พลอยไพลินกำลังสับสนว่า เธอต้องการให้เขารับผิดชอบรอยจูบบนปากเธอก็จริง แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง
“กระเต็น...” วาโยเรียกปลายสายเสียงนุ่มทุ้ม
“เอ่อ...กะ...ก็......”
“พี่รอฟังอยู่” เมื่ออีกฝ่ายอึกอัก และเงียบไปดื้อๆ วาโยจึงเอ่ยปากเร่งเร้า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร
“เอ่อ...ครั้งต่อไป พี่โยต้องจูบเบาๆ แล้วก็ห้ามทำให้เป็นรอยอีก” วาโยเงยหน้าขึ้น ยิ้มกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะตอบรับข้อเรียกร้องของแม่นกกระเต็นน้อย
“ครับ...พี่สัญญาว่า ครั้งต่อไปจะจูบเต็นเบาๆ จะไม่ดูดให้ช้ำ จะไม่เม้มให้เจ็บ จะไม่กัดให้เป็นรอย”
“พี่โย!” พลอยไพลินแหวเสียงสูง ใบหน้าสาวร้อนผ่าว เธอคิดผิดแล้วที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา และเธอพลาดที่พูดถึงการจูบครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเธอยอมรับว่ามันจะต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ๆ ตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่เธอพูดไป อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ไปพูดถึงจูบครั้งต่อไปได้ยังไงกัน
“เสียงสูงเชียว ไม่ชอบจูบแบบที่พี่บอกเหรอครับ งั้นก็...จูบครั้งต่อไปของเรา ก็คงดุดันเหมือนเดิมนะครับ”
คุณวาทิตมองลูกชายเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมด้วยความแปลกใจ วาโยยิ้มตลอดเวลา ยิ้มให้ทุกอย่างรอบกาย ยิ้มเรี่ยราดอย่างคนลืมตัว กระทั่งยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบแล้วถือค้างไว้ก็ยังยิ้มไม่หยุด
“สาวโทรมาล่ะสิ อารมณ์ดีแต่เช้าเชียว”
“ครับ” วาโยยอมรับว่าเขาอารมณ์ดีจริงๆ และเมื่อบิดาทัก ชายหนุ่มก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นอีก เขาวางถ้วยกาแฟลงบนจานรอง แล้วทอดถอนใจอย่างมีความสุข
“ให้พ่อไปทาบทามสู่ขอให้เลยดีไหม” คนอยากมีลูกสะใภ้ อยากมีหลานตัวน้อยมาวิ่งเล่นในบ้านใจร้อนกว่าลูกชายเสียอีก
“ยังครับคุณพ่อ ให้เวลาน้องอีกหน่อยดีกว่า ผมไม่อยากเร่งรัด”
“หรือว่ามีตัวเลือกหลายคน เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใครดี”
“ตัดสินใจได้ตั้งนานแล้วครับ ลูกสะใภ้คุณพ่อต้องเป็นคนนี้คนเดียวเท่านั้น” วาโยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“มัวเล่นเจ้าล่อเอาเถิดอยู่ได้ ไม่จับจองหมั้นหมายไว้ระวังคนอื่นจะตัดหน้า” คุณวาทิตว่าไม่จริงจัง แต่ใบหน้าลูกชายกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมาทันที
“ใครมันกล้าก็ลองดู ผมจะจัดการแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น” เสือหวงคำรามเสียงเข้ม ดวงตาคู่คมวาววับ เขาจอง เขาหวง เขาเอาใจใส่แบบมึนๆ มาตั้งเกือบปี ใครมันคิดจะมาแย่งไป ได้เจอดีแน่
คุณวาทิตหัวเราะในลำคอ นึกแย้งอยู่ในใจว่า หากจะหวงขนาดนี้ ทำไมไม่จัดการอะไรให้มันเรียบร้อย แล้วเมื่อไรท่านจะได้อุ้มหลานปู่เสียที
“วันเสาร์หน้าพ่อว่าจะไปเยี่ยมน้ำฝนกับเจ้าพุ” เมื่อนึกถึงเรื่องหลาน ก็เลยพานให้คิดถึงน้ำพุหรือเจ้าพุ เด็กชายวัยสามเดือนซึ่งเป็นหลานตา น้ำพุเป็นลูกของน้ำฝนซึ่งเกิดจากภรรยาอีกคนที่ไม่ใช่แม่ของวาโย ทว่าภรรยาทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว ชีวิตของคุณวาทิตตอนนี้จึงมีลมหายใจอยู่เพื่อลูกเพื่อหลานเท่านั้น
น้ำฝนหรือหยาดพิรุณแต่งงานกับเพลิงตะวันเจ้าของไร่ภูอิงฟ้าเมื่อปีที่แล้ว คุณวาทิตหมดห่วงลูกสาวแล้ว เพราะลูกเป็นฝั่งเป็นฝา มีสามีที่รักและดูแลลูกสาวของท่านเป็นอย่างดี จะห่วงก็แต่ลูกชายที่ไม่ยอมพาลูกสะใภ้เข้าบ้านสักที ท่านกลัวจะตายก่อนได้อุ้มหลานปู่
“วันเสาร์ผมมีงาน คุณพ่อเลื่อนเป็นวันอาทิตย์ได้ไหมครับ ผมจะได้ขับรถให้”
“ไม่เป็นไร พ่อจะไปกับคุณเพชร บ้านนั้นเขาจะเอารถตู้ไป เห็นว่าไปกันทั้งบ้าน”
วลีที่ว่า ไปกันทั้งบ้าน ทำให้วาโยอมยิ้มน้อยๆ
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะขับรถตามไปวันอาทิตย์นะครับ อยากไปเยี่ยมน้องกับหลานเหมือนกัน คิดถึงเจ้าพุ ป่านนี้จะคลานได้หรือยังก็ไม่รู้”
“เจ้าพุมันเพิ่งสามเดือนเองนะวาโย เด็กสามเดือนที่ไหนคลานได้กันเล่า แบบนี้โยต้องมีลูกเป็นของตัวเองได้แล้วนะ จะได้รู้เรื่องพัฒนาการของเด็กบ้าง”
วาโยหัวเราะแก้เก้อ เขาไม่ค่อยรู้เรื่องพัฒนาการของเด็กจริงๆ จึงไม่รู้ว่าเด็กสามเดือนทำอะไรได้บ้าง
เมื่อถูกบิดาแซวเรื่องลูก ก็พานทำให้เขานึกถึงใบหน้าว่าที่แม่ของลูก เสียงห้วนจัดในประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะวางสายเมื่อครู่ยังแว่วอยู่ในหู
“พี่โยคนหื่น เต็นไม่คุยด้วยแล้ว”
หื่นเหิ่นอะไรกัน เขาอดทนมาตลอด ก็แค่จูบแค่กอด ยังไม่ทันได้ทำอะไรหื่นๆสักหน่อย แม่นกกระเต็นน้อย รู้จักนิยามของคำว่าหื่นดีแค่ไหนกันเชียว
“พ่อว่าโยควรรีบจัดการเรื่องลูกสะใภ้พ่อได้แล้วนะ อาการหนักนะเรา” คุณวาทิตส่ายหน้ากับอาการนั่งเหม่อตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของลูกชาย เป็นเอามากขนาดนี้ยังไม่ยอมให้ท่านไปสู่ขอให้ มัวแต่ใจเย็นอยู่ได้ แล้วเมื่อไรท่านจะได้อุ้มหลานปู่ไปอวดคนอื่นเขาบ้าง
วาโยสบสายตาบิดา เขายิ้มให้ท่าน ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เร็วๆนี้แหละครับ”
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ส่งไปทำงานนะ ไม่ได้ส่งไปออกรบ” เพชรนิลกระเซ้าน้องสาวอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เขาเดินออกมาส่งเธอที่หน้าบ้านในตอนเช้าตรู่ บิดา มารดา และคนอื่นๆยังไม่ลงมาจากบนบ้าน
“โป้ง!” พลอยไพลินยกนิ้วโป้งให้พี่ชาย แล้วค้อนวงเล็กแถมให้อีกหนึ่งวง
“โตแล้ว ทำเป็นเด็กไปได้” เพชรนิลโคลงศีรษะน้องสาวเบาๆ
“ก็เต็นยังเด็กอยู่จริงๆนี่นา พี่ต่ายตัดสินใจใหม่ดีกว่าไหม แน่ใจนะว่าจะให้เต็นไปทำงานนี้จริงๆ”
“พี่ไว้ใจเต็น” คนเป็นพี่ยิ้มให้กำลังใจน้องสาว พลอยไพลินสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วพ่นออกมาแรงๆ
“ก็ได้ค่ะ เต็นจะทำให้เต็มที่ ให้สมกับที่พี่ต่ายไว้ใจ”
“ดีมาก ว่าง่ายๆ โตไวๆ” เพชรนิลหยิกแก้มนุ่มน้องสาวเบาๆ ฝ่ายถูกหยิกแก้มยิ้มจนตาหยี ก่อนจะสบสายตาพี่ชายอย่างมีเลศนัย