.
.
.
.
.
‘หลังจากนี้มันคงมีแค่ฉันแล้วล่ะที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คนเดียว..’
.
.
.
.
.
.
.
1 ปีให้หลัง..
ร่างสูงนั่งจดจ่ออยู่หน้าคอมนิ้วยาวพลางเลื่อนเม้าส์ขึ้นลงสายตาก็เลื่อนอ่านหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวในการสอบปลายภาค เมื่อสายตาที่เริ่มจะล้าจากการใช้งานมานานเริ่มพล่ามัวร่างสูงจึงสะบัดหัวเบาๆพลางกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะดีขึ้น
“เฮ้อ..สงสัยต้องพักหน่อยละมั้ง เอ้ะ..หรือว่าควรไปนอนวะเนี่ย” พึ่งนึกได้ว่ากี่โมงกี่ยามก็ตอนที่สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้างฝาห้องที่มันบอกเวลา 02 : 37 น. เมื่อรู้ตัวดังนั้นมือหนารีบจัดเก็บกองสมุดหนังสือที่กองอยู่หน้าคอมให้เข้าที่เข้าทางก่อนตรงไปปิดไฟห้องแล้วโดดขึ้นไปอยู่บนเตียง
“ฮ้าาา ~ ได้พักสักทีไว้พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาอ่านต่อละกัน” สายตาที่เหนื่อยล้าหลับลงแล้วห้องทั้งห้องก็เข้าสู่ความเงียบ...
“...” แต่เป็นที่น่าแปลกใจทั้งๆที่เขารู้สึกว่ากำลังจะดำดิ่งสู่ห้วงนิทราบางสิ่งก็ดันผุดขึ้นมาในหัวจนทำให้เจ้าของร่างต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“ริน..” ปากหยักเอ่ยชื่อใครบางคนออกมาเบาๆ.. ใครบางคนที่หายออกไปจากชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้นเมื่อหนึ่งปีก่อนและหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ติดต่อกันอีกเลย ฝ่ายนั้นก็ขาดการติดต่อไปส่วนตัวร่างสูงเองก็มัวแต่ยุ่งกับเรื่องเรียนตัวเองและแฮปปี้ดีกับความรัก..จนเรื่องราวของใครบางคนได้เลือนหายไปจากความทรงจำชั่วขณะแต่เขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่าจริงๆแล้วมันฝังอยู่ในใจเขาตลอดเวลา
“เธอเป็นยังไงบ้างนะ” ดวงตาที่เปิดขึ้นอีกครั้งนอนมองเพดานห้องมืดๆที่มีแสงจากพระจันทร์ส่องมาถึง ที่สุดแล้วร่างสูงก็ทนต่อความสงสัยไม่ได้จนต้องหยิบมือถือคู่ใจเข้ามาเปิดโซเชี่ยลเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเธอคนนั้น
“...อะไรกันอ่ะ ยัยนั่นยุ่งจนไม่ได้เล่นโซเชียลเลยรึไงเนี่ย อัพเดทครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปีที่แล้วนู่น” นิ้วยาวไล่ดูความเคลื่อนไหว ออกแอพนั้นเข้าแอพนี้แต่ก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า ไม่ได้มีการอัพเดทใดๆจากเจ้าของแอคเคาท์นั้นเลย
“ก็เรียนหมอนี่เนอะคงจะยุ่งมากๆ เอาล่ะเราก็ทำเต็มที่ละกัน ฉันต้องเป็นนักบินที่เท่ๆให้ได้เลย! งั้นนอนๆ” คิดได้ดังนั้นมือถือเครื่องสวยก็ถูกวางลงก่อนที่เจ้าของเครื่องจะกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
