ณ คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา
น้ำหวานมองกุญแจห้องและคีย์การ์ดในมืออย่างชื่นใจที่วันนี้เธอมีโอกาสได้ใช้มัน เธอกำลังจะไขเข้าห้องของคนที่เคยให้กุญแจเธอมาตอนที่พบกันในงานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนสตรีชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา น้ำหวานนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอได้กุญแจมาแล้วก็อดยิ้มอย่างพึงพอใจไม่ได้
ในงานวันรวมรุ่นของโรงเรียนหญิงล้วนวันนั้นทำให้เธอได้เห็นหน้าเจ้าของคอนโดห้องนี้แล้วก็รู้สึกดีด้วยแต่แรกเห็น และเธอก็พยายามเข้าใกล้ และหาทางที่จะทำให้เป็นที่สนใจตั้งใจจะไม่ปล่อยให้คนที่เธอปลื้มตั้งแต่แรกเห็นหลุดลอยไปไม่เจอกันอีก เธอจึงต้องใช้มารยาเล่าเรื่องกลุ้มใจให้ฟัง
“น้ำหวานจำเป็นต้องเข้าไปสอบเรียนต่อที่กรุงเทพๆ หาที่พักก็ไม่ได้ เพราะญาติที่นั่นก็ไม่มี พ่อก็มัวแต่ทำงานไม่มีเวลาว่างเลย ทำไงดีคะพี่”
เพราะรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้อาศัยคอนโดคนเดียวในกรุงเทพๆ เธอจึงแกล้งถามอย่างเป็นกังวล ทั้งที่ความจริงแล้วปัญหาเช่นนั้นไม่มีทางเกิดกับเธอได้แน่เมื่อบิดาเธอนั้นตามใจและดูแลเธอดีราวกับไข่ในหินและเธอก็ไม่เคยเดือดร้อนอะไรเพราะมีบริวารล้อมรอบมากมายคอยอำนายให้เธอ
รุ่นพี่คนนั้นมองเธออย่างเห็นใจ แล้วก็พูดเข้าทางน้ำหวานทุกอย่าง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังตกหลุมน้ำหวานเข้าให้แล้ว
“งั้นน้ำหวานก็มาพักกับพี่ก็ได้นะ ถ้าไปคนเดียวอยู่คนเดียวจะลำบากเพราะเราเป็นผู้หญิง”
แล้วรุ่นพี่คนนั้นก็ให้คีย์การ์ดและกุญแจห้องกับเธอมา น้ำหวานโทรคุยปรึกษากับพี่คนนี้ตลอดจนวันนี้เธอได้ให้คนขับรถของที่บ้านมาส่งเธอที่หน้าคอนโดนี้ก่อนจะไล่ให้กลับไป เธอมาโดยที่ไม่บอกเจ้าของห้องล่วงหน้ามาก่อนเพราะหวังจะเซอร์ไพรซ์ ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองนัก น้ำหวานเชื่อว่ารุ่นพี่คนนี้ก็มีใจให้เธอมากไม่ใช่น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่ชักชวนเธอมาพักพิงด้วยง่ายๆ อย่างนี้แน่
มาเยี่ยมสายไหมแล้วกลับไปคราวนี้น้ำหวานจะได้ประกาศตัวกับเพื่อนในกลุ่มอย่างสมบูรณ์ได้แล้วแหล่ะว่าเธอเป็นแฟนกับสายไหม... เพื่อนในกลุ่มจะได้ไม่บอกว่าเธอเพ้อฝันอีกต่อไป
น้ำหวานไขกุญแจแล้วเดินเข้าห้องไป ห้องนี้เป็นคอนโดมิเนียมแบบหนึ่งห้องนอน เห็นส่วนรับแขกที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีสไตล์แล้วน้ำหวานก็อมยิ้ม
“ไฟในห้องเปิดทิ้งไว้อย่างนี้ พี่ไหมคงอยู่ ดีจริง จะได้ไม่ต้องรอ”
น้ำหวานเดินเข้ามาเปิดประตูห้องนอนอย่างถือวิสาสะ มันไม่ได้ล็อคเธอจึงเปิดมันได้อย่างง่ายดาย แต่ในห้องไม่มีใครอยู่สักคน!
