บทนำ
บทนำ
13 ปีก่อน
“เจ้าข้าเอ๊ย! มาดูคนหน้าด้านกอดจูบกันเร็ว เจ้าข้าเอ๊ย มากันเร็วๆ” สิ้นเสียงลูกสาวเจ้าของไร่ ‘ฉัตรธราลักษณ์’ สองหนุ่มสาวที่กำลังโด่งดังสุดๆ บนหน้าจอทีวี ผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ๆ ก็โดนขัดจังหวะ ในขณะที่เขากำลังจูบอยู่กับนางแบบสาววัยยี่สิบสอง
ตาคมดุภายใต้แว่นแบรนด์ดังเพ่งมองเจ้าของเสียงแหลมเล็กอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเขาอุตส่าห์พานางแบบสาวออกมาให้พ้นหูพ้นตาคนแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีมารตัวกระจ้อยร่อยโผล่มาจนได้
“เจ้าข้าเอ๊ย!”
“นังเด็กบ้า! แกจะแหกปากร้องทำไม” นางแบบสาววัยยี่สิบสองตวาดใส่อย่างอารมณ์เสีย เพราะเธอกำลังจะไปถึงไหนๆ กับนายแบบหนุ่มอยู่แล้ว แต่นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมดันมายืนแหกปากขัดจังหวะ
“ก็ที่นี่เป็นไร่ของพ่อหยา แล้วทำไมหยาจะส่งเสียงไม่ได้” ลูกสาวเจ้าของไร่โต้กลับทันควัน
“นังเด็กนรก แกกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ”
“ก็จะไม่ให้ต่อปากต่อคำได้ไงล่ะ ในเมื่อคุณสองคนมาทำอะไรกันในไร่ของพ่อหยา แล้วถ้าส้มในไร่เน่าตาย เพราะฉากจูจุ๊บของคุณ แล้วใครจะรับผิดชอบ” เด็กหญิงตัวจ้อยโต้กลับไม่เกรงกลัว ในเมื่อที่นี่คือถิ่นของเธอ เรียวปากบางเป็นกระจับเบ้ออก พลางมองหน้าสวยๆ ของนางแบบสาวอย่างเอาเรื่อง
“กรี๊ด!! นังเด็กเปรต ฉันจะจูบกับใครแล้วมันหนักหัวแกหรือไง นังเด็กบ้า” นางแบบสาวแผดเสียงใส่ลั่นไร่ส้ม
เด็กหญิงตัวจ้อยก็ยกสองมือปิดหูแล้วตะโกนกลับ “ชิ! ผู้ใหญ่ปากไม่ดี”
“นัง...นังเด็กบ้า กล้าดียังไงถึงทำเสียงแบบนี้ใส่ฉัน พี่รามขา ดูนังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่สิ มันแก่แดดจริงๆ มาแอบดูผู้ใหญ่ พี่รามต้องจัดการมันนะคะ จัดการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เมื่อเถียงสู้เด็กไม่ได้นางแบบสาวก็หันไปออเซาะนายแบบหนุ่ม ที่อยากจะหวดก้นเด็กตัวจ้อยอยู่เหมือนกัน
“หนูน้อย หนูไม่ควร...” คนที่ยืนวางมาดนิ่งอย่างใจเย็นพูดไม่ทันจบ เสียงของเด็กหญิงตัวกระจ้อยก็แทรกขึ้น
“หยาไม่ใช่หนูน้อย” เด็กสาวตอบเสียงสะบัด โดยไม่หันมองคนที่เรียกขานตัวเธอว่าหนูน้อย นั่นก็เพราะอีกไม่กี่ปีเธอก็จะได้ทำบัตรประชาชนแล้ว
“นังเด็กบ้า! เวลาผู้ใหญ่พูดห้ามสอด!” เสียงแหลมของนางแบบสาวตวาดใส่
“แล้วถ้าเด็กพูดอยู่ ผู้ใหญ่ควรพูดแทรกหรือเปล่า แล้วจะบอกให้รู้ไว้ว่าอีกไม่กี่ปีหยาก็จะใช้คำนำหน้าว่านางสาวแล้วด้วย” เด็กหญิงตัวกระจ้อยเถียงกลับอย่างเด็กแก่แดด แต่นั่นก็เรียกรอยยิ้มของคนที่ยืนวางมาดนิ่งได้ดีทีเดียว
‘นี่ถ้าแม่หนูน้อยนี่เกิดเร็วกว่าอีกสักหน่อย เขาคงได้ลากมากระหน่ำจูบให้หายปากดีไปแล้ว แต่ทำไมแม่เด็กน้อยคนนี้ถึงได้ปากกล้าเหลือเกิน แล้วยังเร่งวันเร่งคืนจะได้เป็นนางสาวอีกด้วย’ คนมาดนิ่งทำหน้าครุ่นคิดแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ อีกทั้งก็สงสัยว่าเขาจะไปสนใจแม่เด็กน้อยคนนี้ทำไม
“นังเด็กบ้า! เด็กอย่างแกมันน่าโดนตบสั่งสอนให้เข็ดหลาบซะบ้าง พ่อแม่ไม่เคยอบรมมาหรือไง ถึงได้ยืนเถียงผู้ใหญ่ฉอดๆ แถมยังทำตัวแก่แดดอีก หรือที่อยากโตเร็วๆ คงอยากรีบมีผัวสินะ” นางแบบสาวต่อว่าด้วยเสียงเย้ยหยัน ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจ
ส่วนคนถูกต่อว่าก็ทำหน้าบูดบึ้งใส่ เพราะที่เธออยากจะโตเร็วๆ ไม่ใช่จะได้ไปหาสามีอย่างที่นางแบบสาวกล่าวหา แต่เป็นเพราะเธอจะได้ช่วยงานมารดาให้มากกว่านี้ต่างหาก เพราะตอนนี้มารดาต้องรับผิดชอบดูแลไร่ตามลำพัง นับตั้งแต่บิดาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ
“ว้าย! เงียบไปเลย สงสัยพ่อแม่ไม่อยู่แล้วล่ะสิ ถึงไม่มีคนสั่งสอน”
“คนนิสัยไม่ดี! อย่ามาพูดถึงพ่อแม่ของหยานะ” เด็กหญิงแย้งเสียงดัง เพราะไม่ชอบให้ใครว่าไปถึงบิดามารดา ที่ท่านพร่ำสอนให้เธอเป็นคนดีอยู่แล้ว
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะนังเด็กแก่แดด”
“เอรี่ ไม่เอาน่า” นายแบบหนุ่มปรามนางแบบสาว
“พี่รามก็ดูนังเด็กนั่นสิ เถียงคำไม่ตกฟากเลย”
“เดี๋ยวพี่จัดการให้ เอรี่กลับไปหาทีมงานก่อน อีกเดี๋ยวพี่จะตามไป นะคะคนดี” นายแบบหนุ่มพูดจบก็ยิ้มหว่านเสน่ห์ใส่นางแบบสาว หวังให้อีกฝ่ายกลับไปรวมกลุ่มกับทีมงาน
“พี่รามจัดการมันให้หนักๆ เลยนะคะ แต่ทางที่ดีเอรี่ว่าพี่รามต้องไปพูดกับแม่ของนังเด็กนี่ด้วยว่าหัดสอนมารยาทลูกตัวเองให้ดีกว่านี้หน่อย” นางแบบสาวตวัดหางตาดุดันไปยังเด็กหญิง ก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับไปหาทีมงาน ด้านนายแบบหนุ่มก็รอจนนางแบบสาวเดินลับสายตาไปแล้วจึงได้หันกลับมามองเด็กหญิงตัวจ้อย ด้านเด็กน้อยที่โดนผู้ใหญ่มองอย่างตำหนิก็ก้มหน้ามองที่รองเท้าคู่ใหญ่ตาไม่กะพริบ
“เราต้องคุยกันหน่อยแล้วนะหนูน้อย” นายแบบหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เด็กหญิง
“อย่าเข้ามานะ แล้วก็ตามผู้หญิงสวยๆ คนนั้นไปเลย รีบๆ ไปด้วยนะ อย่ามายืนเกะกะในไร่ของพ่อหยา” เสียงของเด็กหญิงเอาแต่ใจและดื้อรั้นสร้างความขบขันให้กับราม
“พูดจาไม่เพราะเลย แล้วไม่มีใครเขาสั่งสอนหรือไง เวลาที่พูดกับผู้ใหญ่ให้คะขาด้วย พูดห้วนๆ แบบนี้มันไม่น่ารักเลย รู้ตัวบ้างหรือเปล่า” เขาขยับตามเด็กหญิงไปเรื่อยๆ จนเด็กหญิงสะดุดขาตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า
“โอ๊ย!” เด็กหญิงร้องหน้าตาเหยเก รามเข้าไปช่วยพยุงแต่เด็กน้อยขยับหนี
“อย่าดื้อสิเด็กน้อย มานี่ ฉันจะช่วยให้ลุกขึ้น” คนใจดีพยุงจนเด็กน้อยลุกขึ้นยืนเองได้ เขาจึงขยับถอยห่างออกมาจ้องหน้าด้วยสายตำหนิ
“หยาบอกแล้วไงว่าหยาไม่ใช่เด็ก”
“เด็ก” คนอยากรังแกเด็ก เพราะนึกถูกชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ แต่ก็ทำให้เขาอยากต่อล้อต่อเถียงกับเด็กน้อยคนนี้ซะแล้ว
“งั้นถามหน่อยว่าเราจะรีบโตเป็นสาวไปทำไม”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“ดื้อจริงๆ เลยนะเรา” รามสบถอย่างหัวเสียที่ปราบเด็กคนนี้ไม่ได้เสียที
“ออกไปจากไร่หยาเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นหยาจะร้องให้คนช่วย”
“เด็กดื้อๆ แบบหนูใครจะเข้ามาช่วย พี่ว่าถึงจะมีคนมา แต่คงจะมาสั่งสอนเรามากกว่า รู้บ้างไหมว่าตัวเองดื้อรั้นแค่ไหน เถียงผู้ใหญ่ฉอดๆ แล้วทางโรงเรียนไม่ได้สอนมารยาทบ้างหรือไง” สั่งสอนไปแล้วคนตัวโตกว่าก็ขยับเข้ามาใกล้ แล้วโน้มหน้าลงต่ำใช้ปลายจมูกแตะบนแก้มของเด็กหญิง
“เอาไว้ให้โตเป็นสาวก่อนนะเด็กน้อย แล้วฉันจะมาสอนให้รู้ว่าสิ่งที่หนูเห็นนั้นให้ความรู้สึกยังไง แต่วันนี้ขอตัวก่อนนะจ้ะ” นายแบบหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินผิวปากออกไปอย่างคนอารมณ์ดี ปล่อยให้เด็กน้อยยืนอึ้งอยู่ที่เดิม สักพักเจ้าตัวก็ยกมือถูแก้มตัวเองแรงๆ ปากก็พึมพำต่อว่านายแบบหนุ่ม ที่ตนหมายตาเอาไว้แล้วว่าคือ ศัตรูหมายเลขหนึ่ง แล้วหากได้เจอกันอีกครั้ง ตนจะเอาไม้หน้าสามฟาดให้สลบ!