บอกกล่าวเรื่องอาหาร1

1488 คำ
ซ่งจื่อหรูบอกท่านปู่เก้าว่านางวางโจ๊กไว้ที่ไหน อย่าลืมให้อาไช่กินและกินทีละน้อย มีไข่4ฟองช่วงนี้นางอาจจะยุ่งนิดหน่อยให้ต้มไข่กับมันเทศกินไปก่อน เมื่อถึงบ้านก็เห็นซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวช่วยกันกวาดลานหน้าบ้าน ช่างเป็นเด็กรู้ความจริง "หิวแล้วสิ มากินโจ๊กกันเถอะ วันนี้พี่ต้มโจ๊กเกาลัดด้วย กินมากหน่อยจะได้ตัวสูงๆ" "พี่ใหญ่ พี่อาไช่จะตายไหมเจ้าคะ ข้าได้ยินคนพูดว่าพี่อาไช่ป่วยจนจะไม่ไหวแล้ว"ซ่งจื่อเย่วรู้ว่าเขาป่วยหลี่อาไช่เคยเลี้ยงนางกับจื่อห่าวเวลาที่ท่านแม่กับพี่สาวไปรับจ้างซ่งจื่อหรุจึงบอกนาง "พี่อาไช่จะไม่ตายหรอก....เขาเป็นเด็กดีกตัญญูยิ่งนักเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแน่ๆ" แต่ละปีมีเด็กไม่น้อยที่จากไปก่อนวัยอันควรเพราความอดอยากหิวโหย ทารกบางคนถูกโยนทิ้งบนเขามิใช่เพราะบิดามารดาไม่รัก หากแต่สถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนี้ บ้านไหนมีลูกมากก็ขายลูกขายหลานให้กับบ้านขุนนางหรือบ้านเศรษฐีพวกเขาคิดว่าอย่างน้อยก็มีเสื้อผ้าใส่มีข้าวให้กิน นี่เป็นความเข้าใจของชาวบ้านว่าลูกไปจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมด บางคนถูกนายจ้างทารุนอนุบางคนถูกขายต่อ จนราชสำนักต้องออกกฎหมายห้ามซื้อขายคนที่มีทะเบียนราษฎร์ กลางยามเฉิน( 07.00-08.59) หลังจากที่กินมื้อเช้าเรียบร้อย ซ่งจื่อหรูก็หยิบมีดมาเหลาปลายไม้ไผ่จน จุดกองไฟจากนั้นนำปลายแหลมนำมาลนไฟใช้หินขัดจนเกิดความคม อีกครึ่งชั่วยามชาวบ้านก็พากันมา มีหลี่ฝูเหยาผู้นำของหมู่บ้านเดินนำหน้า "ตื่นแต่เช้าเชียว เจ้าสี่ปู่ใหญ่ยังคิดว่าเช้าเกินไปหรือไม่ " "สวัสดีเจ้าค่ะท่านปู่ใหญ่ สวัสดีท่านลุงและท่านอาทุกท่านเจ้าค่ะ ไม่เช้าไปหรอกเจ้าค่ะเวลานี้กำลังดี" "สวัสดีขอรับ/เจ้าค่ะ" ซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าวคำนับผุ้อาวุโสทั้งหลายพร้อมกัน เมื่อทักทายเสร็จก็ลงมือทำงานโดยเริ่มจากถางหญ้าและเถาวัลย์ที่เลื้อยอยู่บนไม้ไผ่ท่อนเดิมที่ผุพัง ส่วนซ่งจื่อหรูรับหน้าที่ดายหญ้าบริเวณบ้านตอนสำรวจไม่ได้แหวกดูมาตอนนี้พบของดีมากมาย แม่เจ้าแถวนี้เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนนี่มันดินภูเขาไฟ ดูท่าคงเคยเกิดดินถล่มจึงมีก้อนหินกระจายทั่วบริเวณถ้ากำจัดก้อนหินเหล่านี้หมดนี่มันสวรรค์ของเกษตรกรเลยนะ ซ่งจื่อหรูยืนยิ้มจนตาหยีฮั่วเฟยหรงที่เพิ่งมาถึงเห็นเข้าก็ถึงกับชะงัก ช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสเสียจริงๆ เจ้าตัวยุ่งขนาดชีวิตลำบากเจ้ายังยิ้มได้ ทุกคนลงมือกันอย่างแข็งขันใครมีหน้าที่รื้อก็รื้อใครมีหน้าที่ขุดก็ขุด เพียงไม่นานก็รื้อรั้วเก่าและฟันเถาวัลย์จนเกลี้ยงเหลือแค่ถากหญ้าบริเวณรอบๆบ้าน ขุดเป็นร่องลึกประมาน30ชุ่น(30นิ้ว) ระหว่างที่ขนต้นไผ่ที่ตัดท่อนก็สังเกตุเห็นปลายด้านบนถูกเหลาจนแหลม ซ้ำยังมีรอยเหมือนกับลนไฟไว้จึงอดสงสัยและถามไถ่ไม่ได้ "จื่อหรูเอ๊ย เหตุใดจึงเหลาปลายแหลมเพียงนี้แล้วนี้เจ้าเอาไฟเผารึ"ลุงหกเอ่ยถามหลังจากเห้นท่อนไม้ไผ่ที่หลาวจนแหลมและถุกลนไฟที่ปลาย "ท่านลุงหก ที่ลนไฟเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความแหลมคมของปลายเจ้าค่ะ หากมีคนอยากปีนรั้วเข้ามาด้านแหลมของมันจะป้องกันได้เจ้าค่ะ" "ดีๆ จื่อหรูสมกับเป็นลูกหลานช่างไม้เสียจริงๆ หลี่ไหลฝูกับตาเฒ่าซ่งจื่อหยางคงตายตาหลับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" หลี่ฝูเหยาดีใจเงยหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะดังลั่นใครว่าเด็กผู้หญิงไม่ได้เรื่อง นี่ไงนางคือหลานของเขาแม้จะเป็นหลานของน้องชายแต่ก็สกุลหลี่มิใช่หรือ "จื่อหรู หากปู่เจ้ากลับมาปู่ใหญ่จะให้เจ้ากลับมาใช้แซ่หลี่ตามเดิม ตอนที่ย่าเจ้าสั่งให้แม่เจ้าเปลี่ยนแซ่หากข้ารู้สักนิด ข้าจะคัดค้านวันนั้นต้องโทษปู่ใหญ่ที่ไม่อยู่ตอนเกิดเรื่อง" ซ่งจื่อหรูชอบท่านปู่ใหญ่และท่านลุงท่านอาในสกุลหลี่ แต่หากวันนึงนางเกิดก้าวหน้าก็ไม่ต้องการให้บ้านใหญ่ได้ประโยชน์ นางรู้ดีว่าตนเองต้องก้าวหน้ากว่านี้แน่ๆ นางเป็นใครผู้จัดการใหญ่ที่ครอบคลุมเครือข่ายอุปโภคบริโภคเชียวนะ แค่แคว้นเล็กๆนางจะผงาดไม่ได้เชียวหรือ ขณะที่ซ่งจื่อหรูกำลังคิดก็ได้ยินเสียงน้องชายตัวน้อยกล่าวขึ้น "ท่านปู่ใหญ่ขอรับ ท่านตาของพวกเราไร้ญาติขาดมิตร แม้แต่ตอนจากไปพวกเรายังมิอาจส่งท่านตาได้ สกุลหลี่ไม่ไร้คนสืบสกุลแต่สกุลซ่งเหลือเพียงพวกเราแล้วขอรับ" ทุกคนอ้าปากค้าง ว่าไปแล้วเหตุผลนี้ใช่ว่าฟังไม่ขึ้นที่นี่ทุกคนล้วนแซ่หลี่ มีเพียงหูต้าเปียว ฮั่วหย่ง ซ่งจื่อหยาง ที่มาจากที่อื่นเป็นคนต่างแซ่เท่านั้นซ่งจื่อหรูกดไลค์ให้เจ้าตัวน้อยจนนิ้วล๊อค ฮ่าๆๆๆ น้องพี่ฉลาดเหมือนพี่จริงๆ "ตระกูลซ่งเหตุใดถึงวาสนาดีเพียงนี้กัน" ชาวบ้านเอ่ยอย่างเสียดายพวกเขาแซ่หลี่ก้อยากได้ลูกหลานแซ่หลี่ที่ฉลาด นึกๆไปก็ยิ่งรังเกียจนางเฉินภรรยาของอารองหลี่ไหลฝูคนนั้น นางช่างโง่งมไม่รู้ว่าอารองแต่งสตรีเช่นนี้เข้าสกุลได้อย่างไร อยากขับไล่เสียจริงๆติดแต่ว่าหลี่ฝูเหยาผู้นำตระกูลตอนนี้และยังเป็นพี่สามีหญิงใจร้ายคนนั้นด้วย ทุกคนจึงพยักหน้า ซ่งจื่อหรูลูบหัวน้องชายเบาๆนางยิ้มให้ซ่งจื่อเย่วกอดเอวพี่สาวไว้ ทุกคนที่เห็นภาพนี้ล้วนน้ำตาคลอแม้แต่ชายอกสามศอกก็มีมิอาจกลั้น "ทำงานต่อเถอะ จะได้เสร็จไวๆหากฝนหยุดน้ำลดสัตว์ป่าบนเขาเทียนซานอาจข้ามลำธารมาได้ทุกเมื่อ" หลี่ฝูงเหยาสั่งงานต่อ ซ่งจื่อหรูอธิบาย ให้ทำแบบปักเสาห่างกัน2จั้งตีแนวกั้นด้วยต้นไผ่ยาว ระยะทางช่อง6ฉื่อได้4ช่องจากนั้นนำท่อนไผ่มาขัดสลับฟันปลาเริ่มจากด้านบน ลงมาจนถึงร่องที่ขุดไว้ไม้ที่ตัดเมื่อวานไม่พอจึงต้องตัดเพิ่ม ซ่งจื่อหรูละจากงานตรงหน้าเดินเข้าไปในบ้านเริ่มก่อไฟนำกรวดละเอียดที่ร่อนในลำธารไว้เมื่อวานและล้างไว้จนสะอาดใส่ในกะทะพอเริ่มร้อนใส่เกาลัดลงไปคั่ว ใต้เตาใส่หัวมันเทศเอาไว้เพียงครึ่งชั่วยามเกาลัดคั่วก็ส่งกลิ่นไปถึงด้านนอก "แม่หนูจื่อหรูทำอะไรนั่นหอมเสียจริง"ชาวบ้านได้กลิ่นหอมจึงมองหน้ากัน "พวกเราเอาอาหารมาเอง รีบกินเถอะจะได้ทำงานต่อ เด็กสามคนนั่นมีกินก็ดีแล้ว" ฮั่วเฟยหรงเข้าไปเพื่อช่วยนางนางถกแขนเสื้อร่อนทรายออกจากเกาะลัด รอยสักนั้นหายไปแล้วฮั่วเฟยหรงลังเลอยู่ครู่นึงซ่งจื่อหนูเห็นเขาเงียบไม่พูดจึงเอ่ยปากถาม "พี่หรง ท่านดูแปลกไปนะวันนี้ มีอะไรจะพูดกับข้าหรือไม่เจ้าคะ" "เจ้าตัวยุ่ง...ข้าขอถามอะไรสักหน่อยเจ้าเคยได้ยินเรื่องตระกูลเฟิ่งหรือไม่" "เหมือนจะไม่เคยได้ยินนะ ท่านมีคนรู้จักหรือว่าญาติพี่น้องอยากหาข่าวคราวหรือเจ้าคะ" "อืม..สหายท่านพ่อนะ ครั้งสุดท้ายหลายปีก่อนได้ยินว่าเคยอาศัยอยู่แถวตำบล" "พี่ชาย...วันๆนอกจากไปส่งงานปักให้ท่านแม่ก็ไม่เคยไปไหน พอท่านแม่จากไปข้าก็รับผ้าปักน้อยลงเพราะต้องประหยัดเทียนประหยัดน้ำมันตะเกียง สุดท้ายเรื่องเข้าตำบลแทบเป็นไปไม่ได้เลยเจ้าค่ะนานๆครั้งจะได้ไป อีกอย่างข้าไม่ยากทิ้งน้องๆ ฝากป้าหูบ่อยๆก็เกรงใจนาง ล่าสุดไปส่งงานแต่ทางร้านมีปัญหาเรื่องหาคนดูแลร้านใหม่จึงไม่ได้ให้งานมา หากครั้งหน้ามีโอกาสเข้าเมืองข้าจะลองถามไถ่ให้นะเจ้าคะ" "อืม..ช่างเถอะไม่สำคัญหรอกพบก็ดีไม่พบก็ช่างยกของเหล่านี้ออกไปเถอะเจ้าทำให้พวกเขาไม่ใช่หรือ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม