Chapter VI : Marry me? แต่งงานกันเถอะ! Part I

2848 คำ
. . . . . . . ‘ลูกฉันอยู่ที่ไหน? ...ได้โปรดพระเจ้า..ขอให้ลูกฉันปลอดภัยด้วย’ . . . . . . ขาอันไร้เรี่ยวแรงเดินเตร่ๆตามทางกลับบ้านไปเรื่อย ใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาเหม่อลอยมองพระจันทร์ส่องสว่างบนฟ้าพลางในหัวก็คิดเรื่องราวต่างๆนาๆก่อนเท้าเล็กจะมาหยุดยืนหน้ารั้วบ้านของตัวเอง “พี่ฟาร์ม...” ตากลมเบิกกว้างด้วยความดีใจเมื่อเห็นรถพี่ชายจอดประจำที่ เท้าเล็กรีบสาวเข้าบ้านอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างแรงจนทำให้ชายร่างสูงที่กำลังคร่อมหญิงสาวร่างบางอยู่บนเตียงเด้งตัวขึ้นอย่างอัตโนมัติ “ริน!!!!” พี่ชายตัวดีตาเบิกกว้างเมื่อเห็นในหน้าน้องสาวที่ควรจะอยู่ที่สปาเป็นคืนสุดท้าย “พี่ฟาร์ม.. ทำไมพี่ทำแบบนี้! พี่เอาลูกรินไปไว้ไหน” ร่างเล็กรีบตรงเข้าไปเกาะแขนแกร่งของพี่ชายก่อนออกแรงเขย่ามันแรงๆพร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ “ริน! รินใจเย็นๆ ฟังพี่ ริน!” ผู้เป็นพี่พยายามจับมือเล็กไว้ให้หยุดก่อนจะหันไปพยักเพยิดหน้าให้หญิงสาวข้างๆออกไปก่อน “พี่จะให้รินฟังอะไร ทำไมพี่ทำแบบนี้ รินไว้ใจพี่ ลูกรินอยู่ไหน!! ฮืออออ” “ยัยริน!” เสียงทุ้มหนักตวาดใส่น้องสาวจนคนตัวเล็กกว่าทรุดลงนั่งกับพื้น “ฮือออ.. พี่ .. ฮึก..พี่ฟาร์ม.. ยัยหนูของรินอยู่ไหน ลูกรินอยู่ไหน.. ฮืออ” คนตัวเล็กยังร้องไห้ไม่ขาดแต่หากอ่อนแรงลงจนคนพี่ต้องค่อยๆพยุงร่างน้องสาวกลับขึ้นมานั่งโซฟาข้างๆ “ค .. คือว่า ..คือ .. พี่..พี่พาริเอลไปที่บ้านพ่อเค้า” ปากหนาเม้มเข้าหากันแน่นไม่มีคำใดจะแก้ตัว “พี่ฟาร์ม! ทำไมพี่ทำอย่างนี้ รินย้ำนัก ย้ำหนาใช่ไหมว่ารินไม่อยากให้เค้ารู้” “ริน! มันไม่แฟร์กับริเอลนะ คิดหรอว่าสักวันริเอลจะไม่ถามหาพ่อ แล้วหมอนั่นเองก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ!” “รินไม่ต้องการให้เค้ามารับผิดชอบริน! รินเลี้ยงลูกเองได้! ” เสียงเล็กแข็งกร้าวสูงพี่ชาย “รินไม่ต้องการ แต่ริเอลต้องการ!” “....” ร่างเล็กเงียบลงถนัดตาไร้คำจะโต้เถียง “พี่ขอโทษ... จริงๆแล้ว.. วันนี้พี่มีนัดเดท..