บุษกรส่ายหน้ากับคำแก้ตัวของพี่เลี้ยงหนุ่ม นึกว่าเธอไม่รู้หรือไงว่าสิ่งที่เขาทำอยู่คืออะไร คงตกหลุมรักหมอโรส จนถอนตัวไม่ขึ้น ถึงขนาดวางแผนลาพักร้อนนานถึงขนาดนี้
“ลาพักร้อนแค่สองอาทิตย์จะพอเหรอคุณเทียน”
“ผมก็อยากลาพักร้อนสักเดือนเหมือนกัน แต่ถ้าผมทำแบบนั้นคงเกิดปัญหาใหญ่ตามมาทีหลังแน่”
นึกว่าเขาไม่รู้หรือไงว่าเจ้านายสาวคิดอะไร เขาเลี้ยงและอบรมสั่งสอนมากับมือ นิสัยหรือความคิดของเธอ เขาสามารถมองได้อย่างทะลุปรุ่โปร่ง ลองเขาไม่อยู่สักเดือนสิ คงมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งแน่
ว่าทายาทคนโตของนักธุรกิจชื่อดังของเอเชียมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่อริ ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าคู่อริของเจ้านายสาวเป็นใคร นอกจากลูกชายนักการเมือง ยังมีลูกสาวคนกลางของเจ้าของธุรกิจส่งออกอาหารสำเร็จรูป และลูกสาวคนเล็กของเจ้าของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง
“ถ้าผมลาพักร้อนเป็นเดือนก็เข้าแผนบอสสิ ผมไม่โง่หลงกลแผนตื้นๆ ของบอสหรอก”
“อะไรกันคุณเทียน คิดไปไกลถึงไหน คุณเทียนฉลาดจะตาย ฉันแค่อยากให้คุณเทียนได้พักผ่อน ไปสวีทกับหมอโรสก็เท่านั้น”
“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วครับบอส เอาเป็นว่าผมขอลาพักร้อนสองอาทิตย์ก็พอ ผมไม่ไปไหนไกลหรอกครับแค่หัวหินเอง ถ้าบอสทำอะไรไม่เข้าท่า ผมจะรีบกลับมาแก้ไขได้ทันท่วงที”
“อะไรกัน ฉันนึกว่าคุณเทียนพาหมอโรสไปพักร้อนต่างประเทศเสียอีก ไม่ไปมัลดีฟส์หรือออสเตรียล่ะคุณเทียน ช่วงนี้ที่นั่นอากาศดีมากเลยนะ”
“ไม่ต้องมาโน้มน้าวผมหรอกครับบอส พักร้อนที่เมืองไทยก็ได้ ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าที่พักด้วย”
ในเมื่อมีบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน เขาก็ควรไปใช้ให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปบ้าง ตั้งแต่ซื้อมาก็ไปพักไม่กี่ครั้งเอง ไม่คุ้มเลยหากเทียบกับเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องเสียไปจากการซื้อบ้านพักหลังนี้
บุษกรเบ้ปากอย่างขัดเคือง ยุไม่ขึ้นจริงๆ เสียด้วย อุตส่าห์คิดวางแผนเอาไว้เสียดิบดี ดันมาพังเพราะคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ได้ไง ลาพักร้อนก็ใช่ว่าไม่มีโบนัสให้เสียหน่อย
‘ลองล่อด้วยค่าเครื่องบินกับค่าที่พักดีไหม’
“ไปเที่ยวมัลดีฟส์หรือต่างประเทศมีเงินโบนัสให้ด้วยนะคุณเทียน ไม่เอาจริงๆ เหรอ”
“ไม่ล่ะครับ ผมมีเงินเยอะอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หมดหรือเปล่า ยุให้ผมไปเที่ยวต่างประเทศ บอสวางแผนอะไรเอาไว้ใช่ไหมครับ”
“ไม่มีหร๊อก”
บุษกรทำเสียงสูง ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ หากพี่เลี้ยงหนุ่มจับได้เรื่องที่เธอวางแผนเอาไว้เธอก็ไม่สนใจไ ที่จริงเธอเองก็เพิ่งคิดได้ก็ตอนที่เห็นคู่รักจิตป่วนทะเลาะกันเอง ไม่ได้วางแผนเอาไว้ก่อนเลยสักนิด
‘แต่เอาเถอะแค่สองอาทิตย์ก็มีโอกาสถมเถไป อีกไม่กี่เดือนเราก็จบแล้ว ต้องหาทางจัดการให้เร็วที่สุด ก่อนมีมือดีที่ไหนก็ไม่รู้ฉกหัวใจของผู้ชายที่เราหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ให้มาเป็นพ่อของลูก’
