ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ก่อนจะต่อยไปที่ผนังอย่างเจ็บใจ แดนตะวันรู้ทุกอย่าง แต่ไม่ยอมบอกเขา เห็นเขาเป็นไอ้โง่ไอ้งั่ง พูดจาสนับสนุนให้เขาจีบลูกพลับ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าหล่อนมีใจให้ตัวเองแท้ๆ
ใจลึกๆ เขาอิจฉาแดนตะวันที่เป็นเพียงแค่เด็กเก็บมาเลี้ยง แต่โชคดีมีพ่อแม่บุญธรรมร่ำรวย ชีวิตเพียบพร้อมไม่เหมือนเขาที่พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ชีวิตค่อนข้างปากกัดตีนถีบและค่อนข้างขัดสน
ลูกพลับชอบแดนตะวันเพราะอีกฝ่ายร่ำรวยแต่อีกฝ่ายยังมาตีหน้ายิ้มแย้ม บอกให้เขาสารภาพรักเธออีก ดีที่เขาตื่นเต้นไปห้องน้ำเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงหน้าแตกยับเยิน
ธันวาเดินคอตกออกมาด้านนอก เขาพยายามระงับอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างที่สุด เห็นสีหน้ายิ้มแย้มหัวเราะของเพื่อนทั้งคู่แล้วเจ็บจี๊ดในอกเหมือนน้ำกรดรินรดใจ ธันวาสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ลึกๆ พยายามทำใจว่าลูกพลับไม่ได้รักเขา เขาเองก็ควรจะถอย
“อ้าวธัน เป็นอะไรเห็นนั่งซึมๆ” แดนตะวันเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนซึมๆ ไป ไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนก่อน
“ไม่มีอะไร ทำรายงานกันเถอะ” ธันวาปฏิเสธ แม้จะอิจฉาแดนตะวัน แต่ลึกๆ แล้วเขายอมรับว่าแดนตะวันดีกับเขามาก
“คืนนี้น่าจะดึก ถ้าขี้เกียจขับรถกลับบ้านก็นอนบ้านเราแล้วกัน”
แดนตะวันเอ่ยชวนอย่างมีน้ำใจ สองหนุ่มสาวพยักหน้าพร้อมกัน ลูกพลับยิ้มกว้าง ในขณะที่ธันวาเงียบขรึม แล้วการทำรายงานในค่ำคืนนั้นก็ดึกจริงๆ แถมเมื่อนั่งทำรายงานไปแอลกอฮอล์ก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วยแบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เพื่อนทั้งสามเมาโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าคือ ลูกพลับไปนอนอยู่ในห้องของแดนตะวันในสภาพเปลือยเปล่า เสียงร้องไห้ของเธอเรียกให้ธันวาตกตะลึงไม่แพ้แดนตะวัน
ธันวาได้แต่ยืนอึ้ง แต่เขารู้สึกโกรธเมื่อได้ยินประโยคของเพื่อนรัก
“เราจำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“แดนจะไม่รับผิดชอบลูกพลับเหรอ ฮือๆๆ”
“แดนเป็นลูกผู้ชายพอ ถ้าทำอะไรลงไปต้องจำได้ แต่นี่จำอะไรไม่ได้เลย” แดนตะวันพยายามพูดอย่างใจเย็น
“นี่แกจะไม่รับผิดชอบลูกพลับเหรอ แกเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าไอ้แดน” ธันวาเข้ากระชากคอเสื้อของเพื่อนด้วยความโมโห
“ฉันไม่ได้ทำ ถ้าทำต้องจำได้” แดนตะวันยืนยันเสียงแข็ง เขาจะไม่ยอมรับอะไรเป็นอันขาดหากไม่แน่ใจ
“ฮือๆๆ” ลูกพลับร้องไห้หนักขึ้น นั่นยิ่งทำให้ธันวาอารมณ์คุกรุ่นยิ่งขึ้น เขาต่อยเพื่อนจนเลือดกบปาก บีบบังคับให้แดนตะวันรับผิดชอบหญิงสาว
