มนัสยายืนมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกแล้วถามย้ำๆ ว่า ผู้หญิงตรงหน้านี้คือเธอแน่ๆ ใช่มั้ย ผู้หญิงที่นอนเฉยๆ แล้วยินยอมพร้อมใจให้เขาทำเรื่องน่าอายกับเรือนร่างของตัวเอง
ช่างเป็นเรื่องที่น่าละอายจริงๆ แล้วเลื่อนสายตาก้มมองตรงหน้าท้องแบนราบที่เลอะคราบน้ำขาวขุ่นของเขา พลางถอนใจอีกเฮือก
ก่อนจะมองกางเกงในผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดตาในมือ แตะปลายนิ้วมือลูบลายการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนี่ย์เรื่องดัง พลางยิ้มหยันให้ตัวเอง
ในชีวิตจริงก็รันทดแบบนี้นั่นแหละ มันไม่มีจริงหรอกเจ้าหญิงในนิยาย เพราะใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเธอจะต้องมารับบทนางบำเรอ ขายตัวให้กับมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังคนหนึ่ง เพื่อแลกกับเงินเอาไปให้ผู้เป็นแม่ช่วยชีวิตพี่ชายที่ถูกจับตัวไปแลกค่าไถ่จากแก๊งเจ้าหนี้พนันโหด
คิดแล้วน้ำตาพานจะไหล...
ทว่า เธอก็ฮึดขึ้นมาด้วยทิฐิมานะ ก่อนจะกลั้นใจใช้ผ้าขนหนูที่ชุบน้ำเช็ดคราบคาวของเขาออกไปตามเรียวขาต่อ
เดี๋ยวก็ชิน...
หลังจากที่เกื้อการุณดึงเธอขึ้นมาจากอาร์มแชร์ตัวนั้น พร้อมจัดกระโปรงและคว้ากางเกงในยื่นมาให้ เขาบอกให้เธอเข้ามาทำความสะอาดเนื้อตัวให้เรียบร้อย ส่วนเขา เวลานั้นมีสายสำคัญสายหนึ่งโทร.เข้ามาพอดี เขาจึงเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ที่อื่น
เธอจะต้องทำตามใจเขาทุกอย่าง ตามกฎเหล็กสามข้อนั่น
นึกถึงตอนที่ถูกลิ้นร้อนสากควานเข้าหา อะไรที่ลึกลับที่ซ่อนในส่วนเร้นรับก็เต้นตุ๊บตั๊บตอบสนองอีกแล้ว มันไม่เหมือนกับการช่วยปลดปล่อยด้วยตัวเองเลยสักนิด อ้อ เหมือนอยู่อย่างเดียวคือมีใบหน้าดุดันหล่อเหลาของคุณอาลอยอยู่เหนือร่างเธอในตอนที่มันหวิวสุดขีด นอกจากนั้นเธอพบของจริงนั้นดูให้ความตื่นเต้น เร้าอารมณ์ และสุขสมจนล้นปรี่กว่าประสบการณ์จริงที่ได้รับมันท่วมท้นเอ่อล้นกว่าจริงๆ
ครั้งหน้า เขาจะสอดใส่เข้ามาพร้อมกับปลดปล่อยสายธารอุ่นร้อนด้วย แค่คิด...เธอก็ร้อนผ่าวไปทั้งกาย ภายในต้นขาที่เธอกำลังหนีบเข้าด้วยกันกลับมาเต้นตุ๊บอีกครั้ง
นี่เธอไม่ได้หลงใหลไปกับสิ่งที่เขาปรนเปรอมาให้หรอกนะ มันเป็นเพียงการตอบสนองทางธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อปกติธรรมดาๆ เท่านั้นหรอก
"เสร็จหรือยัง..."
ขณะที่คิดถึงใบหน้าหล่อเหลา เสียงทุ้มนั้นก็ดังขึ้นอยู่ข้างหลัง ทำให้คนที่เช็ดคราบทำความสะอาดกายไปพลางนึกถึงสัมผัสเร่าร้อนของเขาพลาง ก็พลอยสะดุ้งขึ้นมา
แล้วเจ้าของเสียงถามก็ก้าวเข้ามาด้วยแววตาที่ลุ่มลึก เขาจ้องเธอ จนมนัสยารีบก้มหน้างุดด้วยความกระดาก กำลังคิดถึงเขาในทางลามก เขาก็เข้ามาในจังหวะนี้พอดี
"หรือจะให้อาช่วยเช็ดให้"
"เสร็จแล้วค่ะ" เธอรีบบอกวางผ้าขนหนู แล้วจัดกระโปรงให้เรียบร้อย กลัวจริงๆ ว่าเขาจะแตะต้องส่วนอ่อนไหวของเธอที่เพิ่งสงบลงอีก
"ยาหยีกำลังจะออกไปพอดีค่ะ"
เขาขยับเข้าใกล้ร่างบางอีกก้าว มือข้างหนึ่งดันคางเล็กๆ ขึ้นตาม แล้วใช้สายตาคมกริบตรวจตราร่างบางตรงหน้าอย่างละเอียดลออพึงพอใจ ก่อนจะเหลือบเห็นว่ามือบางของเธอยังกำเนื้อผ้าสีขาวผืนน้อยเอาไว้อยู่ เขายิ้มเล็กน้อย แล้วบอกว่า "แต่ยาหยี ยังไม่ได้ใส่ชั้นในนะ"
นั่นเอง เธอถึงนึกได้ ตายจริง!