และมันก็เป็นอีกอาทิตย์หนึ่งที่ช่างยาวนานและยากลำบอกเหลือเกินสำหรับชีวิตการเป็นนักศึกษา กว่าจะผ่านมันไปได้ร่างสูงก็เลือดตาแทบกระเด็นเลยก็ว่าได้ เมื่อทานอาหารเย็นกันอย่างพร้อมหน้าเรียบร้อยแล้วร่างสูงเองก็ตรงขึ้นมายังห้องนอนของตัวเองทันที
“เยยยยยยยยยยยยยยยยยยย้! สอบเสร็จแล้ววว” ร่างหนาโปรยชีทเรียนจนกระจายทั่วห้องก่อนจะกระโดดลงบนเตียงนุ่มอย่างโหยหา
“ปิดเทอมจะนอนให้สมใจเลยโว้ยย” เสียงทุ้มตะโกนร้องเสียงร้องอยู่ในห้องตนเองจนผู้เป็นแม่ต้องเปิดเข้ามาถามไถ่อาการ
“รันมีอะ...อะไร นี่มันอะไรเนี่ยลูก ทำไมห้องเป็นอย่างนี้หละหื้ม?” มีอาร์ขมวดคิ้วบางมองมาทางเจ้าของห้อง
“ก็ผมสอบเสร็จแล้วเลยโปรยชีทเรียนครับแม่..” เจ้าของห้องหน้าเจื่อนเล็กน้อย
“...ลูกโอเครึเปล่ารัน” แม้ว่าอยากจะดุแค่ไหนแต่ได้เห็นสีหน้าเจื่อนๆนั่นผู้เป็นแม่ก็ต้องพยายามกลั้นขำสุดชีวิต
“ผมโอเค..ผมแค่ดีใจเยอะไปหน่อย -.-”
“จ้าๆงั้นพักผ่อนเถอะนะ แต่อย่าลืเก็บห้องด้วยล่ะ” เห็นดังนั้นเจ้าหล่อนก็หมดห่วง
“ครับบ ปิดเทอมผมจะมีเวลาอยู่กับแม่เยอะๆเลย-.-” แน่นอนว่าปล่อยมุกอ้อนแล้วต้องตามมาด้วยการอ้อนโดยการดีดตัวจากเตียงแล้วไปหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่
“แหน่ะ นอนเยอะๆมากกว่าอ่ะเรา งั้นแม่ไปละ” คุณแม่คนสวยยิ้มให้กับการกระทำของลูกชายแสนรัก
“บายครับ” ร่างสูงโบกมือหยอยๆแล้วค่อยๆปิดประตูลงก่อนไปคว้าเอาโน๊ตบุ๊คและกระโดดขึ้นไปอยู่บนเตียงเหมือนเดิม
“ยัยนั่นสอบเสร็จแล้วเหมือนกันไหมนะ” แน่นอนว่ายังคงมีเรื่องที่คาใจอยู่และไม่รอช้าที่จะหาคำตอบ นิ้วยาวรีบคลิ๊กเม้าท์ไปยังเพจของใครบางคนแต่ก็ได้กลับมาเพียงความว่างเปล่าเหมือนเดิมเมื่อเจ้าของเพจนั้นได้มีการอัพเดทใดๆเลย
“เอ่า แล้วจะติดต่อไงอ่ะ ต้องโทรหรอ.. อืม..จะดีหรอวะโทรไปแล้วจะคุยเรื่องอะไรอ่ะ” ร่างหนานั่งบ่นอุบอิบคุยกับตัวเองอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจนสุดท้ายมือหนาก็ต้องหยิบโทศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปยังหมายเลขที่คุ้นเคย
‘ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการฝากหมายเลขโทรกลับ’
“อ้าว - -a สงสัยยังไม่ว่าง ไว้ค่อยโทรใหม่” แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไม่ว่าเขาจะพยายามโทรกี่ครั้งก็ไม่ได้รับการตอบรับจากปลายสายเลยแต่ครั้งเดียว และดูเหมือนว่าภารกิจนี้ต้องถูกล้มเลิกไปเมื่อร่างสูงเผลอหลับไปหน้าคอมพิวเตอร์โดยที่โทรศัพท์ยังคงอยู่ในมือ..แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกตลอดทั้งคืนจนกระทั่ง..
13 : 45 น.
ก๊อก ๆ...
“คุณรันคะ คุณมีอาร์ให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ” เสียงปลุกจากสาวใช้ดังขึ้นหน้าห้องเรียกสติของเจ้าของห้องที่ยังหลงอยู่ในห้องนิทราให้ค่อยๆกลับคืนมา
“หือ.. อื้ออ อีกแปปปปป” ร่างหนางัวเงียซุกอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมดวงตาที่ยังปิดสนิท
“รันนนนนนนนนนน!! ตื่นได้แล้วว! แม่นายเรียกลงไปทานข้าวแล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน เป็นปลวกรึไงห๊ะ!” เสียงของแม่บ้านคนสนิทของแม่ที่ทรงพลังกว่าจนทำให้ดวงตาคู่คมที่เคยปิดสนิทแทบจะถล่นออกมา
“=_= พ พี่ลิเวีย ข เข้าใจแล้ววว! หยุดตะโกนได้แล้วน่า” เสียงทุ้มตอบกลับแม่บ้านคนสนิทที่แทบจะเป็นเหมือนพี่สาวของเขาอีกคน
“....”
“ คร่อก....” หน้าคมเผลอซุกลงกับหมอนอีกครั้ง..
“เดี๋ยวนี้!!!!! ”แม้จะอยู่ด้านนอกมีหรือที่พี่สาวคนที่สองอย่างลิเวียจะไม่รู้ว่านิสัยของเจ้าเด็กคนนี้เป็นอย่างไร
“โฮ่ยยยยยยยยยยยยย พี่ลิเวีย รู้แล้วๆๆๆลุกแล้ว” ว่าพลางงัวเงียหยัดตัวขึ้นเดินโซเซตรงเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง
“ดีมาก งั้นพี่กับป๊ากับแม่นายรออยู่ด้านล่างนะ” เมื่อได้ยินเสียงที่ทำให้แน่ใจแล้วว่าร่างสูงลุกไปจัดการตัวเองคนเป็นพี่ก็ยอมลามือ
“สุดยอดเลยลิเวีย ปลุกคุณรันได้ไง O_O” เพื่อนสาวใช้ว่าพลางเดินตามลงมาติดๆ
“ก็รู้นิสัยมันอ่ะ ก็เลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็กๆนู้น รันมันต้องเจอไม้แข็งเพราะถ้าให้พี่มีอาร์มาปลุกนะแค่เจอลูกอ้อนลูกชายตัวเองไปนิดเดียวพี่มีอาร์ก็ยอมแล้ว -.-” เมื่อลงมาถึงที่เหล่าสาวใช้ก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“มาแล้วครับๆ”ใช้เวลาเพียงไม่นานร่างสูงก็มาปรากฏตัวที่โต๊ะอาหารพร้อมนั่งประจำที่ของตัวเอง
“ตื่นซะบ่ายเลยนะเจ้ารัน” เสียงทุ้มของผู้เป็นบิดาว่าพลางตักอาหารใส่จานตัวเอง
“ก็ช่วงผมอ่านหนังสือผมนอนดึกทุกวันเลยอ่ะป๊าเลยนอนชดเชย”
“แบบนี้ก็ได้หรอเจ้ารัน - -;” คนเป็นพ่อส่ายหัวเบาๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“เอาน่าปิดเทอมแล้ว แต่ลูกจะตื่นแบบนี้ทุกวันได้นะรัน” ถึงคราวคนเป็นแม่ต่อบทสนทนาบ้างแต่เพียงหันไปเจอหน้าอ้อนๆของลูกชายก็ต้องหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่ต้องเลยนะมีอาร์ฉันมองหน้าเธอก็รู้แล้วอ่ะว่าเธอจะแพ้ลูกอ้อนเจ้ารัน” คนเป็นสามีรู้ทันจนร่างบางต้องหลุดขำออกมาอย่างชอบใจ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติและหรรษาตามประสาครอบครัวสุขสรรค์จนกระทั่ง...