“อย่านะธัน” ลูกพลับกรีดร้อง ถลาไปห้ามเอาไว้ แดนตะวันเช็ดเลือดตรงมุมปาก เขาเริ่มสบถ ตวัดสายตามองคนทั้งสอง
“กูไม่ได้ทำอะไร” แดนตะวันเริ่มฉุนเฉียว แม้จะเป็นเพื่อน แต่หากพูดกันไม่รู้เรื่องเขาก็อารมณ์เสียเหมือนกัน
“กูไม่คิดเลยว่ามึงจะมีสันดานหมาแบบนี้” ธันวาด่าทอด้วยความโมโห ลูกพลับร้องไห้หนักขึ้น แดนตะวันลูบใบหน้าตัวเองแรงๆ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พยายามระงับอารมณ์ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะธันวาคือเพื่อนรักของเขา ถ้าเป็นคนอื่นด่าเขาแบบนี้เละไปแล้ว
“ลูกพลับ เธอรู้อยู่แก่ใจ ว่าอะไรเป็นอะไร” แดนตะวันหรี่ตากดเสียงต่ำ สกัดกั้นอารมณ์หงุดหงิดที่เกิดขึ้น
“นี่แดนจะหาว่าลูกพลับใส่ร้ายแดนเหรอ” ลูกพลับร้องห่มร้องไห้ หยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นมากอดเอาไว้ ก่อนวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป
“ไอ้แดน ไอ้สารเลว!” ธันวาหน้ามืดเพราะโมโห ตรงเข้ากระชากคอเสื้อของเพื่อนเพื่อจะต่อยให้คว่ำอีกรอบ แดนตะวันกระชากออกแต่อีกฝ่ายกำลังโมโหเหมือนหมาบ้า
“กูไม่คิดเลยว่ามึงจะเป็นหน้าตัวเมียแบบนี้ เสียแรงที่ลูกพลับรักมึง”
“มึงรู้” แดนตะวันยอมรับว่าตกใจ เขาพยายามปกปิดเรื่องนี้เพราะรู้ดีว่าธันวานั้นรักลูกพลับ เขาไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน
“เออ! กูรู้ กูได้ยินหมดแล้ว มึงเห็นกูเป็นไอ้โง่หรือไงวะ ถึงได้ปิดบัง ไม่ยอมบอกกู”
“กูหวังดีไม่อยากให้มึงเสียใจ”
“ถุย! มึงอยากเห็นกูหน้าแตกตอนสารภาพรักกับลูกพลับมากกว่าใช่ไหมล่ะ” ธันวาสบถอย่างหัวเสียไม่เชื่อคำพูดของเพื่อนรัก
“มึงคิดไปได้ กูไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะโว้ย” แดนตะวันตกใจกับความคิดของเพื่อนรัก
“อย่าทะเลาะกันเลย ลูกพลับไม่อยากให้แดนกับธันต้องทะเลาะกันแบบนี้” หญิงสาวที่ออกมาจากห้องน้ำสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะร้องไห้ปิดหน้าวิ่งหนีออกไปจากบ้าน
ธันวาสบถก่อนจะวิ่งตามไปปลอบใจ ลูกพลับเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมกินข้าวกินปลา แดนตะวันอึดอัด เขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่จะให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้รักยิ่งแล้วใหญ่ เขามีคู่หมั้นแล้ว จึงไม่สามารถแต่งงานกับใครได้และยิ่งเป็นลูกพลับยิ่งเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
ธันวาออกหน้าเรียกร้องให้แดนตะวันรับผิดชอบลูกพลับ แต่แดนตะวันก็ยังเฉย คราแรกเขาจะคุยด้วยให้เข้าใจ แต่คิดว่าปล่อยไปคงเลิกบ้ากันไปเอง ลูกพลับเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เธอเข้าหาพี่ชายของแดนตะวัน นั่นคือสุริยันต์...
