EPISODE 01
-Amphon’s talk-
เปลือกตาหนาค่อยๆกะพริบเพื่อปรับแสงที่ตกกระทบเข้ามาในห้องส่วนตัวของผม ข้างหน้าที่ผมมองเห็นอยู่ตอนนี้คือเพดานสีขาวสะอาดตาอันแสนคุ้นเคย ก่อนจะมองไปรอบบริเวณห้องนอนที่ทั้งใหญ่และมีเครื่องเรือนเรียบหรูตั้งอยู่ภายในห้อง
ผมตัดสินใจลุกจากที่เตียงนอน ก่อนจะเดินไปยังทางระเบียงห้องที่มีประตูกระจกใสปิดไว้ไม่ให้ลมหรือเสียงอะไรเข้ามารบกวนผมเวลานอน ผมตัดสินใจเลื่อนประตูเปิดออกก่อนจะพาร่างสูงเดินออกไปยังระเบียงด้านนอกเหมือนทุกครั้ง
อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกด้านซ้ายขึ้นมา เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ผมฝันเห็น ‘เธอคนนั้น’ ผู้หญิงในความฝันที่ผมฝันเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มมาจากเมื่อสามปีก่อน ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ ผมมักจะฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นซ้ำไปซ้ำมา และเหตุการณ์ในความฝันนั้นก็มีแค่เหตุการณ์เดียว...คือเธอพยายามหนีจากผม เธอร้องไห้เสียใจขอร้องให้ผมปล่อยเธอไป น่าแปลกผมจำเสียงเธอได้แต่ผมกลับไม่สามารจดจำใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้เลย
แต่ที่จำได้หลังจากตื่นจากความฝันนั้นก็คือ เธอเป็นผู้หญิงที่บอบบาง น่าถะนุถนอมราวกับไข่ในหิน นั้นคือสิ่งที่ผมจำได้
ผมพยายามคิดและถามตัวเองทุกครั้งว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในความฝันของผม และเธอมีความสำคัญอะไรทำไมความทรงจำของผมถึงต้องหวนคิดถึงเธออยู่ทุกครั้งแบบนี้ ผมพยายามคิดแต่ทุกครั้งก็เปล่าประโยชน์ จนต้องเผลอถอนหายใจออกมาเสียงดัง แต่ก็ต้องหยุดคิดเมื่อได้ยินเสียงหวานจากทางด้านหลัง ก่อนจะรู้สึกเหมือนมีแรงกอดรัดจากบริเวณรอบเอวจนต้องหันหน้าไปมอง
“ตื่นแล้วเหรอค่ะ...นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเองทำไมตื่นเร็วจังค่ะ”
เสียงหวานของ ‘ดารากานต์’ ผู้หญิงสวยหวานที่ชายใดเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์เธอทุกราย และผมไม่ปฏิเสธว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอ ผมก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างไม่ทราบสาเหตุไหนจะท่าทีเรียบร้อยแต่กลับไปอยู่ยังสถานที่อโคจรของเหล่าอบายมุขต่างๆซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากันเลย แต่ที่ผมสะดุดใจมากที่สุดคงจะเป็นดวงตากลมโตสีน้ำตาลคู่นั้นที่มองผมเหมือนต้องการให้ผมช่วย และผมก็ไม่ใช่คนใจดำที่จะปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กบอบบางให้เผชิญกับเรื่องร้ายๆเพียงลำพัง ผมจึงยื่นมือเข้าไปช่วยโดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ ‘ร่างกายของเธอ’ ซึ่งเธอก็ไม่ขัดขืนและยอมผมมาจนถึงทุกวันนี้
ผมขอบอกตรงๆเลยว่าผมเป็นผู้ชายที่ขี้เบื่อ ไม่ชอบผู้หญิงเรื่องมาก มันน่ารำคาญ ยิ่งผู้หญิงงี่เง่าเอาแต่ใจด้วยแล้วผมยิ่งไม่ชอบ และดูเหมือนดารากานต์จะเข้าใจถึงจุดนี้เธอจึงอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ล้ำเส้นที่ผมเป็นคนขีดให้เธอจึงเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่กับผมนานที่สุด
