ตอนที่ 6

1140 คำ
“ต่ายให้ใครไปดูพลอยที่เมืองกาญจน์เหรอลูก” แม้จะวางมือจากการงาน ส่งมอบอำนาจและหน้าที่ให้ลูกชายคนโตดูแลทั้งหมดแล้ว แต่เพชรเพทายก็ยังติดตาม ให้คำปรึกษา และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ “เต็นเองค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินชิงตอบก่อน หญิงสาวกำลังจะอ้อนขอไม่ไปแต่ทว่า “ดีแล้ว จะได้รู้จักทำการทำงาน เรียนรู้ให้รอบด้าน” แทนที่พ่อเพชรของเธอจะเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ท่านกลับสนับสนุนแนวความคิดพี่กระต่ายน้อย เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียนี่ ทำให้คนที่คิดจะหาพวกต่อต้านคำสั่งพี่ชายหน้าตูมทันที “ให้น้องไปคนเดียวหรือกระต่าย” แม่กระแตถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว “ผมมีทีมบอดี้การ์ดไปคอยคุ้มกันน้องด้วยครับคุณแม่” เพชรนิลบอกให้มารดาคลายกังวล “แต่น้องเป็นผู้หญิง” แม่กระแตยังไม่วายแย้ง “ผมให้คุณนิตยาผู้จัดการแผนกจัดซื้อไปเป็นเพื่อนน้องครับ น้องโตแล้วนะครับคุณแม่ น้องต้องเรียนรู้งานให้รอบด้านเหมือนกับที่คุณพ่อบอกนะครับ” เพชรนิลบอกเหตุผลแก่มารดา เขาเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงลูกสาว แต่สมควรแก่เวลาแล้วที่น้องสาวของเขาต้องเรียนรู้งานอย่างจริงจังเสียที “คุณแม่ขา เต็นไม่ไปก็ได้นะคะ ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจ” เห็นได้ชัดว่าแม่เป็นห่วง และพร้อมจะยืนข้างเธอ พลอยไพลินรีบออดอ้อน หยิบยกเอาความสบายใจของท่านมาอ้าง “แม่เชื่อว่าพี่ต่ายคิดดีแล้วล่ะ ถึงมอบหมายให้เต็นทำงานนี้” แม่กระแตตอบยิ้มๆ แม้จะห่วงใย แต่ก็ไม่ขัดลูกชายคนโต เพราะเชื่อว่าพี่ชายหวังดีกับน้องเสมอ อีกอย่างกระเต็นยังติดเพื่อนฝูง ยังห่วงความสนุก ความรับผิดชอบยังไม่ค่อยมี ต้องบังคับแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่คิดจะเรียนรู้อะไรเอาเสียเลย “คุณแม่อ่ะ ทำไมไม่เข้าข้างเต็น” “ไม่ต้องมาอ้อนหาพวก เตรียมตัวไว้เลย วันจันทร์จะมีคนขับรถมารับ งานนี้พี่ให้พี่โยจัดทีมบอดี้การ์ดฝีมือดี และไว้ใจได้มาคอยดูแลน้องเต็นโดยเฉพาะเลย ไม่ต้องห่วงว่าจะหนีเที่ยวได้ เอ๊ย! ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย” เพชรนิลกระเซ้าคนหน้าตูม แม่นกกระเต็นน้อยของบ้านมองค้อนพี่ชาย ปากจิ้มลิ้มยื่นออกมาน้อยๆแสดงถึงความไม่พอใจชัดเจน “พี่เต็นปากบวมอ่ะ ไปโดนอะไรต่อยมาเหรอคะ” ยัยกระติ๊บคือเจ้าหนูจำไมของบ้านตัวจริง ตาดีเป็นที่หนึ่ง เห็นอะไรผิดปกตินิดหน่อยก็ถาม และคำถามซื่อๆของน้องก็ทำให้พี่สาวรีบวางช้อน แล้วยกสองมือปิดปากไว้แน่น ดวงตาคู่งามหลุกหลิกมีพิรุธ “ไอ้เอ็นไออ๊ะอ่อย เอ็นอิ่มแอ๊ว อ๋ออัวอ๊ะอ๊ะ” พลอยไพลินรีบลุกขึ้น แล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้องตัวเอง ปล่อยให้ทุกคนมองตามด้วยความสงสัยว่าเธอพูดอะไร “ไม่เป็นไรซะหน่อย เต็นอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ” พลอยชมพูเป็นล่ามแปลงคำพูดอู้อี้ของพี่สาวให้ทุกคนได้เข้าใจและหายสงสัย พอเข้าห้องได้พลอยไพลินปิดประตูล็อกแน่นหนา หญิงสาวปรี่ไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่าริมฝีปากล่างบวมและมีรอยช้ำอยู่หนึ่งจุด “พี่โย!” เธออยากจะกรีดร้องดังๆ เกือบแล้วไหมล่ะ เกือบถูกจับได้ว่าโดนจูบแล้ว พลอยไพลินไม่รู้จะโกรธตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดร่องรอยบนริมฝีปากเธอ หรือว่าจะโกรธแม่น้องสาวผู้ช่างสังเกตดี หรือสุดท้ายแล้วเธออาจจะต้องโทษตัวเองที่ไม่สังเกตสังกาใบหน้าตัวเองให้ดีก่อนออกจากห้อง ยังดีที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องแบกปากบวมๆกับรอยจูบจากเขาออกไปโชว์ให้คนอื่นได้ทักอีกหลายคนแน่ๆ ด้วยความโมโหคนทิ้งร่องรอยไว้บนปากอิ่ม เขาทำให้เธอเกือบถูกคนในครอบครัวจับได้ว่าถูกผู้ชายจูบ พลอยไพลินจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบเอาโทรศัพท์บนโต๊ะเล็กข้างเตียง แล้วกลับมานั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนเดิม เธอมองร่องรอยบนริมฝีปากล่างที่สะท้อนจากกระจกอีกครั้ง ก่อนโทรออกหาตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอย เขาต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ เสียงเพลงสายเรียกเข้าที่ตั้งไว้เฉพาะเด็กดื้อดังขึ้นในตอนที่วาโยกำลังรับประทานอาหารเช้ากับบิดา ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เอ่ยขออนุญาตบิดาเพื่อออกไปรับโทรศัพท์อีกห้องหนึ่ง ร่างสูงเต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อในชุดลำลองเดินไปหยุดอยู่ตรงผนังกระจกใสบานใหญ่ นิ้วเรียวสไลด์หน้าจอเพื่อรับสาย แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มบาง สายตาคมมองไปยังวิวสวนดอกไม้กว้างหลังบ้าน “พี่โย!” คนที่รอสายนานจนแทบจะวางอยู่รอมร่อ เรียกเป้าหมายที่โทรหาด้วยโทนเสียงสูงปรี๊ด วาโยเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งอย่างแปลกใจ แม่นกกระเต็นตัวน้อยของเขากลายร่างเป็นแม่เสือเสียแล้ว แถมยังคำรามขู่เรียกเขาอย่างไม่เกรงกลัวเหมือนทุกครั้งด้วย “ครับ” วาโยขานรับเสียงราบเรียบ เขาอมยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงหอบหายใจฟืดฟาดจากปลายสาย ไม่รู้ว่าเธอกำลังโมโหหรือโกรธเรื่องอะไร แต่เขาพอใจที่เธอโทรมา เสียงของเธอทำให้เขาอารมณ์ดีแต่เช้าเลย “พี่โยทำปากเต็นบวม แล้วก็เป็นรอยด้วย พี่โยต้องรับผิดชอบเรื่องนี้” คนถูกทวงถามความรับผิดชอบระบายยิ้มเต็มใบหน้าหล่อเหลา วาโยล้วงมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกงขาสั้นสีขาว เขายืนด้วยท่วงท่าสบายๆ ดวงตาคู่คมเป็นประกาย เขาจินตนาการถึงใบหน้าของอีกฝ่ายได้แจ่มชัด น้ำเสียงแบบนี้คงโมโหหนัก ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราคงแดงก่ำ จมูกรั้นนิดๆก็คงเชิดสูง ริมฝีปากอิ่มตึงที่เธอบอกว่ามันบวมและเป็นรอยก็คงจะยื่นออกมาน้อยๆ แต่สรุปแล้วไม่ว่าจะอยู่ในห้วงอารมณ์ไหนน้องก็น่ารักเสมอสำหรับเขา ถ้าอยู่ใกล้ๆจะจับจูบซ้ำให้เป็นรอยอีกสักรอย “พี่โย! ฟังอยู่หรือเปล่าคะ” เมื่ออีกฝ่ายเงียบ คนที่ร้อนใจกับรอยจูบก็แหวมาตามสายด้วยโทนเสียงสูงปรี๊ดเหมือนเดิม “ฟังอยู่ครับ” “พี่โยต้องรับผิดชอบเรื่องนี้” พลอยไพลินย้ำจริงจัง “ครับ พี่ยินดีรับผิดชอบ เต็นจะให้พี่รับผิดชอบยังไง ว่ามาเลยครับ” พอตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยยืดอกสามศอกบอกจะรับผิดชอบ ฝ่ายที่โทรมาโวยวายเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองกลับนิ่งเงียบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม