“ปล่อยมือแฟนฉันเดี๋ยวนี้!”
วาคินบอกออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนมิรันดึงให้ลุกมาหาเขา ทำเอาทั้งมิรันและไบรอันที่ไม่ทันตั้งตัวต่างก็ตกใจ
“นี่คุณจะทำอะไรปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ปล่อย แล้วแกมีสิทธิอะไรมายุ่งกับแฟนชาวบ้าน”
“คิน! นี่ปล่อยฉันนะ! คิน!”
มิรันทั้งตกใจทั้งทำอะไรไม่ถูกได้แต่สะบัดแขนออกจากมือวาคินไม่หยุด จนไบรอันที่เห็นทนไม่ไหวเดินเข้ามาจับแขนของวาคินแล้วบีบแน่นจนวาคินเจ็บแล้วเผลอปล่อยแขนมิรันออก
“นี่แก!”
วาคินสบถออกมาอย่างโกรธจัดเมื่อเห็นมิรันวิ่งเข้าไปยืนหลบอยู่หลังไบรอัน ส่วนมิรันพอมองไปทางด้านหลังของวาคินเธอก็เห็นร่างบางของนีรนุช คนที่เธอจำได้อย่างแม่นยำว่าเป็นชู้กับวาคิน ขนาดเธอทำเรื่องเอาไว้ถึงขนาดนี้สองคนนี้ยังกล้าที่จะมาทานข้าวด้วยกันอีก
“รัน เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องสักที ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปอย่างนี้เด็ดขาด ผมทำอะไรผิดห๊ะ บอกผมที”
“พอสักทีคิน คุณทำอะไรผิดก็รู้อยู่แก่ใจ ฉันไว้ใจคุณขนาดไหนแต่คุณกลับนอกใจไปกับเธอ แล้วอย่างนี้ฉันควรแต่งงานกับคนเลวๆแบบคุณรึเปล่า!”
มิรันพูดออกมาอย่างเหลืออดพร้อมกับชี้ไปที่นีรนุช ที่ยืนยิ้มหยันอยู่ด้านหลัง ทำเอาวาคินที่มองตามถึงกับแข็งทื่อ ไม่นึกว่าเธอจะรู้เรื่องนี้
“ไม่ใช่นะรัน ผมกับเธอเราแค่เพื่อนร่วมงานกัน เราแค่มาทานข้าวด้วยกัน...”
“หยุดโกหกแล้วเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว เพราะฉันมีคนใหม่แล้วเหมือนกัน!”
“คุณว่าไงนะ นี่เราพึ่งมีปัญหากันนะรัน หึ! คิดว่าผมจะเชื่อเหรอ”
วาคินพูดออกมาอย่างไม่คิดเชื่อ เพราะรู้ดีว่ามิรันรักและไม่มีทางลืมเขาได้เร็วขนาดนั้นแน่นอน
“เชื่อเถอะ เพราะคนนั้นก็คือผม แล้วทีนี้คุณจะเลิกยุ่งกับแฟนของผมได้รึยัง”
“!!!!!!”
คำพูดของไบรอันทำเอาทุกคนถึงกับอึ้งไปตามๆกันไม่เว้นแม้แต่มิรัน
“ไม่มีทาง”
ไบรอันมองวาคินอย่างหมดความอดทน เมื่อตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมมิรันถึงตัดสินใจหนีงานแต่งงานในวันนั้น ก่อนจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ร่างบางของมิรันถูกดึงเข้าหาก่อนเอวเล็กจะถูกรวบกอดแน่น
“ไว้ใจผมนะ”
ไบรอันกระซิบบอกชิดริมปากเล็กก่อนจะกดจูบลงมาทันที ทำเอาทุกคนในร้านที่มองการโต้เถียงครั้งนี้อยู่ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้าง มือก็ถือโทรศัพท์เพื่อถ่ายคลิปเอาไว้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
ไบรอันไม่ได้จูบแค่เพียงให้มันผ่านๆไปเท่านั้น เขารวบเอวเล็กเข้าแนบชิดพร้อมกับสอดแทรกเรียวลิ้นสากเข้าไปก่อนจะมอบจูบอันเร่าร้อนให้กับมิรัน ร่างเล็กแข็งค้างเริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อลมหายใจ กลิ่นมิ้นต์ของเขาทำให้เธอเคลิ้มตามพร้อมกับจูบอันแสนซาบซ่านของเขาอีก ตอนนี้มิรันแทบหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งโดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าโลกแห่งความจริงกำลังจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น
“กลับก่อนเถอะค่ะตอนนี้มีคนถ่ายคลิปเต็มไปหมดแล้ว เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก”
นีรนุชที่ตั้งสติได้ก่อนเดินเอามือบังหน้าเข้ามาลากวาคินที่ตกตะลึงออกจากร้านอาหารไป ปล่อยให้มิรันกับไบรอันยืนจูบกันอยู่อย่างไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยสักนิด จนกระทั่งความต้องการของชายหนุ่มเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเลยจำใจต้องหยุดจูบอันแสนเร่าร้อนลงแล้วรวบร่างเล็กมากอดปิดบังไม่ให้เธออับอายเอาไว้แน่น
“ผมขอโทษ”
เขาเอ่ยออกมาแผ่วเบาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เมื่อการกระทำในครั้งนี้เขากลับพึงพอใจมันเป็นอย่างมาก ส่วนมิรันตอนนี้แทบไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ร่างเล็กทั้งร้อนทั้งหนาวแถมปวดหนึบไปหมดอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“เราออกจากที่นี่กันเถอะ”
ไบรอันบอกออกมาเมื่อมองไปเห็นหลายคนพากันยกมือถือขึ้นถ่ายรูปเอาไว้ ไม่นานทั้งสองก็มานั่งเงียบกันอยู่ในรถ
“ผม...”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ถือโทษหรือโกรธคุณหมอหรอก ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่คุณหมอช่วย...อื้อออออ”
มิรันรีบพูดออกมาก่อนที่ไบรอันจะได้พูด ทำเอาชายหนุ่มทนไม่ไหวกับแววตาสั่นระริกของเธอจับร่างเล็กเข้ามาพร้อมกับจูบลงอีกรอบ มิรันตกตะลึงกับสิ่งที่เขาทำ มือเล็กที่จะยกขึ้นห้ามต้องนิ่งค้าง เมื่อใหญ่อีกข้างเอื้อมมาจับมันเอาไว้ก่อนจะใช้อีกข้างที่ว่างจับท้ายทอยของเธอเพื่อกันไม่ให้เธอถอยหนีห่างจากเขาได้
“อื้มมมมมมม”
จากขัดขืนเริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อลิ้นร้อนอันชำนาญการเฝ้าดูดดึงตวัดจูบระรัวเร็วเหมือนกับต้องการพรากลมหายใจไปจากเธอแล้วก็ปล่อยมันครั้งแล้วครั้งเล่า มิรันค่อยๆเอื้อมมือไปกอดลำคอหนาเอาไว้แน่นอย่างเผลอไผลพร้อมกับเริ่มตอบสนองกลับไปบ้างจนไบรอันอดครางอย่างชอบใจในลำคอไม่ได้
“ฮึ่ม! เราควรหยุด ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว”
ไบรอันกระซิบบอกเมื่อพยายามเป็นอย่างมากที่จะหยุดจูบร้อนแรงระหว่างเขาและเธอลง ก่อนจะจับจ้องมองหน้าสวยที่แดงเถือกด้วยความต้องการ ตากลมโตปรือมองเขาอย่างอ้อนวอน ทำเอาชายหนุ่มแทบทนไม่ไหวอยากกดจูบลงไปบนปากเล็กอีกครั้ง แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้นรับรองได้เลยว่าเขาได้จัดการเธอบนรถคันนี้แน่นอน
“ต่อไปนี้คุณจะเป็นผู้หญิงของผม เข้าใจไหม”
เขาบอกออกมาพร้อมกับปัดเศษผมที่หน้าของมิรันออก
“ไม่...ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรอคะ ฉันแค่เผลอไปกับคุณเอง”
“แต่ผมต้องการให้มันเป็นอย่างนี้”
เขาบอกออกมาก่อนที่มิรันจะดึงตัวกลับมานั่งที่ของตัวเองในท่าเรียบร้อย แต่หน้าของเธอยังแดงไม่หายเมื่อรสสัมผัสจากจูบของเขายังอยู่
“คุณก็รู้แล้วว่าฉันพึ่งโดนอะไรมาและฉันก็ไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใคร ฉันไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณคิดหรอกคะ คุณหมอควรได้เจอกับผู้หญิงดีๆ”
“ผมเลวกว่าที่คุณคิด...”
เขาพูดออกมาแค่นั้นก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านอาหารไป ทำเอามิรันที่คุ้นกับคำพูดของเขาถึงกับขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเธอแน่ใจว่าเคยได้ยินมาจากไหนสักที่แน่นอน
“บ้าเอ้ย! ทำไมรันกับไอ้หมอนั่นถึง...”
“คุณก็น่าจะเลิกตื๊อเธอได้แล้วนะคะ คนเขาไม่ได้รักแล้ว ทำไมไม่หันมามองคนที่รักและต้องการคุณจริงๆบ้างละคะ”
ทางด้านวาคินเมื่อมาถึงห้องทำงานก็เริ่มฟาดงวงฟาดงาออกมา ด้วยทั้งเสียใจและโกรธที่โดนแย่งมิรันไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้น
“กลับไปทำงานของคุณเถอะ ผมจะไปพบพ่อผม”
วาคินสะบัดร่างบางที่เอาแต่เกาะร่างเขาไปมาอย่างแสนรำคาน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้นีรนุชได้แต่มองตามด้วยความโกรธเคือง ขนาดนี้แล้ววาคินยังไม่คิดจะปล่อยมือจากมิรันเลยสักนิด เธออุตส่าพยายามเข้ามาทดแทนและแทนที่อยู่ทุกวี่ทุกวันแล้วแท้ๆ
“ฉันว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ”
“ฉันสงสัยมานานแล้วแหละ แต่ไม่กล้าพูด”
“เออ ฉันก็เหมือนกัน ก่อนหน้านั้นพยาบาลนุชเข้าออกห้องหมอคินเยอะกว่าพยาบาลรันซะอีกนะแก”
“เออ ใช่...”
พวกพยาบาลที่เริ่มเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวาคินและนีรนุชเริ่มพากันตั้งข้อสงสัยไปต่างๆนานา ทำเอาวาคินที่กำลังจะเดินผ่านรีบหันมามอง
“ถ้าไม่ทำงานก็ไปลาออกกันซะ!”
เขาบอกออกมาเสียงดังจนพวกพยาบาลพากันตกใจ เมื่อคุณหมอที่เคยสุภาพดั่งเทพบุตรดันมา กลายร่างเป็นซาตานเสียแล้ว ตอนนี้คุณหมอหนุ่มเห็นอะไรก็ดูหงุดหงิดไปจนหมด
“นี่แกว่าอะไรนะ! หนูรันเนี่ยนะจะทำอย่างนั้น”
“คุณพ่อฟังไม่ผิดหรอก ผมเห็นมากับตา เธอกับหมอนั่นจูบกันกลางร้านอาหาร ผมนี่อยากเข้าไปต่อยหน้ามันจริงๆ แค่ทำงานด้วยกันผมก็เกลียดมันจะแย่แล้ว แล้วนี่ยังมาแย่งคนรักของผมไปต่อหน้าต่อตาอีก”
“เฮ้อ แกก็ปล่อยเธอไปสักทีสิ แล้วพยาบาลที่ชื่อนุชอะไรนั่น ถ้าเธอโอเคแกก็คบแล้วก็แต่งงานกับเธอไปสิ ปล่อยหนูรันไป”
“ไม่มีทาง ผมไม่ได้รักเธอ แค่คั่นเวลาเท่านั้น พ่อก็รู้นี่ตลอดเวลาที่คบกับรันผมได้จับแค่มือกับหอมแก้มนิดหน่อย ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้ทนได้ไง มันก็ต้องมีบ้าง”
วาคินพูดอย่างเข้าข้างตัวเอง จนคุณทรงยศอดส่ายหัวให้กับความรักของบุตรชายไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้เรื่องที่บุตรชายนอกใจมิรัน แต่นั่นมันก่อนแต่งงาน เขาคิดว่าหลังแต่งงานวาคินคงไม่ทำแบบนั้นอีกเด็ดขาดเลยไม่เคยว่าอะไร ไม่นึกว่าเรื่องจะย่ำแย่ขนาดนี้
“ยังไงผมก็จะเอารันกลับมาให้ได้ ผมไม่ยอมแพ้มันแน่ คุณพ่อช่วยย้ายเธอกลับมาทำงานตึกสองได้ไหม อยู่ตึกหนึ่งมันคงได้รันไปจริงๆแน่”
“แล้วถ้าสองคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วล่ะ แกยังจะอยากได้หนูรันอยู่รึไง”
“............ ผมไม่รู้ แค่เอาเธอออกจากไอ้หมอนั่นมาก็พอ ผมไม่มีทางยอมให้มันได้รันไป ไม่มีทาง”
วาคินบอกออกมาอย่างคับแค้นใจก่อนจะเดินออกจากห้องของผู้เป็นบิดาไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“มีอะไรรึเปล่า หน้าตาบูดบึ้งมาเลยนะ”
“แล้วพี่ไม่มีงานทำรึไงถึงอยู่ที่นี่”
“อืม พักพอดี”
นีรนุชที่เดินเข้ามาในห้องพักพยาบาลถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจบางอย่างอยู่ ชัชวาล แฟนหนุ่มของเธอที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเลยถามขึ้น
“ตอนนี้คนอื่นกำลังสงสัยเรื่องของนุชกับหมอคิน ทำอะไรก็ระวังหน่อย เดี๋ยวจะเดือดร้อนเอาได้”
“พี่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า! มีปากก็พูดกันไป ใครๆก็รู้ว่าฉันมีพี่อยู่แล้ว”
“ก็แค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทำอะไรอย่าประเจิดประเจ้อนัก ถ้าเรื่องมันแตกขึ้นมาก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ”
“โอ๊ย คุยกับพี่แล้วปวดหัวจริงๆเลย!”
นีรนุชที่อุตส่าหนีจากห้องของวาคินมายังมาเจอชัชวาลที่นี่อีก สุดท้ายเธอก็เดินหนีไปที่อื่นด้วยความรำคาน เมื่ออยากสงบสติอารมณ์ก็ทำไม่ได้ ส่วนชัชวาลก็ได้แต่มองตามอย่างเหนื่อยใจ เขารู้มาตลอดว่านีรนุชเป็นพวกทะเยอทะยานสูง เขาพยายามเติมเต็มในส่วนที่หญิงสาวต้องการมาโดยตลอด แต่เธอก็ยังไม่เคยพอสักที