ตอนที่ 15
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
นพฤทธิ์คอยตามเฝ้าดูอินทิราและปลัดวโรดมอยู่บ่อย ๆ เวลาที่เขาไปคอยคุณยายทำงานที่บ้านปลัด บางครั้งเขาก็ไปเร็วกว่าปกติ ปลัดวโรดมได้ชวนเขากับคุณยายทานข้าวที่บ้านอยู่ครั้งหนึ่ง แต่เขาไม่อาจทนเห็นภาพบาดตาบาดใจได้ ที่เห็นหมอติณภพสวิทกับอินทิรา นพฤทธิ์พยายามตัดใจและไม่กล้าเข้าไปนั่งคอยคุณยายอยู่ในบ้านของปลัดอีก
วันนี้เขาจอดรถที่หน้าบ้านของปลัดเพื่อคอยคุณยาย แต่ก็ยังถือโอกาสนี้คอยเฝ้าดูความปลอดภัยของอินทิราอยู่ห่าง ๆ ตามคำบอกของพรายนุ่น ก่อนจะเห็นอินทิรานั่งรถของหมอติณภพออกไปด้วยกัน หลังจากนั้นคุณยายก็ออกมาหาเขาที่รถ และพากันกลับบ้าน คุณยายก็ชื่นชมที่พักหลัง ๆ มานี้หลานชายวางตัวได้ถูกต้องเหมาะสม
วันต่อมา
อินทิราออกไปทานข้าวกับหมอติณภพ โดยมีแก๊งลูกน้องของนายเมฆที่แอบซุ่มรออยู่และพวกมันก็ขับรถตามไป ก่อนจะเห็นว่าคุณหมอพาอินทามาทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากทั้งคู่พากันลงจากรถและควงกันเข้าไปในร้านอาหารได้สักพัก พวกมันจึงแอบเอาหินก้อนเล็ก ๆ บริเวณนั้นใส่เข้าไปที่จุกยางล้อรถของคุณหมอ ก่อนจะปิดฝาจุกยางให้สนิทเอาไว้ตามเดิม และคอยเฝ้าสังเกตการณ์จนคุณหมอพาอินทิราขับรถออกไป พวกมันจึงขับรถตามมาอย่างห่าง ๆ
ระหว่างนั้นรถของคุณหมอก็เสียการควบคุม เนื่องจากลมยางล้อหน้าที่ลดลงไปจนรู้สึกได้
“คุณหมอคะ รถเป็นอะไร!!!”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ มันส่ายแปลก ๆ เดี๋ยวผมจอดดูก่อนนะครับ” คุณหมอลงจากรถไปดูก็ถึงกับตกใจเพราะเห็นยางรถของตนเองเกือบจะแบนสนิท
พวกของนายเมฆที่ขับรถตามมาก็รีบจอด และแกล้งเป็นพลเมืองดีลงมาถามคุณหมอ
“รถเป็นอะไรเหรอครับ..คุณหมอ” มันแกล้งรู้จักคุณหมอทันที เพื่อสร้างความไว้วางใจ
“น่าจะยางแบนครับ แต่ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา” คุณหมอที่นั่งตรวจดูลมยางรีบลุกขึ้นมาแล้วบอก
“ให้พวกผมช่วยเปลี่ยนยางให้มั้ยครับ พอดีพวกผมมากันหลายคน”
“อืม..”