สุริยันต์เป็นคนโผงผางตรงไปตรงมา ถามน้องชายแล้วได้ความว่าไม่ได้มีอะไรกัน ก็พูดใส่หน้าลูกพลับไปว่าท้องก่อนค่อยมาตรวจดีเอ็นเอไม่งั้นไม่รับ แต่คนเป็นพี่รู้ดีว่าผู้หญิงจะจับน้องชายตัวเอง นั่นทำให้ลูกพลับเสียหน้าอย่างหนัก
บิดามารดาบุญธรรมของแดนตะวันนั้นรับอัญชัญมาเลี้ยงแต่เด็ก อายุของแดนตะวันและอัญชัญจึงห่างกัน 13 ปี แดนตะวันรับรู้ว่าเด็กคนนี้คือคู่หมั้นที่โตขึ้นต้องแต่งงานกันและเขาก็ยินยอมพร้อมใจ พออายุ 17 บิดามารดาก็เสียชีวิต เขาและอัญชัญจึงอยู่ภายใต้การดูแลของสุริยันต์เรื่อยมา
สุริยันต์นั้นเป็นหลานในไส้ของบิดามารดาบุญธรรมของแดนตะวัน เขาก็กำพร้าแต่เด็ก พวกท่านจึงนำสุริยันต์มาชุบเลี้ยงรักเหมือนลูกอีกคน
สุริยันต์เข้ามาดูแลกิจการอย่างเต็มตัวหลังจากญาติผู้ใหญ่เสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นสุริยันต์อยู่ในวัย 26 ย่าง 27 ปี
สุริยันต์วางมือให้น้องชายดูแลกิจการต่อหลังจากที่แดนตะวันเรียนจบ แต่เขาก็ยังคอยช่วยเหลือน้องชายอยู่เสมอหากมีปัญหาอะไร
แล้วเรื่องราวเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อลูกพลับขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย เธอหนีไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผา ร้องไห้สะอึกสะอื้นร่ำร้องให้แดนตะวันรับผิดชอบ
ธันวาดูทุกข์ร้อนใจเป็นที่สุด ในขณะที่แดนตะวันรู้สึกเครียดและกดดัน เขาไม่อยากอยู่ในสภาะเช่นนี้ และคิดว่าหญิงสาวทำไปเพียงแค่ขู่เท่านั้น คงไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายจริงๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเธอพลัดตกลงไปจริงๆ ทุกคนคิดว่านั่นคือการฆ่าตัวตาย
ใครจะรู้ว่าลูกพลับถอยหลังจนพลาดพลัดตกลงไปเอง ทั้งๆ ที่เธอยังไม่อยากตายจริงๆ!!!
แล้วการค้นหาศพก็เริ่มขึ้น หน้าผาสูงมาก ค้นหากันอยู่หลายวัน ทำให้ไม่เจอศพ เห็นแต่ซากเลือดและชิ้นเนื้อ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเธออาจจะโดนสัตว์ร้ายคาบไปกินจนไม่เหลือซาก!!!
เรื่องราวแต่หนหลังที่ย้อนเข้ามาในห้วงความรู้สึกของคนทั้งสอง ทำให้ทั้งคู่มองสบตากันด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน อีกคนเคียดแค้นชิงชัง อีกคนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แดนตะวันยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องนี้มาก ดวงตาของเขาไหววูบ ครู่หนึ่งก็จางหายไป ในขณะที่ธันวาดวงตาดุดันโกรธแค้น
“เอามือออกไปจากคอเสื้อของกูได้แล้ว” แดนตะวันบีบมืออีกฝ่ายจนหน้านิ่ว เมื่อธันวาตรงเข้ามาทำท่าจะทำร้ายแดนตะวันให้ได้
“มึงกับกูตัวต่อตัว” ธันวาท้าทาย
“ไม่ กูไม่ชอบต่อยกับหมา” แดนตะวันโต้กลับ
“โอ๊ะ!” แดนตะวันโดนต่อยจนเซ เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก ธันวายักคิ้วหลิ่วตาสีหน้ากวนโมโห ใช้นิ้วขยับไปมาท่าทียียวนกวนประสาท เรียกว่าแน่จริงก็เข้ามาสิวะ!
“กูไม่อยากจะต่อยกับหมาแบบมึงแล้วเชียว แต่มึงยังไม่หยุด” แดนตะวันกระชากเสื้อนอกออกจากตัว อัญชัญวิ่งไปรับมากอดเอาไว้ ก่อนจะส่งเสียเชียร์อย่างเมามัน เธอมั่นใจว่าแดนตะวันจะต้องชนะธันวาอย่างแน่นอน