แล้วเขาก็กระตุกผ้าผืนน้อยจากอุ้งมือของเธอไปทันที
มนัสยาทำท่าจะค้าน ทว่า..
.
"อย่าดื้อ..."
เขาย่อตัวลงตาม พร้อมกับกางกางชั้นในตัวน้อยออกให้พร้อม รอแค่เจ้าของจะหย่อนสองเท้าสอดลงมา "ใส่สิ เร็วเข้า"
มนัสยาเก้อเขินจนทำหน้าไม่ถูก เขาจึงเร่งอีก
"เร็วสิ อามีธุระต้องรีบไปต่อ"
หญิงสาวรีบขยับสองเท้าลงไป เขาลากผ้าผืนน้อยขึ้นตามเรียวขา จนถึงเอวคอดกิ่ว ก่อนที่จะตลบชายกระโปรงลง เขายังจูบลงตรงโน้มเนื้อแผ่วเบาราวกับความหวานซ่านที่เธอเช็ดออกยังไม่หายไปไหน ยังคงประทับเป็นหลักฐานอยู่ตรงบริเวณนี้ เกื้อการุณข้อนดวงตาคู่ลุ่มลึกขึ้นมาสบกับเจ้าของเนินเนื้อ บอกเสียงทุ้มต่ำอีกว่า
"ครั้งหน้า อาจะเข้าไปในนี้"
ดวงหน้าหวานแดงซ่านขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อไหร่เธอจะชาชินกับคำพูดและการกระทำอันดิบห่ามแบบนี้เสียทีนะ
"รีบไปเถอะค่ะ อาเกื้อมีงานต่อไม่ใช่หรือคะ" เมื่อหาทางออกจากสถานการณ์อึดอัดรัดใจไม่ได้ เธอจึงรีบเตือนถึงธุระสำคัญที่เขาว่ามาก่อนหน้า
เกื้อการุณยืดตัวขึ้นมา ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ความจริงแล้วก็ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอก แค่การนัดทานข่าวเย็น ธรรมดาๆ น่ะ"
จู่ๆ เธอก็สัมผัสถึงความไม่สบายใจจากน้ำเสียงและแววตาจริงจังของเขาได้
ท่าทางจะไม่ใช่การนัดทานข้าวเย็นธรรมดาๆ เสียแล้ว น้ำเสียงของเขาถึงได้แปร่งปร่าไปกว่าเดิม
ไม่ทันได้คิดอะไรต่อ มือน้อยของเธอก็ถูกฝ่ามือหนาฉวยไว้ แล้วเขาก็พาเธอเดินออกจากห้องน้ำไปทันที และขณะจะเดินออกห้องพักหรูนี้ไป เกื้อการุณก็ได้พาเธอมาหยุดตรงอาร์มแชร์ตัวใหญ่ เขาหันมาบอกเธออีกว่า
"อาขอโทษที่ทำให้มันเลอะน้ำของอา เอาไว้อาจะให้คนเอาตัวใหม่มาเปลี่ยนให้ก็แล้วกันนะ"
เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะมาบอกเธอทำไม แต่เมื่อเขาเฉลยก็เข้าใจว่า เกื้อการุณได้ยกห้องนี้ให้เธอแล้ว
"อย่าลืมสิ...ว่าอาเพิ่งยกมันให้ยาหยีไป ข้าวของต่างๆ ก็เป็นของยาหยีไปแล้ว"
"ทำไม อาเกื้อถึงได้ให้ยาหยีมากมายคะ" เธอถาม เหมือนเขาจะลงทุนกับเธอมากเกินไป
"เพราะอาไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงของอาลำบาก และถ้าวันหนึ่งความสัมพันธ์นี้ของเรามันจบลง เราจากกันไป อย่างน้อยห้องนี้มันก็ยังทำให้ยาหยีมีรายได้งอกเงย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับยาหยีเองว่าจะบริหารจัดการมันอย่างไรถึงจะทำให้มีเงินงอกเงยออกมาอีก"
เกื้อการุณบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเป็นการเป็นงานตามแบบฉบับนักลงทุนทางอสังหาริมทรัพย์ เห็นดวงหน้างามเริ่มนิ่งคิด เขาก็กดรอยยิ้มลงที่มุมปากอีกครั้ง
จริงสินะ ห้องพักหรูหรา ในทำเลทองเช่นนี้ เก็บเอาไว้เก็งกำไรในอนาคตก็ได้ หรือปล่อยให้คนเช่าก็ดีนี่
มนัสยาสบตาเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอดโปร่งเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาเหยียบภายในห้องนี้พร้อมกับเขาว่า "เข้าใจแล้วค่ะ แล้วยาหยีจะเป็นเด็กดีของอาเกื้อ จะทำทุกๆ อย่างให้อาเกื้อพอใจและมีความสุข"
เกื้อการุณยิ้มน้อยๆ รับ เสหลังมือลูบแก้มเนียนลออแผ่วเบา "ดี ถ้ายาหยีเข้าใจก็ดี จำไว้ว่ายาหยีเป็นผู้หญิงของอา ขอแค่ให้เป็นเด็กดีของอาไปเรื่อยๆ ก็พอ หน้าที่ของยาหยีก็มีแค่นี้แหละ"