“ไม่ต้องเกรงใจครับคุณหมอ พวกเรายินดีช่วย”
ครับ งั้นก็ได้ เดี๋ยวผมเอาอุปกรณ์ปลดยางอะไหล่ให้ครับ”
อันที่จริงคุณหมอก็ไม่ไว้ใจชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกมากนักจึงยอมรับความช่วยเหลือของพวกมัน พอเขาเดินไปเอาอุปกรณ์เปลี่ยนยางจากท้ายรถ พวกมันก็รีบช่วยคุณหมอเปลี่ยนยางรถทันที ติณภพก็เลยเริ่มไว้ใจและคิดว่าพวกนี้คงเป็นพลเมืองดีจริง ๆ
พวกมันช่วยกันเปลี่ยนยางเสร็จ ในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา และยังไม่ทันที่คุณหมอจะได้เอ่ยขอบคุณ ชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นมันก็รีบเอาปืนจี้มาที่เอวของคุณหมอเสียแล้ว
“เฮ่ย!!..นี่มันอะไรกันน่ะ”
“ไม่ต้องถาม..มึงรีบเดินไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากให้แฟนมึงตาย” รถของพวกมันจอดต่อท้ายรถคุณหมอ ก่อนจะรีบผลักร่างคุณหมอให้รีบเดินไป
คนหนึ่งคนตามเข้าไปนั่งประกบคุณหมอและจี้ตัวหมอเอาไว้ ก่อนที่เพื่อนของมันจะรีบตามไป ระหว่างทางคุณหมอก็ขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด
อินทิราที่มัวแต่คุยโทรศัพท์บอกผู้เป็นบิดาว่าเธอจะกลับถึงบ้านช้าหน่อย พอหันมาอีกทีพวกมันที่เหลืออยู่อีกสองคน ก็ถึงตัวเธอเสียแล้ว
คนที่ขับรถพาหมอติณภพออกไป รีบโทรตามให้ลูกพี่ที่กำลังเริงรักอยู่กับลันนา ให้รีบมาที่รถของคุณหมอทันที เพราะกลัวว่าอีกสองคนที่คอยอยู่จะห้ามใจไม่ไหวเสียก่อน
“เฮ่ย!..นี่จะทำอะไรฉันน่ะ แล้วคุณหมอไปไหน พวกแกเอาคุณหมอไปไหน” อินทิราโวยวายทันที แต่เมื่อพวกมันจ่อปืนมาที่ใบหน้าก็เงียบทันที
“คุณหมอไปไหน นี่แกจะทำอะไรคุณหมอ” เสียงเธอเบาลง
“คุณหมอก็ไปที่ชอบที่ชอบไง ส่วนคุณน่ะ อยากไปที่ชอบกับพวกผมบ้างมั้ย..ฮ่า ๆ ๆ” พูดจบพวกมันก็โลมเลียเรือนร่างของอินทิราด้วยสายตาที่หื่นกระหาย
“พวกแกจับคุณหมอไปทำไม” อินทิราพยายามทำใจดีสู้เสือ
“เดี๋ยวก็รู้อย่าพูดมาก..รำคาญ” สิ้นเสียงมันมองตรงขาเรียวงามของอินทิรา เต้านมอวบไม่พ้นสายตาของพวกมันไปได้ มือหนาเอื้อมมาขย้ำก้นอวบ ๆ
“อย่านะ!!!”
“จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงตัว”
“เฮ่ย!! ไอ้จ๊อต มึงอย่าเพิ่งทำอะไรเธอสิวะ พี่เมฆสั่งเอาไว้นะโว้ย”
“เอ่อกูรู้แล้ว แต่อีนี่มันน่าเอาฉิบหายวะ”
“เอาน่า เดี๋ยวพี่เมฆก็แบ่งให้พวกเราเองแหละ” กระโปรงของเธอก็มันรัดรูปร่างมากเสียด้วย อินทิรารีบเอามือปิดไว้ทันทีที่เห็นสายตาของพวกมัน
ไม่นานนักลูกพี่ของพวกมันก็มาถึง
“พี่เมฆ นึกว่าพี่จะไม่มาซะแล้ว”
“มาสิวะ แต่ข้ามีภารกิจ พวกเอ็งรีบตามไปดูไอ้สองคนนั้นสิ ว่าฆ่าคุณหมอเรียบร้อยหรือยัง แล้วก็อย่าลืมจัดการเผานั่งยางมันซะ”
“ครับพี่” พวกมันขับรถมอเตอร์ไชด์ของนายเมฆออกไปทันที
ทางด้านนพฤทธิ์ตอนนี้เขาได้ยินเสียงของผีพรายกระซิบที่ข้างหู
