เนื่องจากชาวบ้านหลายคนจึงเลื่อยต้นไผ่ได้รวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วเท่าซ่งจื่อหรู แค่พริบตานางก็เลื่อยต้นไผ่ไปเกือบร้อยต้น พ่อลูกสกุลฮั่วและชาวบ้านต่างอ้าปากค้าง มีเพียงเด็กบ้านหลี่กับซ่งจื่อเย่วที่ไม่รู้สึกแปลกแถมหัวเราะกับท่าทางของพวกเขา
"พี่ใหญ่กับพี่รองมีพรสวรรค์ด้านกำลัง เรื่องออกแรงล้วนไม่มีใครเทียบพวกนางได้หากไม่ใช่เพราะปกป้องข้ากับพี่รอง พี่ใหญ่ของข้าคงไม่ถูกปีศาจเฒ่าทุบตีหรอกขอรับ"
ซ่งจื่อห่าวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปีศาจเฒ่าที่ซ่งจื่อห่าวพูดน่าจะหมายถึงแม่เฒ่าหลี่ เด็กคนนี้ปกติคนนึกว่าใบ้แต่เวลาพูดทำเอาคนไปไม่ถูกเชียวเด็กๆสกุลซ่งนี่ช่างประหลาดแท้ เหตุใดประหลาดนะหรือแม่หนูซ่งจื่อเย่วนั่น ใช้เพียงมือเดียวก็สามารลากไผ่ทั้งต้นมาวางเรียงราย
" ข้าว่าไม่ต้องห่วงสามพี่น้องนี่จะดีกว่า ควรห่วงคนที่จะมาหาเรื่องพวกนางเถอะฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"ยังไงก็ยังเด็ก เล่ห์เหลี่ยมของผู้ใหญ่นั้นมากมายนัก "
ครั้นยามที่หลี่ต้าซานยังอยู่ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจไม่ว่าผู้ใดไหว้วานก็มักไม่ปฏิเสธ สะใภ้ซ่งก็อ่อนโยนสั่งสอนบุตรสาวได้ดีเด็กทั้งสามวางตัวดี ผู้คนในหมู่บ้านจึงรักและเอ็นดู
ปลายยามเซินก็ตัดต้นไผ่ได้เกือบสามร้อยต้น ไผ่หนึ่งต้นเลื่อยได้3ท่อนๆละ2จั้งดูเหมือนจะได้600ท่อน อีกทั้งไผ่ต้นยาวสำหรับวางแนวนอนอีกเกือบห้าสิบท่อน
"นี่คงเพียงพอแล้ว พรุ่งนี้คงเหลือแต่รอรื้อรั้วเก่ากับขุดหลุมสำหรับปักเสา สำหรับนำท่อนนำไผ่ลงปักเอาล่ะพวกเราต้องไปแล้ว"
ถึงเวลาหุงหาแล้ว ชาวบ้านจึงกลับไปฮั่วหย่งเองก็กำลังจะไปเขาหันมาหาซ่งจื่อหรูก่อนจะเอ่ยขึ้น
ฮั่วเฟยหย่ง"แม่หนู เหตุใดข้าจึงคุ้นหน้าเจ้านัก ได้ยินว่าตาเจ้าเป็นช่างไม้ ท่านตาเจ้าเป็นคนหมู่บ้านหลี่เช่นนั่นรึ"
ซ่งจื่อหรู"ท่าตาข้าอพยพมาจากชายแดนเป่ยเหลียงเจ้าค่ะ ยามนั้นมีสงครามและโรคระบาดจึงหนีมา ครอบครัวพัดพรากเหลือตัวคนเดียว ได้เจอกับท่านยายที่ค่ายผู้ลี้ภััยเมืองเสียนหยาง ต่อมาทางการได้ให้จับจองที่ดิน จึงมาตั้งรกรากอยู่ตำบลซานสุ่ยหมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้เจ้าค่ะ บางทีหน้าตาข้าอาจดูโหลก็เป็นได้"
ฮั่วเฟยหย่ง"หน้าตาดูโหล มันคือสิ่งใดเหตุใดคำพูดเจ้าช่างฟังดูประหลาด"
ซ่งจื่อหรู"เอ่อ..หมายถึงว่าหน้าตาธรรมดาๆพบเห็นทั่วไปน่ะเจ้าค่ะ"
ฮั่วเฟยหย่ว"อืม...ข้ามีสหายคนนึงเจ้าดูคล้ายคลึงกับเจ้า น้องสามเจ้าแทบจะถอดแบบภรรยาของเขามาเชียวฃ้ายังคิดว่าเป็นญาติกันเสียอีก ขออภัยเจ้าด้วยที่ถามวุ่นวาย"
ซ่งจื่อหรู"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านอาฮั่ว ความรู้สึกอยากตามหาคนที่เราคุ้นเคยข้าเข้าใจ ท่านตาเองก็ต้องการตามหาครอบครัวมาตลอด จนกระทั่งหญ้าบนหลุมสูงเท่าตัวคนก็ยังไม่อาจสมหวัง"
ฮั่วหย่งได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยถึงหลี่ซิ่วไฉ
ฮั่วเฟยหย่ง"หลี่ซิ่วไฉนับว่าไม่เลว เป็นบัณฑิตที่ดีน่าเสียดายโอกาส หากได้เรียนรู้กับเขาบ้างก็นับว่าดี"
จากนั้นจึงบอกลาเด็กๆ ฮั่วเฟยหรงยิ้มให้นาง ซ่งจื่อหรูตาพร่ามัว ให้ตายอย่ายิ้มให้ข้าได้ไหมพี่ชาย ท่านกำลังจะฆ่าคนด้วยรอยยิ้มเชียวนะ ในขณะที่สาวน้อยหลี่ถิงถิงหน้าย่นกำลังทำปากไม่พอใจ
ซ่งจื่อเย่ว"พี่ห้าเป็นอะไรหรือเจ้าคะ"
หลี่ถองถิง"จื่อเย่ว มันเทศนั่นเป็นสิ่งเดียวที่บ้านเจ้ามีตอนนี้คนอื่นรู้แล้วว่ากินได้ อีกหน่อยพวกเจ้าจะกินอะไร"
หลี่หาน"น้องห้า พวกเขามาช่วยน้องสี่ตัดไม้น้องสี่ตอบแทนก็เป็นเรื่องของน้ำใจ ตอนนี้ขอแค่มีอาหารทุกคนล้วนแต่จะขอบคุณ"
หลี่ถิงถิง"ข้าแค่ห่วงพี่สี่กับน้องอีกสองคนเท่านั้น"
ซ่งจื่อหรู"อย่ากังวลเลย พี่มีวิธีหาอาหารอีกหลายอย่าง"
ทั้งสองคนบอกลาซ่งจื่อหรู หลี่ถิงถิงแอบเอาข้าวอบห่อใบบัวแล้วซุกไว้ในตระกร้าก่อนจะเอาเถาใบมันเทศปิดทับ เพื่อเอาไปให้ท่านแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
พรุ่งนี้ต้องทำรั้วบ้าน ไม่รู้ว่ามีคนมาเท่าไหร่กันแน่ ไม่สามารถทำอาหารเลี้ยงผู้คนได้ พระอาทิตย์เริ่มลับเหลี่ยมเขา ความมืดเริ่มเข้ามาแทนแสงสว่าง วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่นางอยู่ที่นี่ ฝนเริ่มตั้งเค้าซ่งจื่อหรูคว้ามีดไปยังรั้วที่โย้เย้ จัดการตัดเถาวัลย์มาหลายเส้น จากนั้นก็นำไม้ไผ่มาหั่นท่อนประมาณเกือบหนึ่งจั้ง ผ่าเป็นซีกๆ ใช้เถาวัลย์มัดเข้ากันทีละซีกจนได้เป็นแผ่นขนาดประตูหนึ่งฐาน จากนั้นก็ผูกติดกับโครงประตูเดิม ตอนนี้ประตูบ้านชั่วคราวก็ทำเสร็จแล้ว กลับมาจุดไฟในหลุมโชคดีเก็บลูกสนแห้งมาได้จำนวนหนึ่ง พรุ่งนี้ต้องทำรั้ว ไม่สามารถไปเก็บฟืนได้ เด็กทั้งสองบ้วนปาก ล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว จึงเข้านอน ซ่งจื่อหรูนั่งทุบลูกเกาลัด แยกเปลือกออกมาจากหนาม ประมาณแล้วได้เกาลัดเกือบ สามสิบชั่ง เปลือกเก็บไว้ใกล้ปากหลุมอบให้แห้ง ใช้เป็นฟืนได้ชั่วคราว
ซ่งจื่อหรู"มีเสื้อผ้าแค่สองชุด ฝนตกซักไม่ได้ จะหยิบผ้าที่มีออกมาใช้ก็ไม่อาจหาที่มาของเงินที่ซื้อผ้าได้ จะขึ้นเขาคงฝากทั้งคู่กับอาสะใภ้ฮั่วบ่อยๆไม่ได้ ล้อมรั้วเรียบร้อย คงต้องวางค่ายกลสักที ต่อให้คนมากหากอยากเข้ามาก็ต้องดูว่าเจ้าบินได้ไหม คงมีแต่ทำเช่นนี้แหละ "
นั่งทุบเกาลัดอยู่นานหนามแหลมทิ่มตำจนมือและข้อมือมีเลือดซึม มือแทบจะพรุนเพราะไม่มีถุงมือ ซ่งจื่อหรูวางงานตรงหน้าและปีนขึ้นเตียงกำลังจะล้มตัวลงนอนก็รู้สึกเจ็บที่ข้อมือข้างซ้าย จึงใช้มือข้างขวาลูบเบา ก่อนจะรู้สึกเหมือนโลกหมุนได้ มีบางอย่างกำลังดูดนางเข้าไป
"ให้ตายสิ เจ๊เพิ่งจะฟื้นได้สองวัน จะให้ตายรอบสองรึไงนะ"