้าหวานซึ้งไม่วางตา
พลอยไพลินถอนหายใจสุดแรง มองค้อนคนที่ยังคงกอดรัดเธอไว้แนบกายแกร่ง
“จะนอนกี่คืนก็เรื่องของพี่โยเถอะค่ะ เต็นรู้หรอกว่า ถึงเต็นจะเอาอะไรมาแลก ถ้าพี่โยคิดจะพักที่นี่ต่อ พี่โยก็จะพัก ไม่ว่ายังไงพี่โยก็จะเอาแต่ใจ ดังนั้นจะนอนกี่คืนก็แล้วแต่เลยค่ะ นอนกันสักเดือนหนึ่งก็ได้ งานการจะได้ไม่ต้องทำกัน สบายดีออก” พลอยไพลินว่าประชด หญิงสาวผลักอกแน่นตึงสุดแรง
“ถ้าจะพักอยู่เป็นเดือนเนี่ย คงต้องไปฮันนีมูนกันแล้วล่ะครับ แต่ถ้าเต็นจะไปฮันนีมูนกับพี่ พี่ขอเตือนนะว่า เต็นต้องฟิตร่างกายดีๆ เพราะว่าพี่...อึดมาก”
วาโยกระเซ้า ทว่าเขากลับใช้น้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งขรึม คนที่ถูกชวนไปฮันนีมูนด้วยหน้าเหวอ ใบหน้าสาวร้อนผ่าวกับคำบอกเล่าชวนคิดลึก
“บะ...บ้า ใครเค้าจะไปฮันนีมูนกับตัว” พลอยไพลินออกแรงดันแผ่นอกกว้างอีกครั้ง คราวนี้วาโยยอมปล่อยแต่โดยดี หญิงสาวจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้อง แล้วลากกระเป๋าติดมือเข้าไปในห้องน้ำไปด้วย
วาโยยิ้มในหน้า เขาถอนหายใจเบาๆ เมื่อกี้เห็นหน้าแดงๆ เสียงสั่นๆแล้วก็นึกสงสาร เลยปล่อยนกกระเต็นน้อยไปก่อน เขาควรให้อิสระกับเธอบ้าง ก่อนที่อิสระของเธอจะอยู่ในอุ้งมือเขาตลอดไป
หลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควร พลอยไพลินก็ตัดสินใจเปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า คืนนี้เธอต้องนอนค้างอ้างแรมกับเสือร้าย
วาโยนั่งอยู่ตรงระเบียง บนโต๊ะตรงหน้าเขามีอาหารหลายอย่าง กลิ่นของมันยั่วน้ำย่อยในท้องของคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเหลือเกิน ร่างอรชรจึงเดินตรงไปยังระเบียงโดยไม่รอคำชวนจากคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
พลอยไพลินสวมชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนกุดขนาดพอดีตัวปล่อยชาย ผมยาวถูกม้วนแล้วเกล้าขึ้นไว้ลวกๆ เผยดวงหน้านวลผ่องกระจ่างใสไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม ผิวเนื้อสาวขาวเนียนตรึงสายตาคนที่นั่งมองเธอตั้งแต่ก้าวออกมาจากห้องแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาบางเบาก่อนเจ้าตัวจะเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามสะกดให้คนหลงน้องหลุดมาดเข้มดุ วาโยเผลอสูดลมหายใจเข้ายาวๆ ริมฝีปากคลี่ยิ้มอิ่มเอมในอก
“โอ้โห! น่ากินทั้งนั้นเลย เต็นกินเลยนะคะ” พลอยไพลินทำลายบรรยากาศชวนเคลิบเคลิ้มของใครบางคนด้วยเสียงดังลั่นคุ้งน้ำ หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วลงมือรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจสายตาอ่อนโยนปนขำที่มองเธออยู่สักนิด