เลื่อนไม่ได้จริงๆพี่ก็เลย..” “พี่มันเห็นแก่ตัว...” ยังไม่ทันที่พี่ชายจะพูดจบเสียงเล็กก็แทรกขึ้นมาจนคนที่ถูกว่าให้ได้แต่ลอบถอนหายใจยาวๆ.. “เฮ้อ... พี่ขอโทษ พี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆนั่นแหล่ะ” ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของน้องสาวสุดที่รักคิดสงสารจับใจ สิ่งที่เขาทำไปไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวล้วนๆหากแต่มันคือความต้องการของคนเป็นพี่ต้องการให้ใครอีกคนมารับผิดชอบช่วยกัน ไม่อยากให้ทุกอย่างมันตกอยู่ที่น้องสาวของเขาเพียงคนเดียว “......” “ริน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆแม้รู้อยู่แล้วว่าจะไม่ได้การตอบรับ พลางลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู “.....” “เราไปรับยัยหนูกลับบ้านกันเถอะ” “.... ฮึก” เพียงเท่านั้นน้ำตายิ่งไหลกลับออกมาซ้ำรอยเดิมพร้อมร่างเล็กที่โผเข้ากอดพี่ชายแน่น “ไปกันนะ” ร่างสูงค่อยๆพยุงร่างของน้องสาวตรงไปยังรถก่อนจะขับออกไปยังที่หมาย . . . . . . . . . ‘การพบกันครั้งนี้ฉันควรมองหน้านายยังไง...’ . . .. . . . . 21 : 05 น. “..อุแว๊.. อุแว๊.. แงงงงงง๊..~” ทารกน้อยในอ้อมอกของผู้มีศักดิ์เป็นย่าร้องไห้โยเยและไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่ายๆ “โอ๋ๆๆ คนเก่งของย่าไม่ร้องนะลูก” มีอาร์อุ้มหลานน้อยโยกไปมาเบาๆกล่อมหวังให้ทารกน้อยสงบ “ทำไมเขาร้องไม่หยุดเลยอ่ะแม่” ลูกชายเอ่ยถามผู้เป็นแม่อย่างเข้าใจพฤติกรรมของทารก “เด็กวัยนี้เขาห่างแม่ได้ที่ไหนกันล่ะรัน” “ก็ทำไงได้อ่ะครับแม่ เฮียฟาร์มบอกว่าน้องสาวเขาป่วยหนักมากนี่ครับ” ลูกชายหน้ายู่ตอบกลับไปราวกับว่าไม่ใช่ความผิดของตน “หึหึ.. งั้นหรอเจ้ารัน! ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีไป! ถ้าแกบอกป๊ากับแม่ว่าแกไปทำอะไรไว้! หลานฉันก็คงไม่เป็นแบบนี้อย่างน้อยเราจะได้ช่วยแม่เขาดูแล ริเอลก็จะได้คุ้นหน้าพวกเราบ้าง ” คนเป็นพ่ออดไม่ได้กับท่าทางน่าหมั่นไส้ของลูกชายมือหนาเคาะลงที่หัวอย่างแรงจนอีกคนต้องอุทานเสียงหลง “โอ๊ยยย!! ป๊า!!= = ทำผมทำไมเนี่ย!” “ก็แกมัน!! ฮึ่ยย” ผู้เป็นบิดากัดฟันกรอด “พอๆทั้งสองคนนั่นแหละเดี๋ยวริเอลก็หลับไม่ได้สักทีสิ” ถึงคราวผู้เป็นแม่ออกโรงห้ามบ้างและแน่นอนว่ามันได้ผล ‘ก๊อก ก๊อก..’ เสียงเคาะประตูเรียกความสนใจจากทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าครอบครัวให้หันไปพร้อมกัน “เข้ามา” เสียงทุ้มต่ำของเจ้าของบ้านเอ่ยอนุญาต “นายครับมีคนมาขอพบครับ” บอดี้การ์ดร่างสูงรายงานตามหน้าที่ “ใครกันอีกวะ นี่ดึกขนาดนี้แล้วแกยังให้เขาเข้ามาอีกหรอ” คิ้วหนาขมวดเข้าพลางเปรยตามองลูกน้องอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ “เอ่อ.. คือ เขาบอกว่าสำคัญมากๆครับ” “รัน ไปดูหน่อยใครมาแล้วมาบอกป๊า ถ้าไม่สำคัญก็ไล่เขากลับไป” บิดาออกคำสั่งให้ลูกชายก่อนจะใช้สายตาจ้องมองย้ำคำสั่งอีกครั้ง “ค..