เช้าวันถัดมา บรรดาลูกศิษย์ในสำนักที่เข้ามาใหม่หลังจากวิ่งออกกำลังกายแล้ว ก็ต้องการฝึกวิชายิงธนู เป็นเวลาสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) วิชานี้ส่วนใหญ่เหล่าผู้ฝึกบำเพ็ญชายจะชอบและรอคอยที่จะเรียน
ส่วนผู้บำเพ็ญสตรีส่วนมากจะไม่ชอบวิชานี้นักเรียนให้สอบพอผ่านๆ ไปเท่านั้น เพราะการยิงธนูนี้นอกจากจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ง่าย มือของพวกนางก็จะสาก ไม่นุ่มนวล อาวุธส่วนใหญ่ที่พวกนางเลือกใช้นั้น มักจะเป็นอาวุธที่เบามือและคล่องตัวทำให้การเคลื่อนไหวสง่างามมากกว่า
ภายใต้การสอนขั้นตอนยิงธนูของศิษย์พี่คนอื่นๆ ก็ถึงเวลาที่เหล่าศิษย์น้องจะได้ทดลองยิงด้วยตนเอง โดยกำหนดให้ผู้ฝึกบำเพ็ญชายจะเป็นคนไปทดสอบให้ครบก่อน
อี้หลันแม้ว่าจะมั่นใจกับสมรรถภาพร่างกายของตนเอง แต่นางก็ยังค่อนข้างกังวลอยู่บ้าง เพื่อนสนิทอย่างหนิงฟางที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ถอนหายใจและมีสีหน้ากังวล
“ไม่รู้ว่าครั้งนี้ข้าจะยิงเข้าเป้าหรือเปล่า”
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้ลองยิง ถ้าไม่เข้าเป้าก็ไม่เป็นอันใดหรอก” อี้หลันปลอบใจ
ฟิ้ว~~ ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงธนูดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ทุกสายตาการให้ความสนใจกับกลุ่มคนที่กำลังยิงธนูอยู่ด้านบน พวกเขาพยายามมองดูว่าใครเป็นคนที่ยิงเข้าเป้าได้มากที่สุด
เมื่อกลุ่มผู้ฝึกบำเพ็ญชายยิงธนูจนครบสิบลูก คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ประกาศคะแนนออกมา
"จ้าวฉี หนึ่งแต้ม…"
"ซุนหยาง สี่แต้ม…"
เมื่อผลคะแนนออกผู้บำเพ็ญชายหลายคนก็มีสีหน้าดีใจ บางคนก็ค่อนข้างกังวล
“เอาล่ะ…พวกเจ้าพึ่งได้ลองยิงเป็นครั้งแรก ได้คะแนนเท่านี้ก็ถือว่าไม่เลวนัก ศิษย์น้องหญิงทั้งหลายพวกเจ้ารีบขึ้นมาได้แล้ว” หลิงเซียวปลอบใจบรรดาศิษย์น้องชาย และเรียกศิษย์น้องหญิงให้ขึ้นไปประจำตำแหน่งแทน
อี้หลันค่อนข้างตื่นเต้น นางมีความกังวลเล็กน้อย เพราะนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นางได้ยิงธนู หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก
“เริ่มได้!” เมื่อสิ้นเสียงประกาศ อี้หลันก็เหนี่ยวคันธนูแบะยิงธนูออกไปอย่างต่อเนื่องทันที
ฟิ้ว~~ ปึก! ปึก! ปึก!
ลูกธนูหลายดอกถูกยิงออกไป และมีบางส่วนที่พุ่งเข้าเป้าอย่างจัง
การยิงอย่างต่อเนื่องของอี้หลัน ดึงดูดความสนใจของคนอื่นเป็นอย่างมาก คันธนูที่ผู้ฝึกบำเพ็ญใช้นั้นจะมีขนาดเท่ากันโดยไม่แบ่งแยกชายและหญิง โดยปกติผู้บำเพ็ญชายจะเว้นช่วงในการยิงเพราะกลัวจะได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเห็นว่านางสามารถน้าวคันธนูโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาพวกเขาก็รู้สึกทึ่งยิ่งนัก
หลังจากที่อี้หลัน ยิงลูกธนูจนครบสิบดอก นางรู้สึกว่ายังไม่พอใจในผลลัพธ์เท่าใดนัก หญิงสาวจึงหันหน้าไปหาหลิงเซียวที่ยืนอยู่ข้างหลัง "ศิษย์พี่หลิง ขอลูกธนูเพิ่มอีกสองสามดอกได้หรือไม่เจ้าคะ" เมื่อเช้าอาจารย์แนะนำชื่อของเขาให้นางรู้จักแล้ว ตอนนี้หญิงสาวจึงเรียกชื่อเขาออกมาได้อย่างคล่องปาก
เมื่อหลิงเซียวได้ยินสตรีตัวเล็กๆ ตรงหน้าขอลูกธนูเพิ่ม ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นในทันที “ศิษย์น้อง เจ้ารู้หรือไม่ว่าการกระทำของเจ้าเมื่อสักครู่นี้ค่อนข้างอันตราย"
อี้หลันก้มหน้าลงเล็กน้อย "ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บนะเจ้าคะ"
หลิงเซียวถอนหายใจ เขาบอกอีกฝ่ายเสียงดัง “ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก!"
อี้หลันมุ่ยปาก "ทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้หูหนวกเสียหน่อย เหตุใดต้องทำเสียงดังถึงขนาดนี้ด้วย..."
เมื่อหลิงเซียวเห็นเช่นนั้น เขาก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะหยิกแก้มนางขึ้นมา แต่โชคดีที่เขายั้งมือเอาไว้ทัน!
อี้หลันมองเห็นว่ามือของเขาขยับ คงไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะตีนางหรอกนะ!
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์พี่แต่ก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ เสียหน่อยจะมาตีนางได้อย่างไร หญิงสาวจึงรีบเดินถอยหลังหนีออกไปให้ห่างจากรัศมีฝ่ามือของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเหล่าสหายยิงธนูจนครบ ก็มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ตามที่คาดไว้ หลังจากให้ยาเม็ดสำหรับรักษาแผลแก่ทุกคน อาจารย์ก็คะแนนให้ได้ทราบ แน่นอนว่าคนที่ทำคะแนนได้สูงสุดก็คืออี้หลัน
เดิมทีในสายตาของหลิงเซียว เขาคิดว่าศิษย์น้องคนนี้เพียงแค่คึกคะนองต้องการเล่นสนุกสนานโดยไม่คำนึงถึงอันตราย แต่ผลลัพธ์ที่ได้จำนวนลูกธนูที่นางยิงเข้าเป้านั้นมีมากกว่าเจ็ดดอก ซึ่งนางดูจะเก่งกาจกว่าเขาตอนที่เพิ่งเข้าสำนักมาใหม่เสียอีก!