“พี่โยไม่กินเหรอคะ” เมื่อเขาเอาแต่นั่งจ้อง พลอยไพลินจึงต้องหาเรื่องคุย มองอยู่ได้ มองจนเธอจะละลายไปกับสายน้ำแล้ว
“ป้อนพี่หน่อยสิครับ” วาโยไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา อยากอ้อนก็จะอ้อน อยากทำอะไรให้หัวใจชุ่มชื่นก็จะทำ เพราะหากกลับเข้าเมืองกรุงแล้ว โอกาสที่จะได้อ้อนน้องนั้นน้อยมาก และน้องก็ดื้อ คงไม่ยอมให้เขาอ้อนง่ายๆ แต่ที่นี่มีแค่เขากับน้องเพียงสองคน ปิดประตูการหนีของเธอไว้ทุกทาง เธอไม่มีทางขัดใจเขาแน่นอน
“มือไม้ก็มี ยังจะใช้คนอื่นอีก” พลอยไพลินบ่นอุบ แต่ก็ยอมหยิบช้อนกลางตักกับข้าวไปวางลงบนจานให้เขา
“ป้อนสิครับ ไม่ใช่เอามาวางให้แบบนี้”
พลอยไพลินวางช้อนของตัวเองลง ยื่นมือไปจับช้อนและส้อมของคนนึกอยากเป็นง่อยชั่วคราว ตักอาหารใส่ช้อนแล้วยกขึ้นไปจรดริมฝีปากเขา
“อ้ามมม...” พลอยไพลินทำเสียงล้อเลียนเขาด้วยความหมั่นไส้ สายตาจิกมองอย่างไม่พอใจ
วาโยหัวเราะในลำคอ ก่อนอ้าปากรับอาหารที่น้องป้อนเข้าปาก
“พี่อยากกินจานนั้นด้วย” วาโยชี้นิ้วไปยังจานอาหารอีกจาน พลอยไพลินมองตามนิ้วชี้ยาวเรียวของเขา ใบหน้าสาวเริ่มหงิกงอ แต่ก็ยอมตักอาหารในจานที่เขาต้องการป้อนให้ถึงปาก ทว่าพี่โยผู้เอาแต่ใจกลับไม่พอแค่นั้น ดูเหมือนว่าพอได้คืบเขาก็จะเอาศอก ได้กินผัดก็จะกินแกงเพิ่ม
“แกงในถ้วยนั้นด้วย น่าอร่อยดี เต็นป้อนพี่หน่อยนะครับ” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มบาง ตาคมวิบวับสบสายตากับดวงตาเคืองขุ่นของคนน่ารัก
“พี่โยกินเองสิ เต็นก็หิวเหมือนกันนะคะ” พลอยไพลินโวย หญิงสาววางช้อนส้อมของเขาลงบนจานตรงหน้าเจ้าของมัน แต่พอเธอจะดึงมือกลับมาจับช้อนส้อมของตัวเอง เขาก็เอื้อมมือมาแย่งมันไปถือไว้ พลอยไพลินมองตามด้วยความโมโห เธอกำลังโมโหหิว และถ้าเขายังไม่หยุดทำให้เธอโมโหไปมากกว่านี้ เธอจะกระโดดจับเสือตรงหน้ามาหักคอกินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“พี่โย เต็นหิว” พลอยไพลินบอกเสียงเข้มกว่าปกติ
“พี่ป้อน” วาโยตักอาหาร แล้วยื่นช้อนไปตรงหน้าคนหิว
“กินสิครับ พี่ป้อน”
“เต็นกินเองได้ค่ะ พี่โยไม่ต้องป้อนหรอก”
“พี่อยากป้อน และเต็นก็ต้องป้อนพี่ด้วย ผลัดกันป้อน จะได้อิ่มพร้อมกัน” คนหน้ามึนบอก รอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ระบายอยู่เต็มใบหน้าช่างน่าหมั่นไส้นัก พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง เธอเคยขัดใจเขาได้ที่ไหน คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ เอาแต่ใจเกินไปแล้ว