แต่ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงที่อยู่กับผมนานที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมีแค่เธอเพียงคนเดียว ผมยังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ผมพอใจ และถ้าผมต้องการใครก็ห้ามขัด…
“มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามเธอเสียงเรียบเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองวิวตรงหน้าเหมือนเดิม
“เปล่าค่ะ กานต์แค่คิดถึงคุณก็แค่นั้นเอง” แต่เธอกลับใช้คำพูดหนึ่งที่ผมฟังจนรู้สึกชินชาไปเสียแล้ว ผมเคยบอกเธอไปแล้วว่า ถ้ายังอยากอยู่กับผมนานๆ ห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามหึงหรือหวงผม และเธอก็ทำมันได้ดี
...นอกจากคำว่า ‘คิดถึง’ ที่เธอมักจะพร่ำบอกผมเธอก็ไม่เคยแสดงกิริยาอื่นออกมาให้ผมต้องรำคาญอีกเลย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจึงไม่ได้ว่าอะไรเธอ นอกจากความเงียบเพียงเท่านั้น
“คุณพลหิวหรือยังค่ะ ถ้าหิวกานต์จะไปทำอาหารเช้าให้” ดารากานต์ถามผมเสียงหวาน เธอถามผมเหมือนเช่นทุกครั้งและทุกครั้งที่ถาม เธอจะเป็นคนลงมือทำอาหารให้ผม ถึงแม้ที่นี่จะมีแม่ครัวคอยทำอาหารให้ผมทานแล้วก็ตาม
“อืม...เธอไปตามเอกให้ฉันด้วย บอกมันให้ไปพบฉันที่ห้องทำงาน” ผมตอบรับคำถามเธอก่อนจะคลายอ้อมแขนของผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังออก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องและตรงไปยังห้องน้ำ
ผมจัดการทำธุระส่วนตัวก่อนจะอาบน้ำชำระร่างกายให้ตัวเองสดชื่นขึ้นมาบ้าง และหลังจากนั้นจึงเดินไปยังห้องแต่งตัวหยิบกางเกงในชายที่เลื่อนออกมาจากลิ้นชักจัดการสวมใส่ ก่อนจะเดินไปหยิบกางเกงแสล็คกับเสื้อเชิ้ตสีดำเข้ากับชุดออกมาสวมใส่
แต่ในขณะที่ผมกำลังกลัดติดกระดุมเสื้อหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวอยู่นั้น ภายในหัวสมองของผมก็พลันเห็นภาพบางอย่างขึ้นมาชั่วแวบหนึ่ง ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วและนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมนั้นเต้นแรงราวกับเจอสิ่งอะไรที่น่าสนใจ
...แต่นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเผลอเห็นภาพแบบนี้ ผมจะเห็นภาพแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ผมกำลังแต่งตัว
ภาพที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนแต่กลับไม่สามารถเห็นหน้าของคนในภาพนอกจากตัวผมที่อยู่ใน ‘ความทรงจำ’ นั้น
ภาพที่มีผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อยคนหนึ่ง เธอใส่ชุดกระโปงสีขาวสะอาดยืนหลังให้กระจกแต่หันหน้ากลับมาทางผม เธอช่วยผมแต่งตัวอย่างตั้งใจ ช่วยผมกลัดติดกระดุมเสื้อเชิ้ต ช่วยเอาเสื้อเข้าในกางเกงให้ผม ช่วยแม้กระทั่งใส่เข้มขัดและสวมเสื้อสูทให้กับผม และผมในตอนนั้นไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากมองเธออยู่นิ่งๆ
“...เธอเป็นใครกันแน่นะ”