“นายครับมีแขกมาขอพบครับ” ร่างสูงโปร่งของลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามารายงาน
“ใครวะ นี่ฉันไม่ได้นัดใครไว้ไม่ใช่หรอจาฟา” คิ้วหนาเริ่มขมวดเป็นปมเมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาทำลายบรรยากาศครอบครัวหรรษาของเขา
“แต่เขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญครับนาย ถ้านายไม่ให้พบคนน้านนี้จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตครับ” ลูกน้องถ่ายทอดตามคำพูดของแขกผู้มาเยือนไปตามสิ่งที่ได้ยินมา
“ห๊ะ! อะไรวะ ใกล้กันที่มันกล้าพูดแบบนี้! ให้มันเข้ามา” ใบหน้าคมเริ่มปรากฏความดุดันบนใบหน้า
“คุณซันใจเย็นๆสิคะ” มือบางละจากช้อนซ้อมไปเกาะลูบแขนสามีเบาๆ ส่วนลูกชายตัวดีก็ไม่ได้สนใจอะไรต่างตักอาหารกินไปตามปกติเพราะเขาถือว่ามันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา
“สวัสดีครับ” เพียงไม่กี่อึดใจในห้องอาหารก็ปรากฏชายร่างสูงโปร่งแต่งกายภูมิฐานพร้อมกับทารกน้อยที่เขาอุ้มมาด้วยในอ้อมกอด
“....”
“....” ทั้งห้องตกอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบงัน
“ฮ..เฮียฟาร์ม!!!!=___________________=” เพียงเงยขึ้นมาจากจานข้าวอาหารที่พึ่งตักเข้าปากไปก็แทบจะทะลักกลับออกมาทางเดิม
“รันรู้จักหรอลูก” มีอาร์หันมาถามลูกชายเบาๆ
“รู้จักสิครับ คนนี้ไงพี่ชายของเฟริน” ตาคมเหลือบมองไปยังพี่ชายที่เขารู้จักพลางกระซิบตอบกลับไป
“อ๋ออ ที่เป็นหมอใช่ไหม ว่าแต่เขามาที่นี่ทำไมอ่ะลูก”
“.. อ เอ่อ ผ ผม ผมไม่” ตาคมไปสะดุดเข้ากับทารกตัวน้อยที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดเขายิ่งแทบไม่ต้องเดาเลยว่ามาด้วยเรื่องอะไรทำได้เพียงแต่ภาวนาขอว่าไม่ให้มันเป็นอย่างที่เขาคิด
“คุณมีธุระอะไรครับ” ยังไม่ทันที่ลูกชายจะตอบแม่กลับผู้เป็นพ่อกลับยิ่งคำถามใส่แขกผู้มาเยือนทันที
“ผมก็พาเด็กคนนี้มาเรียกร้องสิทธิ์ของเขาน่ะสิครับ” สายตาดุดันมองจ้องมายังตัวปัญหาที่นั่งสั่นเทาอยู่ข้างๆผู้เป็นแม่
“หมายความว่ายังไง?” ผู้เป็นพ่อเริ่มสงสัยในคำพูดของชายตรงหน้า
“ถามลูกชายของคุณดีกว่าไหม เขาน่าจะอธิบายได้ดีกว่าผม”
“....อึก” ทันทีที่จบประโยคทั้งพ่อและแม่หันมามองคนถูกพาดพิงเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่คาดคั้นเอาคำตอบ ร่างสูงรอบกลืนน้ำลายดังอึกก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยยิ้มร้ายบนมุมปากหนาของพี่ชายคนนั้นเข้า
“ไหนอธิบายมาสิรัน” มีอาร์เริ่มไม่มั่นใจในตัวลูกชายตัวเองเมื่อเห็นท่าทีอ้ำอึ้งนั่น
“แกพูดอะไรบ้างสิวะรัน!” เมื่อผู้เป็นพ่อเริ่มมีน้ำโหจนเสียงดุดันเริ่มตวาดใส่ลูกชายตัวดี
“.....”