ครับ” ร่างสูงลุกออกไปอย่างเก้ๆกังๆ ร่างสูงเดินออกมาก่อนชะโงกหน้าส่องลงมาจากชั้นสอง “!!!!!..... = =” ตาคมแทบถลนออกจากเบ้า!! เมื่อเห็นบุคคลที่ขาดการติดต่อเขาไปกว่าหนึ่งปียืนกอดอกรออย่างร้อนรน ทันเท่าสายตาร่างสูงรีบผลุบกลับเข้าไปในห้องแต่ก็ต้องเจอกับสายถามหาคำตอบของบิดา “ว่าไงใครมา” “เอ่อ...คือ” “เอ่า ว่าไงใครมา” เสียงเข้มเร่งเค้นคำถามจากลูกชาย “คือ..แม่..” ว่าพลางมองไปยังทารกน้อยที่ยังคงร้องโยเยอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นย่า “แม่อะไรของแก จะพูดก็พูดมาดีๆ ถ้าไม่พูดฉันจะออกไปดูเอง” ผู้เป็นพ่อทำท่าลุกปึงปังตรงไปยังประตูแต่ก็โดนลูกชายตัวดีมายืนบังประตูไว้ “แกจะเอายังไงเนี่ย บอกก็ไม่บอกจะไปดูเองก็ไม่ให้ไป! หลบไป!” ชายผู้เป็นพ่อเริ่มออกคำสั่ง “ม ไม่ได้ครับป๊า ไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ได้ เดี๋ยวผมจะออกไปคุยเอง!” “ฉันจะไปดูเอง!” คนเป็นพ่อยังยืนยันคำเดิมก่อนผลักไหล่ลูกชายจนกระเด็นถอยออกไป เพียงเท่าประตูเปิดออกร่างเล็กที่กำลังจะจับลูกบิดก็ต้องผงะไม่ต่างกับคนที่เปิดประตูออกมาก็ต้องชะงักไปเองเช่นกัน “ส สวัสดีค่ะ... ริ ริเอล ริเอลลูกแม่ ฮือออ ” ร่างเล็กกล่าวทักทายเจ้าของบ้านทันทีแต่เมื่อได้ยินเสียงลูกน้องร่างบางก็รีบตรงเข้าไปหาลูกน้อยโดยไม่รอให้เจ้าของบ้านอนุญาต “อ่ะๆนี่จ่ะ” มีอาร์เองก็รีบส่งต่อหลานน้อยให้กลับสู่อ้อมกอดแม่ “ฟ เฟริน..” ปากหนาเอ่ยออกมาเบาๆเมื่อเห็นธารน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวล ไหนดวงตาที่บวมเป่งช่วยยืนยันว่าเจ้าหล่อนผ่านการร้องไห้หนักมากแค่ไหน “ฮรึก.. ฮือออ ลูกแม่ แม่อยู่นี่แล้ว ฮืออ ริเอลแม่ขอโทษ แม่ขอโทษจริงๆ ไม่จะไม่ทิ้งลูกไปไหนอีกแล้ว ฮืออ” ร่างเล็กร่ำไห้ปานจะขาดใจพลางกอดลูกน้อยแนบอกแน่นจนคนที่เป็นหัวอกแม่ด้วยกันอย่างมีอาร์อดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอไปด้วย “...” ห้องทั้งห้องตกอยู่ในเงียบสงัดเหลือไว้เพียงเสียงสะอึกสะอื้นของผู้เป็นแม่ “ขอบ ฮึก ขอบคุณนะคะ ที่ช่วย อึก.. ช่วยดูแลริเอลแทนฉัน ต่อไปฉันจะไม่รบกวนแล้วค่ะ” ว่าจบร่างบางอุ้มลูกน้อยขึ้นอย่างทุลักทุเลเตรียมจะเดินออกห้องไปแต่ก็ต้องถูกมือหนาที่รั้งต้นแขนเธอไว้ “เธอหมายความว่ายังไง” “เข้าใจยากตรงไหน? ก็หมายถึงฉันจะเลี้ยงลูกเองน่ะสิ” เสียงเล็กที่สั่นคลอนหันกลับมาตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ไม่ได้! /ไม่ได้!!” เสียงของผู้ใหญ่ทั้งสองที่เฝ้าดูเหตุการณ์ดังขึ้นพร้อมกันด้วยความพร้อมใจ “....” ส่วนตัวต้นเรื่องทั้งสองรีบหันไปตามเสียงค้านทันทีอย่างไม่มีคำโต้เถียง “หนูจะเอาหลานฉันไปไหนล่ะเฟริน” มีอาร์เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าอย่างใจเย็น “เธอจะเอาหลานฉันไปไหนไม่ได้ นั่นก็เลือดเนื้อเชื้อไขของฉันเหมือนกัน” เสียงเย็นยะเยือกกล่าวอย่างเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความนัยจนคนฟังทั้งสองต้องขนลุกไปตามๆกัน “คุณลุงกับคุณป้ารู้...แล้วหรอคะ” เสียงเล็กเอ่ยถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ “ใช่จ่ะ เรารู้แล้ว รู้หมดแล้ว พี่ชายหนูบอกป้าแล้ว” “...พี่ฟาร์ม” ผู้เป็นน้องหันกลับมามองพี่ชายที่ยืนยิ้มแหยๆอย่างสำนึกผิดอยู่ด้านหลัง “เพราะฉะนั้นพวกแกต้องแต่งงานกัน” คำพูดเรียบๆแต่กลับทรงพลังราวกับต้องมีผลบังคับใช้โดยทันทีที่ถูกประกาศออกมา “ป๊า!!! = = แม่!!!!!! / คุณลุง!!  คุณป้า!! = =” ผู้เป็นลูกชายรีบออกรีแอคชั่นทันทีเมื่อบิดาออกคำสั่งส่วนร่างเล็กเองก็ไม่ต่าง “อะไรล่ะเจ้าลูกบ้า! ก็เพราะตัวแกเองไหมวะ!” คุณซันเองก็อดไม่ได้ที่จะเดินมาตบหัวลูกตัวดีไปป๊าบใหญ่ !! ป๊าบบ! “โอ๊ยย! ป๊า! ผมเจ็บ!” มือหนารีบลูบหัวตัวเองป้อยๆพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปหาแม่แต่ดูเหมือนว่าจะถูกเมินเสียอย่างนั้น “สมควร!” บิดาเอ่ยอย่างไร้เยื่อใย “แต่ผมยังเรียนไม่จบเลยนะ! รินด้วย” ว่าแล้วพลางชี้นิ้วไปที่คุณแม่ลูกอ่อนที่ยืนอุ้มลูกอยู่เพื่อหาตัวช่วย “พวกแกต้องแต่ง!” คำสั่งประกาศิตถูกย้ำอีกครั้งโดยเจ้าของคำสั่งเอง “ป๊า!!!!” เสียงโอดครวญจากลูกชายดูเหมือนจะไม่เป็นผล “ต้องแต่ง! เร็วที่สุด!” “=[]=….” หมดคำจะประท้วงเมื่อเห็นว่ายิ่งเขาประท้วงผู้เป็นพ่อยิ่งดูเหมือนจะทำตรงข้ามไปเสียหมด “....” เฟรินเองได้แต่ยืนมองคนข้างๆอย่างเข้าใจ..เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงไม่อยากเข้าวิวาครั้งนี้ จนร่างเล็กเองต้องถอนหายใจออกมายาวๆก่อนจะอุ้มลูกน้อยกลับหลังหันออกจากห้องไปแต่ก็ดันถูกมือแกร่งรั้งต้นแขนไว้อีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เธอก็ช่วยฉันค้านด้วยอีกเสียงสิริน” “นั่นมันปัญหาของนาย ฉันเองก็จัดการปัญหาของฉันด้วยตัวฉันเองแล้ว” ร่างเล็กตอบกลับไปซึ่งๆหน้าแต่นั่นก็คงทำให้อีกคนรู้สึกเคืองขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เธอหมายความว่ายังไง!?” เสียงทุ้มเริ่มดุดันพร้อมกับแรงที่เขย่าต้นแขนเล็ก “รัน! ปล่อยรินไปเดี๋ยวนี้นะ” คราวนี้เป็นทีของผู้เป็นแม่บ้างที่ออกคำสั่ง หากเมื่อใดที่ผู้เป็นมารดาได้ออกปากลูกชายอย่างเขาจะรีบทำตามอย่างไม่มีข้อแม้เพราะน้อยครั้งนักที่ผู้เป็นแม่จะออกคำสั่งกับลูกๆ “....