“จะเล่นซ่อนหากันก็ไม่บอก” น้ำหวานเดินเข้าไปในห้อง เป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าของห้องโผล่ออกมาจากห้องน้ำ น้ำหวานเห็นก่อนก็โผเข้าไปกอดคนที่ยืนงงอยู่ทันที
“พี่สายไหม”
“น้ำหวาน” สายไหมพูดอึ้งๆ ไม่นึกว่าจะเจอรุ่นน้องที่นี่ เธอกำลังจะออกไปหาเพื่อนที่นัดไว้พอดี แปลกใจที่เจอไม่เท่าไหร่ แต่ที่น้ำหวานเข้ามากอดเธอเสียแน่นชวนอึดอัดอย่างนี้มันน่าอึดอัดใจพิลึกเพราะเธอไม่เคยกอดผู้หญิงที่ไหน อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย ผู้ชายสายไหมก็ยังไม่เคย
“เหวอ ทำอะไรเนี่ยน้ำหวาน” สายไหมอุทาน เมื่อน้ำหวานหอมแก้มเธอฟอดใหญ่
“คิดถึงน้ำหวานไหมคะที่รัก น้ำหวานมาหาแล้ว เซอร์ไพร์ป่าวเอ่ย”
สายไหมผลักน้ำหวานออกแล้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
“วะ ว่าไงนะ คิดถึง ที่รัก หมายความว่าไงน้อง”
“แหม ทำเป็นงง ก็เราสองคน รักกันไงคะ”
“ไม่ใช่นะน้ำหวาน น้ำหวานเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ เราเป็นผู้หญิงทั้งสองคนเราจะเป็นแฟนกันได้ไง” สายไหมเกาหัว นี่ก็อีกรายล่ะซิที่คิดว่าเธอเป็นทอมทั้งที่เธอไม่ได้เป็น
“ไม่จริง น้ำหวานรู้ว่าพี่ไหมรักน้ำหวาน ไม่ต้องงงหรอกค่ะ” น้ำหวานเข้ามากอดเธอแล้วจะหอมแก้มเธออีก สายไหมผวาขนลุกไปทั้งตัว ผลักเท่าไหร่ก็สู้แรงของสาวรุ่นน้องที่ร่างสูงใหญ่กว่าตัวเองไม่ได้
สายไหมเกิดมาซวยที่ตัวเล็ก ไว้ผมยาวก็น่าเกลียดเลยตัดผมสั้น ตัดสั้นธรรมดาก็ไม่สวยจึงตัดรองทรงและทำแบบนี้มาตลอด บวกกับนิสัยห้าวๆ ทำให้หลายคนเข้าใจผิด รวมทั้งคนที่พยายามจะปล้ำเธอกลางห้องนอนนี่ก็อีกคนที่เข้าใจผิด
คนโดนเข้าใจผิดว่าเป็นทอมรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายก่อนจะผลักร่างน้องน้ำหวานออกไปได้
“น้ำหวาน กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้เลยนะ พี่เป็นผู้หญิงไม่ใช่ทอมอย่างที่น้องเข้าใจ อย่ามาทำอย่างนี้กับพี่ พี่ขอร้องล่ะ”
“ไม่จริง น้ำหวานไม่กลับ พี่สายไหมอย่าพูดตัดรอนกับน้ำหวานอย่างนี้สิคะ น้ำหวานตั้งใจจะมาหาเพราะคิดถึงนะ”
“โอเค ไม่ไปใช่ไหม งั้นพี่ไปเองก็ได้... พี่จะไม่มาที่ห้องอีกจนกว่าน้ำหวานจะกลับ ช่วยออกจากห้องพี่ด้วยนะน้อง” สายไหมวิ่งไปเก็บกระเป๋าและโทรศัพท์ เธอชี้หน้ารุ่นน้องจอมประหลาดไม่ให้เข้ามาใกล้ น้ำหวานได้แต่ยืนมองงงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมสายไหมไม่ต้อนรับเธอด้วยจูบอันแสนหวานอย่างที่เธอคิดฝันเอาไว้
“น้ำหวานจะอยู่ที่นี่จนกว่าพี่ไหมจะมา” เธอร้องตามออกไป
น้ำหวานคิดว่าสายไหมคงเขินเลยทำแบบนี้ เธอจึงคิดว่าจะอยู่รอที่นี่จนกว่าสายไหมจะกลับมา เพราะเธอจะไม่มีทางทิ้งสายไหมไปไหนเด็ดขาด