“เข้ม รีบไปช่วยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้ เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“ที่ไหน!!!” นพฤทธิ์ที่เพิ่งล้างรถอยู่ที่บ้านก็รีบขับรถออกมาทันที โดยยังไม่รู้ว่าพรายนุ่นจะให้ไปช่วยลูกสาวของเธอที่ไหน
“อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอหรอก ขับรถไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวฉันจะบอกทางให้” สิ้นเสียงวิญญาณของพรายนุ่นก็ปรากฏกายนั่งมาในรถของนพฤทธิ์
ทางด้านนายเมฆพอสั่งงานลูกน้องเสร็จ ก็ยิ้มมาที่รถทันทีเมื่อเห็นเหยื่อสาว ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่มันไม่ชอบวิธีการของลูกน้องที่ทำอยู่
“พี่มาช่วยนะ เดี๋ยวพี่แก้มัดให้” นายเมฆแก้มัดให้อินทิราเสร็จก็ป้ายน้ำมันพรายไปที่แขนของอินทิราเธอทันที
เพียงชั่วเวลาสั่น ๆ เธอก็แทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เธอรู้สึกขนลุกวูบวาบไปทั่วร่าง หัวใจเธอถึงกับเต้นแรงขึ้น เมื่อนายเมฆอยู่ใกล้ ๆ จนรู้สึกเลยว่าน้ำหล่อลื่นมาหลั่งออกมาไม่หยุด พอเธอถูกโอบกอดร่างกายของเธอก็เหมือนคนที่กำลังมีอารมณ์ทางเพศสุดๆ
“พี่ชื่อเมฆนะ น้องอิมเป็นน้องสาวของพี่นา ใช่มั้ย”
“ค่ะ..พี่เมฆอิมเป็นน้องสาวพี่นา”
“พี่มาช่วยน้องอิม ไปกับพี่นะ”
“ค่ะ อิมจะไปกับพี่”
ทางด้านลูกน้องของนายเมฆที่ตามมาสมทบกับพวกของมัน เมื่อมาถึงโกดังร้าง ทั้งสองรีบจอดรถมอเตอร์ไชด์ แล้วบอกกับสองคนที่มาก่อนหน้านี้
“เฮ่ย!..พวกมึงมันตายหรือยัง”
“ตายแล้วครับพี่”
“เอาศพมันไปเผานั่งยาง พี่เมฆสั่งมา”
“ครับพี่ เอ่อแล้วพวกผมจะได้คุณอิมมั้ย” ลูกน้องคนหนึ่งแอบกระซิบถาม
“ผู้หญิงคนนั้นพี่เมฆบอกว่าแกจะเอาไปเป็นเมีย ส่วนพวกเราพี่เมฆยกคุณลันลาให้โว้ย รีบทำลายหลักฐานแล้วไปที่บ้านปลัด ถ้าคุณลันนาจัดการปลัดเรียบร้อยแล้ว พี่เมฆบอกให้เราจัดการคุณลันนาได้เลย”
“จริงเหรอเนี่ย!!.. พี่เมฆใจดีจังวะ”
“ไม่ได้คุณอินทิราได้คุณลันนาก็ยังดีว่า ขาวอวบไม่แพ้กันไปเท่าไหร่หรอก” ลูกน้องพูดกันด้วยความดีใจยกใหญ่
“อย่ามัวคุยกัน รีบทำงานให้เสร็จเถอะพวกมึง จะได้ไปเอาคุณลันนาสักที กูเสี้ยนจนจะทนไม่ไหวแล้วว่ะ ฮื้ย!!!” หนึ่งในพวกมันที่มาทีหลังพูดขึ้น
ทางด้านนพฤทธิ์ที่ขับรถตามมาก็ไม่เจอกับรถของคุณหมอตามที่พรายนุ่นบอก ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบจากเธออีกครั้ง นั่งรถอยู่ดี ๆ เธอก็หายไปดื้อ ๆ
“เร็วเข้าอย่ามัวชักช้า ไอ้เมฆมันป้ายน้ำมันพรายลูกสาวฉันแล้ว”
“คุณรีบไปจัดการมันก่อนสิ รถผมมันไม่แรงพอขนาดตามรถคุณหมอทันหรอก”
“ลองจะไปช่วยแล้ว ไอ้เมฆมันมีของดี มันมีตะกรุด ฉันทำอะไรมันไม่ได้”
“แย่แล้วสิ งั้นผมต้องทำยังไงล่ะ เมื่อกี้ผมรีบไม่ได้เอามีดลงอาคมมาด้วย”
“เอาเถอะ...รีบตามไปช่วยอินทิราก่อน”
“แล้วตอนนี้มันขับไปไหนแล้ว”
“ไปที่บ้านของมัน”
“ผมไม่รู้จักบ้านนายเมฆอะไรนั่นหรอก”
“รีบขับไปเถอะน่า เดี๋ยวฉันบอกทางให้”