“หรือคุณเทียนจะไม่ไปก็ได้นะ ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ดีเสียอีกฉันจะได้พาหมอโรสกับคุณญาไปเที่ยว”
“เสียใจด้วยครับบอส เพราะผมจะพาหมอโรสไปพักร้อนที่หัวหินสองอาทิตย์ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ ถึงผมไม่อยู่แต่ยังมีบอดี้การ์ดมือดีอีกสี่คนอยู่ไม่ใช่หรือครับ”
“ฉันไม่ทำอะไรให้คุณเทียนต้องห่วงหรอกน่า รีบตามหมอโรสไปไม่ดีกว่าเหรอ ป่านนี้คงถึงลานจอดรถของบริษัทแล้ว ขืนช้าเดี๋ยวหมอโรสก็หนีไปก่อนที่คุณเทียนจะพาเธอไปเที่ยวฉันไม่รู้ด้วยนะ”
“อย่าลืมตรวจดูเอกสารพวกนี้ด้วยนะครับ”
“รู้แล้วน่า ไปได้แล้ว” บุษกรโบกมือไล่พี่เลี้ยงหนุ่ม
ฉีเทียนส่ายหน้ากับท่าทางไม่รู้จักโตของเจ้านายสาว อยากไล่เขาไปแบบนี้
คงวางแผนไม่ดีอะไรเอาไว้แน่ ก่อนเดินทางเขาต้องสั่งกำชับบอดี้การ์ดทั้งสี่ให้คอยตามประกบบุษกรทุกฝีก้าว
/////////////////////
ทันทีที่ฉีเทียนออกไปจากห้องทำงาน บุษกรก็เลื่อนลิ้นชักออกมา หยิบสมุดจดข้อมูลทั้งหมดของชายหนุ่มที่เธอหมายมั่นเอามาเป็นสามีด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ข้อมูลทั้งหมดที่เธอสั่งให้ยามาบุสะไปเก็บรวบรวมมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน ถูกจดลงในสมุดลับของเธอจนหมดสิ้น ทั้งประวัติบิดามารดา ธุรกิจของตระกูล และที่ขาดไม่ได้ก็คือรายชื่อแฟนสาวของเขา
“กิจวัตรประจำวันของดอกเตอร์ เจอแล้วๆ”
สายตาคู่คมกวาดสายตาอ่านเนื้อหาที่บอดี้การ์ดหนุ่มเขียนเอาไว้อย่างตั้งใจ
“วันศุกร์ หลังจากเลิกงานก็ไปซื้อของที่ห้าง จากนั้นก็กลับคอนโด เทอมนี้ไม่มีสอนเสาร์-อาทิตย์ หึๆ เยี่ยมไปเลย เสาร์-อาทิตย์นี้ไม่มีโปรแกรมไปไหน”
บุษกรหัวเราะอยู่ในลำคอ จ้องมองกิจวัตรประจำวันของดอกเตอร์แทนไทแล้วก็ยิ้มกว้าง สองอาทิตย์ที่เป็นอิสระ เธอต้องหาทางทำให้อีกฝ่ายตกลงยอมเป็นแฟนเธอให้ได้
ถ้าไม่มีฉีเทียนตามประกบ ป่านนี้เธอคงบังคับข่มขู่ให้ดอกเตอร์หนุ่มยอมเป็นแฟนของเธอไปนานแล้ว ยังติดอยู่อีกอย่างหนึ่งก็คือปัญหาทางสังคม
การที่อาจารย์กับลูกศิษย์เป็นแฟนกันจึงดูไม่ดีนัก แต่ไม่เป็นไรอีกไม่กี่เดือนเธอก็เรียนจบแล้ว ก่อนจบก็ขอจัดการปัญหาเรื่องหัวใจก่อน
ตีตราจองไว้ก่อน พอเรียนจบก็วางแผนพาชายหนุ่มไปกราบบิดาที่ปักกิ่ง หลังจากนั้นก็หาทางรวบรัดแต่งงานมันซะเลย
“รอหน่อยนะคุณแทน เดี๋ยวทุกอย่างก็เรียบร้อย หึๆ”
/////////////////
เกือบหกโมงเย็นบุษกรก็ขับรถมารอเป้าหมายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้คอนโดมิเนียมหรูซึ่งอยู่ใจกลางเมือง นิ้วเรียวยาวจับแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอย่างช้าๆ สายตากวาดมองไปยังทางเข้าซูเปอร์มาร์เกต จากนั้นก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเจ้าของร่างสูงกำยำเดินผ่านหน้าร้านคอฟฟีชอปตรงไปยังประตูทางเข้าซูเปอร์มาร์เกต หญิงสาวหยิบธนบัตรใบละห้าร้อยขึ้นมาวางบนโต๊ะใบหนึ่ง แล้วรีบลุกจากโต๊ะเดินตามดอกเตอร์แทนไทไปอย่างรวดเร็ว
‘ขืนช้าเดี๋ยวก็คลาดกันพอดี’
พนักงานเดินมาเก็บเงินบนโต๊ะ หลังจากที่ลูกค้าสาวสุดเท่เดินออกไปจากร้าน ก่อนเลิกคิ้วมุ่นเมื่อเห็นธนบัตรสีม่วงวางอยู่ข้างถ้วยกาแฟ
“กาแฟแก้วไม่ถึงร้อย วางเงินไว้ตั้งห้าร้อย จะรีบไปไหนกันน่า แต่ท่าทางคงรวยน่าดู”
////////////////