ตอนที่ 9
เชื่อกันว่าน้ำมันพรายที่ขลังและวิเศษที่สุด จะต้องเป็นน้ำมันพรายที่มาจากผีตายทั้งกลมที่ตายโหงเท่านั้น เพราะวิญญาณหญิงตายทั้งกลมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงกล้าเป็นพิเศษ และศพที่ตายจากการฆ่าตัวตายนั้นถือว่ามีฤทธิ์แรงมาก เพราะเป็นวิญญาณดุร้ายเต็มเปี่ยมด้วยอำนาจของโทสะ น้ำมันพรายที่ได้จากศพนี้ก็เช่นกัน มันจะมีพลังความขลังสูงมากเป็นพิเศษด้วยความเสน่หา
แต่การทำน้ำมันพรายเป็นเรื่องผิดศีลธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกระทำทารุณกรรมกับศพ เมื่อการทำน้ำมันพรายเป็นเรื่องไม่ดีถึงขนาดนี้ จึงเป็นที่แน่นอนว่าอาจารย์ยอดและลูกศิษย์ก็จะต้องแอบน้ำพิธีนี้กันอย่างลับ ๆ โดยไม่ให้มีใครล่วงรู้
ตีสอง
หลังจากอาจารย์ยอดมาถึงที่วัด ลูกศิษย์ทั้งสองก็ได้ช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำพิธีปลุกวิญญาณเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะขืนมัวทำชักช้าหรือทำให้เอิกเกริก ก็อาจจะถูกผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาพบเห็นและสงสัยเอาได้ง่ายๆ
อุปกรณ์ที่ลูกศิษย์ทั้งสองได้จัดเตรียมเอาไว้ก็มีหลายอย่าง โดยเริ่มจากสายสิญจน์ มีด ไม้ตะพด ผ้าขาวแปดผืน น้ำมนต์ ข้าวสาร ขี้ผึ้ง แล้วก็เทียนไข ซึ่งของทั้งหมดนี้อาจารย์ยอดได้มีการปลุกเสกคาถาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ลูกศิษย์ทั้งสองจึงมีหน้าที่เตรียมมันเอาไว้ให้พร้อมสำหรับการทำพิธีเท่านั้น
“อาจารย์ครับ ทำไมเราไม่เอาศพขนไปทำพิธีที่ป่าช้าแบบครั้งที่แล้วล่ะครับ” ไอ้หาญศิษย์เอกเอ่ยถาม
“ไม่ต้องขนไปหรอก ไอ้หาญ เดี๋ยวชาวบ้านจะสงสัยเอา ครั้งก่อนข้าก็แก้ตัวแทบตาย” อาจารย์ยอดรีบบอกลูกศิษย์ขี้สงสัย
“หมายถึงเราจะทำพิธีกันตรงนี้เลยเหรอครับ” นพฤทธิ์เอ่ยถามบ้าง เพราะศึกษามาว่ามันจะต้องทำพิธีที่ทางสามแพร่งหรือในป่าช้าเท่านั้น
“ใช่ ตอนนี้พระจำวัดกันหมดแล้ว และตรงนี้ก็คงไม่มีใครมาหรอก ชาวบ้านก็กลับกันหมดแล้ว” แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามคนไม่สามารถจะแอบเอาศพเข้าไปทำพิธีลนน้ำมันพรายในป่าช้าหรือว่าทางสามแพร่งตามตำราได้
อาจารย์ยอด รีบสั่งให้ลูกศิษย์ทั้งสองเปิดฝาโลงออก และทำการแก้มัดตราสังออกอย่างเร่งด่วน ไอ้เข้มที่เห็นศพนอนขึ้นอืดและมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกจากศพก็ทำท่ากลัว บวกกับทำหน้าพะอืดพะอมทันที
“พวกเอ็งแกะเร็ว ๆ สิวะ เอามีดตัดออกเลย เดี๋ยวข้าจะทำพิธีแล้ว” อาจารย์ยอดสั่งศิษย์ทั้งสอง
เมื่อลูกศิษย์ทั้งสองช่วยเอามีดหมอตัดด้ายที่มัดตราสังออกจากศพตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ยอดก็รีบสั่งต่อไปอีก
“พวกเอ็งสองคน ช่วยกันพยุงศพขึ้นมานั่ง ไอ้เข้มเอ็งเป็นคนลนไฟ ส่วนไอ้หาญเอ็งเตรียมเอาขันนี้ไปรอง” ระหว่างนั้นไอ้เข้มก็มือไม้สั่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเรื่องนี้ยังใหม่มากสำหรับตนเอง และเรื่องราวมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อทั้งลูกศิษย์และอาจารย์ก็เจอวิญญาณของผู้ตายที่มีอิทธิฤทธิ์มาก และขัดขวางไม่ยอมให้ศิษย์ทั้งสองจับศพของเธอลุกขึ้นมานั่งได้ง่าย ๆ
อาจารย์ยอดจึงแก้เกมด้วยการท่องคาถาเสกข้าวสารแล้วซัดไปที่วิญญาณของคนตายทันที จากนั้นจึงบังคับให้วิญญาณผีสาวตนนั้นกลับมาที่ร่างของเธอและยอมให้ศิษย์ทั้งสองจับศพเธอลุกขึ้นนั่งแต่โดยดี
“ผมจะเริ่มลนตรงไหนก่อนดีครับ..อาจารย์” ไอ้เข้มเอ่ยถามเพราะเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้ตนเองลืมขั้นตอนทุกอย่างไปหมด
“เอ็งลนไปที่หน้าผากของศพก่อน” อาจารย์ยอดสั่ง
“เฮ่ย!!! เอ็งลนดี ๆ สิวะไอ้เข้ม” ไอ้หาญที่ถือขันรองอยู่รีบบอกทันที เพราะไอ้เข้มมือสั่นมาก
“ครับ ๆ พี่หาญ” ไอ้เข้มพยายามรวบรวมความกล้าอีกครั้ง ส่วนอาจารย์ยอดก็บริกรรมคาถาไปเรื่อย ๆ เพื่อคุมวิญญาณของผีสาวตนนั้น