“เด็กคนนี้คือหลานสาวของพวกคุณที่เกิดจากลูกชายของคุณและน้องสาวของผม” สุดท้ายผู้เป็นแขกก็อดไม่ได้ที่จะเฉลยด้วยตัวเองเพราะหากถ้ารอเจ้าตัวก็คงจะเสียเวลาไปเปล่าๆ
“ห๊ะ!!! O__O ห..หลาน หลานหรอ หลานสาวหรอ” มีอาร์ตาเบิกกว้างพลางพูดทวนซ้ำไปซ้ำมาอย่างลืมตัว
“ห๊ะ!!!! หลาน? หลานสาว? =___=?” ผู้เป็นพ่อเองก็ไม่ต่างได้พูดวกไปวนมาพร้อมมองหน้าลูกชายสลับกับเด็กน้อยในอ้อมแขนของชายร่างสูงตรงหน้า
“..... =[____]= ” ส่วนเจ้าตัวนั้นได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ไม่มีข้อจะแก้ตัวหรือปฏิเสธ
“คือฉันขอดูหน้าหลานใกล้ๆหน่อยได้ไหมคะ” มีอาร์ส่งมือไปเพื่อรับทารกน้อยมาไว้ในอ้อมกอดก่อนก้มลงสำรวจใบหน้าอวบอูมของพวงแก้มยุ้ย ปากเป็นกระจับ ดวงตาที่พริ้มหลับสนิทปกคลุมไปด้วยขนตายาวงอนเรียงกันเป็นแพ
“รัน... อธิบายมา”เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าทารกน้อยคนนี้มีสายเลือดของเธอแน่ๆ เสียงนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็นของผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาเบาๆเพื่อขอคำอธิบาย
“คือว่า...” ความคิดในหัวกำลังตีกันไปหมดเพื่อหาคำตอบ คำอธิบาย คำแก้ตัวตั่งต่างๆนาๆแต่เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของผู้เป็นพ่อที่จ้องมาเขม็งด้วยความดุดันเขาเองก็ตัดสินใจได้ว่าทางเดียวคือต้องพูดความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น..ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆโดยมีพี่ชายของเพื่อนหญิงคนนั้นนั่งรับฟังด้วย
.
.
.
.
.
.
.
19 : 45 น.
“ ฟู่ววววว ฮ้าาา รู้สึกดีจังที่ได้ผ่อนคลายหลังสอบ ต้องขอบคุณพี่ฟาร์มด้วยนะเนี่ยจัดการหาสปาร์ดีๆให้ไปพัก ไหนจะอาสาดูแลตัวเล็กให้อีกตั้ง 4 วันแหน่ะ” ร่างเล็กของว่าที่แพทย์หญิงเดินลากกระเป๋าเดินทางใบน้อยเข้าบ้านก่อนค่อยๆเปิดเข้าไป
“กลับมาแล้ววว พี่ฟาร์ม...” เฟรินเดินสำรวจรอบบ้านแต่สิ่งที่พบมีเพียงความว่าเปล่า
“ริเอล แม่กลับมาแล้วว .. พี่ฟาร์ม.. หรือขึ้นเวรนะ” เมื่อไม่พบเจ้าของบ้านร่างเล็กก็รีบยกมือถือขึ้นมากดโทรออกไปยังหมายเลขเป้าหมายแต่ก็มีเพียงข้อความอัตโนมัติ
‘ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการฝากหมายเลขโทรกลับ’
“เอ้า.. ทำไมติดต่อไม่ได้อ่ะ หรือมีเคสผ่าตัดหรอ แล้วใครเลี้ยงริเอลให้อ่ะ” ผู้เป็นแม่เริ่มรนรานกดโทรซ้ำๆแต่ก็มีเพียงข้อความเดิมๆดังวนซ้ำไปซ้ำมาและเมื่อโทรเข้าไปที่ห้องทำงานแต่ก็ไม่มีใครรับสายของเธอเลย จนสุดท้ายคนตัวเล็กตัดสินใจออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อนไปยังโรงพยาบาลที่พี่ชายทำงานอยู่
เหตุใดเส้นทางที่เคยคุ้นเคยกลับดูยาวไกลเหลือเกินสำหรับใจของคนเป็นแม่ที่ไม่รู้ว่าลูกของตัวเองเป็นอย่างไรอยู่กับใคร กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน เพราะนอกจากเธอและพี่ชายแล้วเธอไม่เคยฝากใครให้ดูแลลูกน้อยแทนเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ใช้เวลาไม่นานพาหนะสี่ล้อก็จอดเทียบหน้าโรงพยาบาลร่างเล็กจ่ายเงินก่อนจะรีบลงและสาวเท้าตรงไปยังห้องทำงานของพี่ชาย
“พี่ฟาร์ม!” และแน่นอนว่าสิ่งที่รอเจ้าหล่อนอยู่ก็คือความว่างเปล่า..
“พี่ฟาร์ม! อยู่ไหนน่ะ อย่าเล่นแบบนี้นะ รินไม่ชอบนะ! ริเอลอยู่ไหน พี่เอาริเอลไปไว้ไหน ฮึก..” น้ำตาแห่งความเป็นห่วงของแม่เริ่มไหลรนพลางวิ่งพล่านไปทั่วห้องเพื่อเปิดเช็คตามห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าเพื่อไม่ให้แน่ใจว่านี่ไม่ได้เป็นการเล่นตลกของพี่ชายเธอ
“ฮึก.. ฮือออ ริเอล ริเอลอยู่ไหนลูก” คนตัวเล็กตัดสินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยธารน้ำตาพร้อมเสียงร้องไห้ที่ร้องเรียกหาลูก สายตาของทั้งผู้ป่วย พยาบาล และหมอคนอื่นๆต่างจับจ้องมาที่เธอ
“คือ.. ฮึกก ฮืออ คือ มีใครเห็นพี่ชายฉันบ้าง.. ฮืออ ฮรึกก บ้างไหมคะ กับเด็ก ฮรึกก เด็กทารกค่ะ” เฟรินตรงไปยังเคาท์เตอร์ของพยาบาลที่เข้าเวรอยู่หน้าห้องด้วยอาการสั่นเทาร้องไหนจนแทบจะไม่สามารถพูดให้เป็นประโยค
“อ๋อค่ะ เห็นคุณหมออุ้มเด็กออกไปตั้งแต่ตอนสายๆแล้วค่ะ”
“ล แล้ว ฮรึก เขาไม่กลับเข้ามาอีกเลยหรอคะ” ร่างเล็กกระตือรือร้นขึ้นทันทีเมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการเพิ่มขึ้น
“อืมม ฉันเห็นเขาเข้ามาเมื่อตอนหกโมงเย็นอีกรอบนะ แต่ไม่เห็นมีเด็กมาด้วยเลยแล้วเขาก็ออกไปอีก”
“ค คุณแน่ใจนะคะว่าไม่เห็นมีเด็กมาด้วยอีก ฮรึก.. ฮืออ ค คุณไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม?” เสียงเล็กเริ่มสั่นเครืออีกครั้งเมื่อความหวังเมื่อครู่ถูกดับลงทันที
“ใช่ค่ะ คุณหมอเข้ามาคนเดียว”
“ฮืออออออออออออออ... ฮรึก ฮือออออออออออ ริ ริเอล ลูกอยู่ไหน พี่เอาลูกรินไปไว้ที่ไหน ฮืออออ” ทันทีที่ได้รับคำยืนยันขาทั้งสองแทบหมดแรงค่อยๆทรุดตัวลงร่ำไห้หน้าเคาน์เตอร์อย่างไม่แคร์สายตานับสิบคู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ลูกฉันอยู่ที่ไหน? ...ได้โปรดพระเจ้า..ขอให้ลูกฉันปลอดภัยด้วย’
.
.
.
.
.
.
.
.