บทที่ 1(1)
รถยุโรปราคาเฉียดหลักสิบล้านบาทสีแดงเพลิงแล่นเข้ามาจอดสนิท ในโรงจอดรถขนาดใหญ่ใกล้ตัวบ้านสีขาวตระหง่าน ท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้เขียวชอุ่ม ทั้งไม่ดอกไม้ประดับราคาถูกไปจนถึงไม่หายากหลายชนิด
ร่างสูงโปร่งผิวขาวนวลเนียน บ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี แม้จะอายุเลยสาววัยใสมานานหลายปี แต่หล่อนยังดูดีและสวยงาม หรือบางทีอาจดูดีกว่าสาว ๆ ในวัยเดียวกันด้วยซ้ำ
หล่อนเดินลงจากรถพร้อมหยิบกระเป๋าหนังสีแดงสดคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ดังระดับโลกขึ้นคล้องไหล่ สองเท้าในรองเท้าส้นสูงขนาดสี่นิ้วเดินเซไปเซมา ขณะหล่อนเดินเข้าไปยังตัวบ้าน
แม้แลดูขาดสติรับรู้เนื่องจากฤทธิ์เครื่องดื่มหลากหลายชนิดที่ผ่านลงคอไป แต่ด้วยความที่อยู่บ้านหลังนี้มานานจนคุ้นเคยดี สองขาเรียวพยายามทรงกายเดินผ่านประตูบ้านเข้าไป อย่างไม่มีทีท่าลังเลหรือไม่ชินทาง
ไม่นานนักมีหญิงวัยกลางคนร่างท้วมกระวีกระวาดเดินออกมาต้อนรับพร้อมรีบเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กของเจ้านายไปถือไว้เสียเอง อีกมือหนึ่งนางยื่นมาพยุงร่างที่กำลังยืนโงนเงนจะล้มไม่ล้มแหล่อยู่หลายรอบ
“ขอบใจ...” เสียงยานคางถูกส่งไปให้คนที่หล่อนคุ้นหน้าเป็นอย่างดี ดวงตาหวานหรี่ปรือเล็กน้อยเมื่อกำลังจ้องมองใบหน้าคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมก้มลงมองมือเหี่ยวย่นที่เกาะอยู่บนแขนของหล่อนอย่างนึกขอบคุณ
“ไม่ต้องตามขึ้นไปนะ จะนอนเลย” ส่งเสียงอ้อแอ้พร้อมทำท่าสะอึกราวจะขย้อนของเก่าที่กรอกเข้าปากไปเมื่อสี่ห้าชั่วโมงก่อนให้ออกมานองพื้นกระเบื้องราคาแพงที่ถูกขัดเอาไว้จนขึ้นเงา
“ค่ะ คุณผู้หญิง” จันทร์เรืองหรือป้าเรืองที่ใคร ๆ ในบ้านเรียกกันติดปาก ตอบรับคำสั่งเสียงเบา ก่อนทำท่าโบกมือไล่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากลมหายใจของผู้เป็นเจ้านาย จากนั้นจึงปล่อยมือออกจากแขนเรียวเมื่อคนร่างโปร่งระหงเตรียมหันหน้าเดินไปข้างหน้า
จันทร์เรืองมองตามร่างสวยสะคราญตา เดินเกาะราวบันไดขึ้นไปบนชั้นสอง เมื่อไม่เห็นอาการเซล้มระหว่างทาง นางก็หันหลังเดินกลับไปยังบ้านพักหลังตึกอย่างรู้หน้าที่ดี
แม้จะอดเป็นห่วงเกรงร่างบางนั้นกลิ้งตกลงมา แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ จันทร์เรืองค่อยคลายอาการเป็นห่วงลงบ้าง
ขณะเดินออกประตูหลังของบ้านใหญ่ ป้าเรืองเดินสวนทางกับหนุ่มซึ่งเป็นคนสวนและคนขับรถประจำตัวของคุณผู้หญิง
ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนจะเดินแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง
หนุ่มเดินเร็ว ๆ ขึ้นไปตามขั้นบันไดด้วยความคุ้นเคยอย่างเร่งรีบ สองเท้าไปหยุดหน้าห้องที่เคยขึ้นมาเป็นประจำก่อนจะยื่นมือออกไปจับลูกบิดแล้วผลักเข้าไป
กลิ่นเหล้าโชยเข้าจมูกทันที เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ร่างสวยที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงหลังใหญ่กลางห้อง อย่างไม่รับรู้ถึงการมาของเขา หรือไม่รับรู้สิ่งใด ๆ รอบตัว
หนุ่มได้ยินเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ และเสียงครางอืออาอย่างขัดใจ คงเป็นเพราะเสื้อผ้าตัวเล็กที่สวมอยู่บนร่างนั้นกำลังรบกวนการนอนของหล่อนนั่นเอง
สองขาหล่อนแยกกว้างจนกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นไปกองอยู่บนก้นตึงแน่น เสื้อเกาะอกสีขาวก็ปิดอะไรไม่มิดเพราะมันถูกเจ้าของดึงมากองไว้ที่เอว
เสียงครางอืออานั่น ทำให้คนเพิ่งเดินเข้ามาใกล้รู้สึกผิวหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที กางเกงขาสั้นที่เขาสวมอยู่มันเริ่มขยับเมื่อสายตาปะทะเข้ากับผิวขาว ๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากร่มผ้า
หนุ่มยกมือชื้นเหงื่อทั้งสองข้างขึ้นมาถูแรง ๆ กับกางเกง อย่างรู้สึกคันยิบ ๆ อยากจะลูบไล้บีบขยำก้นงอนงามนั่นเหลือเกิน
“หนุ่มใช่ไหม” เสียงถามอู้อี้ พร้อมกับร่างนั้นขยับนอนหงาย ผมยาวสยายเต็มเตียงจนคนถูกถามต้องรีบคุกเข่าคลานเข้าไปใกล้
มือหยาบข้างหนึ่งยกวางแหมะบนโคนขาอวบ บีบขยำแรง ๆจนหล่อนครางซี๊ส สองขานั้นเริ่มบิดไปมาเพระความสากหยาบของมือแข็งแรง มันรู้สึกให้อารมณ์ร้อนวูบวาบมากกว่าจะรู้สึกเจ็บหรือรำคาญ