ครับ” มือหนาผละออกจากต้นแขนเล็กนั่นก่อนจะยืนมองหน้าเจ้าหล่อนอย่างต้องการพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังนั้นที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ . . . . . . . ‘ฉันควรจะทำยังไงดีหละแสนดี..’ . . . . . . . ‘ฉันควรจะรับผิดชอบเธอยังไงดีหละเฟริน..’ . . . . . . . . ‘พ่อควรจะทำยังไงกับหนูดีล่ะริเอล..’ . . . . . “เฮ้ย รัน ตื่นเว้ยกลับบ้านกลับช่องได้ละ งานเลี้ยงเลิกละเว้ย ไอ้เจ้าของวันเกิดมันหนีกลับไปละเนี่ย” หนึ่งในเพื่อนรักเข้ามาเขย่าแขนร่างสูงที่นอนฟุบไปกับโต๊ะเบาๆหวังเรียกให้ได้สติ “อื้อออออออ ยังเว้ย กูยังไม่อยากกลับ กลับบ้านทีไรพ่อแม่กูก็ถามแต่เรื่องแต่งงาน ถามหาแต่หลาน ไม่เห็นจะเห็นใจกูม้างง เล้ยยย” เสียงคนเมาอ้อแอ้เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องจนเพื่อนรักต้องส่ายหัว “เฮ้ย มึงฟังกูนะเว้ยรัน มันเป็นความผิดของพวกมึงเอง รินเองมันก็รับผิดชอบของมันไปแล้ว แล้วมึงเองเป็นผู้ชายแท้ๆจะไม่แสดงความรับผิดชอบหน่อยหรอวะ สิ่งที่มึงต้องรับผิดชอบมันไม่ได้ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่รินต้องรับเลยนะเว้ย” ตั้งแต่รู้เรื่องเพื่อนรักคนนี้ก็ได้แต่ปลอบใจมันเท่านั้นและพยายามกรอกหูให้มันทำสิ่งที่ถูกที่ควร “ฮัน ถ้ามึงเป็นกูนะเว้ยมึงจะทำยังไงวะ คนรักมึงก็มี แถมกำลังไปได้สวยด้วยเว้ย แถมมึงยังเรียนไม่จบอีกนะเว้ยแถมต้องมาเป็นพ่อคนแล้วเนี๊ยย” แขนยาวคว้าเอาคอเพื่อนรักมากอดคล้องอย่างรักใคร่ “กูก็จะทำสิ่งที่ถูก” “โว๊ะ! มึงเนี๊ย ไม่เข้าใจกูวว เล้ย ไม่คุยละ!” ร่างสูงฟุบลงกับโต๊ะก่อนจะหลับไปเสียดื้อๆทิ้งตัวเองให้เป็นภาระของเพื่อนรักที่ต้องเอาไปส่งให้ถึงบ้าน “... นายนี่มัน.. เฮ้อ” ได้เพียงแต่ส่ายหัวให้กับการกระทำเด็กๆของเพื่อนที่ไม่รู้จักโตเสียทีแต่จะให้ทำอย่างไรเพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนอยู่วันยันค่ำ . . . . . . ‘ฉันหวังว่านายจะคิดได้ในสักวันนะรัน’ . . . . . . . “อือ อ อออ...” ร่างบางขยับบิดตัวเบาๆเมื่อรู้สึกถึงแรงขยับดุ๊กดิ๊กบนเตียง “แอ๊~~~ ..” สาวน้อยยิ้มแก้มปริต้อนรับการตื่นนอนของคุณแม่ “อรุณสวัสดิ์นางฟ้าของแม่ ฟอดด” ผู้เป็นแม่อดไม่ได้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของสาวน้อยก่อนจะหอมแก้มไปฟอดใหญ่ “แอ้ แอ้ ~~~ . แอ๊ ” ทารกน้อยส่งเสียงอ้อแอ้ราวกับอยากจะสื่อสารกับผู้เป็นแม่อีกทั้งสองมือเล็กๆเอื้อมขึ้นมาราวกับจะไขว่ขว้าบุคคลตรงหน้าเข้ามาหา “จ้าๆคนเก่งของแม่ อะไรคะ”หน้าสวยค่อยยื่นเข้าไปใกล้ๆลูกน้อยให้มือเล็กได้สัมผัสใบหน้าของตน “คิก คิกๆๆ แอ๊~~ ” ทารกน้อยหัวเราะชอบใจยิ้มตาหยี “คิคิ ชอบใจใหญ่เลยยัยหนู อื้มมม” ว่าแล้วก็อดฟัดแก้มยุ้ยๆของลูกไม่ได้ ติ๊ด ติ๊ดๆ.. “หืม” เสียงมือถือเตือนข้อความเข้าเรียกให้อีกคนต้องละสายตาจากลูกน้อยไปมอง ‘ออกมาเจอกันหน่อยสิ ร้านเดิม 10 : 30 น. : RunAway’ “อะไรของนายอีกเนี่ย..” ปากเล็กเม้มเข้าหากันอย่างครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจอุ้มลูกน้อยไปทำธุระส่วนตัว ผ่านไปเกือบครึ่งชม.ร่างเล็กอุ้มทารกน้อยใส่รถเข็นออกบ้านไปโดยทิ้งไว้เพียงกระดาษโน๊ตแผ่นน้อยไว้ให้พี่ชายที่ยังคงนอนหลับอยู่ ‘ออกไปข้างนอก เดี๋ยวกลับมา’ ร่างบางพร้อมลูกน้อยมุ่งหน้าตรงไปยังร้านแห่งเดิมร้านประจำของพวกเขา ร้านที่เริ่มต้นและจบเรื่องราวต่างๆแต่นี่อาจจะเป็นภาคต่อของเรื่องที่กำลงจะเริ่มหรือไม่นั้นพวกเขาก็มิอาจรู้ได้ “สวัสดี คือวันนั้นที่บ้านฉัน.. ฉันขอโทษ” ทันทีที่สองแม่ลูกนั่งลงฝั่งตรงข้าม คนที่มาถึงก่อนก็รีบเอ่ยขอโทษอย่างรู้หน้าที่ “ไม่เป็นไร แล้ววันนี้นายมีอะไรถึงเรียกฉันมา” “คือว่า ฉันอยากจะคุยเรื่อง..เอ่อ” พูดไปทั้งๆที่สายตายังคงมองไปยังทารกที่นอนตาแป๋วอยู่ในรถเข็นเด็กข้างๆผู้เป็นแม่ “เรื่องอะไรก็พูดมาฉันไม่ได้มีเวลาทั้งวันมานั่งฟังนายนะ” “ป๊ากับแม่ฉันคงไม่ยอมแน่ๆเรื่องหลาน” “ไม่! ถ้านายจะมาคุยเรื่องลูกก็กลับไปเถอะ ลูกเป็นของฉันคนเดียว!” “เดี๋ยวสิ เดี๋ยวๆ ฟังฉันก่อนดิริน” “ไม่ไง! ไม่ว่าจะยังไงถ้าจะมาเอาลูกไปจากฉัน ฉันไม่ยอมแน่! จบแค่นี้นะ” ร่างบางลุกตึงตังจากที่ทันทีที่พูดจบประโยค “ฉันไม่ได้จะเอาลูกไปจากเธอ! เรามาแต่งงานกันเถอะ!”   “...น นาย..ว่าอะไรนะ ? นายเป็นบ้าอะไรของนาย” ร่างเล็กที่ลุกขึ้นเมื่อครู่ยืนนิ่งพร้อมกับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อยืนยันคำพูดเมื่อกี๊ของเขา “ฉันไม่ได้เป็นบ้า ฉันพูดจริงๆ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างจริงจังพร้อมสบตาหญิงสาวตรงหน้าเขาเช่นกันเพื่อยืนยันคำพูดลูกผู้ชาย “นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นายก็มีแฟนอยู่แล้วนายจะมาแต่งงานกับฉันทำไม!?” “แต่งงานกันเถอะ!” . . . . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม