5.ไม่เป็นอย่างที่คิด

1381 คำ
ในจักรวรรดิที่วุ่นวายและยุ่งเหยิงสิ่งที่ผู้คนต้องการย่อมเป็นความมั่งคั่งและมั่นคงอย่างเช่นการถือครองทรัพย์สิน และที่ดินจำนวนมากเอาไว้ในมือ ตระกูลอัคราฟเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ตระกูลเคาน์ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ท่านเคาน์ไม่มีบุตรกับเคาน์เตสแต่กลับมีบุตรชายนอกสมรสกับสตรีสามัญชนคนหนึ่ง แน่นอนว่าในสายตาของชายที่มองขาดในทุกเรื่อง เขายินยอมให้ภรรยาก่นด่าเพื่อนำพาลูกชายนอกสมรสของเขาเข้ามาในคฤหาสน์ ท่านเคาน์ลงมือสั่งสอนบุตรชายด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดตัวเข้าสู่แวดวงของสังคม แต่คาลอสก็สามารถครอบครองเบื้องหลังของตระกูลอัคราฟได้แล้ว เขาไม่ได้เติบโตอย่างสวยงามเหมือนกับบุตรชายขุนนางคนอื่นๆ เพราะมารดาของเขาเป็นเพียงสามัญชนและทันทีที่เคาน์เตส ล่วงรู้ว่าท่านพ่อของเขามีลูกชายนอกสมรสอยู่ ชีวิตของเขาและท่านแม่ก็ราวกับถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาแค่นหัวเราะออกมาเมื่อต้องหลบหนีนักฆ่าพวกนั้นอย่างไม่มีวันหยุดหย่อน ท่านแม่ตัดสินใจจบชีวิตลงเพราะท่านเหนื่อยล้า กับการหลบหนีและไม่มีกะจิตกะใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป ท่านยอมตายเสียยังดีกว่าจะต้องวิ่งหนีครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเติบโตมาด้วยหนทางที่อาบชุ่มไปด้วยเลือด เช่นนั้นแล้วจะให้เขาเป็นคนดีได้อย่างไรกัน “ข้าไม่น่าพาเจ้ามาที่นี่เลย ข้าพา..ปะ..ปีศาจเข้ามาในอัคราฟแท้ๆ” คาลอสหัวเราะออกมาเสียงดัง ในระหว่างที่ท่านพ่อของเขามอบหมายงานให้เขาทำ เขาก็ได้โอกาสสะสมกำลังในเงามืด ใช้เงินทุนของ อัคราฟว่าจ้างทหารรับจ้างฝีมือดี เข้ายึดตระกูลให้เป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ เพียงแต่เขายังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไปและคฤหาสน์อัคราฟก็ถูกปิดเงียบด้วยสาเหตุว่าท่านเคาน์ล้มป่วยไม่สะดวกเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์หรือว่าอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคฤหาสน์อัคราฟจะปิดประตูเงียบแต่ทุกธุรกิจของอัคราฟต่างมีกราฟรายได้ที่พุ่งสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยการบริหารและจัดการงานที่เก่งกาจของคาลอส เขาส่งคืนความทรมานให้กับท่านเคาน์เตส ด้วยการส่งนางไปอยู่ที่ชนบท โดยไม่ให้มีคนรับใช้แม้แต่คนเดียว ให้นางอยู่เพียงผู้เดียวในบ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ไร้เพื่อนบ้านไร้ข้ารับใช้ นับว่าเขายังเมตตานาง เพราะเขาในวัยเยาว์วิ่งหนีนักฆ่าและเคาน์เตสมีหน้าที่แค่หลีกหนีความยากลำบากและความอดอยากเท่านั้นเอง นี่เขา..ใจดีเกินไปหน่อยไหม “ท่านพ่อกล่าวอะไรเช่นนั้นกันครับ ที่ข้าเก่งกาจเรื่องการทำธุรกิจ ส่วนหนึ่งก็มาจากการสั่งสอนของท่าน ในวันนี้ข้าตอบแทนท่านพ่อด้วยการให้ท่านนอนนิ่งๆอยู่ บนเตียง ไม่ต้องทำงาน ข้าผิดตรงไหนกัน” เขาจัดการตัดเส้นเอ็นข้อเท้าทั้งสองข้างของท่านพ่อออก เห็นไหมว่าเขาคือลูกกตัญญูมากแค่ไหน เขาไม่ต้องการให้ท่านพ่อทำงาน เขาอยากให้ท่านพ่อพักผ่อนก็เลยทำเช่นนั้น “เหอะ! ไสหัวออกไปซะ!” “เห็นไหมว่าท่านพ่อยังแข็งแรงมากจริงๆ ท่านยังสามารถดุด่าข้าได้อีกหลายปีเลย ช่วงนี้ข้าอาจจะไม่ได้มาให้ท่านด่านะครับ ข้ามีงานที่จะต้องไปทำ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะท่านจะมีคนรับใช้คอยดูแล..และอย่าได้คิดจะหนีไปเพราะที่ท่านยังมีลมหายใจนั่นคือความเมตตาสุดท้ายของข้าแล้ว..” ในช่วงเวลาที่เขาวิ่งหนีความตาย ชายผู้นี้กลับมองดูแล้วก็หัวเราะออกมา แถมยังเอ่ยปากชมว่าเขาเก่งกาจที่สามารถวิ่งหนีนักฆ่าได้นานหลายปีอีกด้วย เขามีพ่อที่เป็นเหมือนเศษสวะ และช่วงเวลาที่เขามองเห็นท่านพ่อนอนอย่างสิ้นหวังอยู่บนเตียงนั้นเขากลับมีความสุขอย่างน่าเหลือเชื่อ..นี่สินะรสชาติของชัยชนะ มันหอมหวานและตื้นตันใจดีจริงๆ “สตรีผู้นั้นไม่ยอมขายที่ดินริมทะเลสาบครับท่านเคาน์ คนของนางกล่าวเอาไว้วว่าต่อให้เราให้ราคาเพิ่มขึ้นสิบเท่านางก็ไม่ขาย” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกตัดหน้าในการซื้อที่ดิน ชื่อของเลดี้แอเรียนานั้นวนเวียนไปมาอยู่ในหัวพร้อมกับความรู้สึกอยากจะกระชากนางลงมาจากความหยิ่งผยองพวกนั้น.. หากที่ดินตรงนั้นไม่มีแร่เพชรเขาคงจะไม่รู้สึกอารมณ์เสียเท่านี้มาก่อน ดูท่าว่าเขาจะต้องหาโอกาสไปพบเจอเลดี้แอเรียนาผู้นั้นซะแล้วสิ “ท่านเคาน์ครับ ข้าไม่รู้ว่าจะกล่าวเช่นนี้ดีหรือไม่ แต่ช่วงนี้มีสตรีวัยกลางคนวนเวียนไปมารอบๆ ตัวของท่าน.." เรียวคิ้วของคาลอสเลิกสูงขึ้นมา “หมายความว่าอย่างไรกัน ข้ารู้ถึงความหล่อเหลาและทรงเสน่ห์ของตัวเอง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีสตรีวัยกลางคนคอยตามติดเช่นนั้น” ดวงตาสีแดงก่ำของคาลอสหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างแล้วมองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ด้านหลังที่ทำงานของเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำงานในฐานะของท่านเคาน์อัคราฟ เขาเคลื่อนไหวในฐานะของพ่อค้าผู้หนึ่งเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย และสตรีวัยกลางคนผู้นั้นมีเส้นผมสีแดงที่หาได้ยากยิ่งในจักรวรรดิ สีผมเช่นนั้น..ตระกูลแอเรียนาอย่างนั้นหรือ? ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาด้วยความชั่วร้าย “ลงไปพบเจอนางสักหน่อยน่าจะดี หากพบเห็นอะไรที่ผิดสังเกตก็ไม่ต้องตกใจไป ข้าจะลองเล่นสนุกกับสตรีผู้นั้นสักหน่อย ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านางต้องการอะไร?” เรื่องตลกที่คาลอสพบเจอคือเมื่อเขาเดินมาที่ด้านหลังสวนที่ไม่มีคนอื่นอยู่ สตรีวัยกลางคนผู้นั้นวิ่งมาหาเขาพร้อมกับเอาเทียนสีดำกดลงไปที่ตำแหน่งหัวใจของเขา นางสวดพึมพำไปมาราวกับคนเสียสติ “.....” แต่ทว่านั่นเป็นครั้งแรกที่คาลอสนึกสนุก เขาแสร้งคุกเข่าลงในทันที เพราะเขารู้สึกว่าสตรีผู้นั้นจะต้องการให้เขายอมจำนนต่อนาง วินาทีต่อมาคอของเขาก็ถูกโซ่เงินเย็นเฉียบสวมลงมา มันคล้ายกับปลอกคอของสุนัขมากทีเดียว “เจ้าจะต้องเชื่อฟังเจ้าของสร้อยเส้นนี้เข้าใจหรือไม่ ไหนลองบอกข้าสิว่าเจ้าชื่ออะไร?” เขาช้อนสายตามองหน้าสตรีผู้นั้น คาลอส กำลังพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ความแตก “ข้าไม่มีชื่อครับ..” เมื่อเขาตอบออกไปเช่นนั้นสตรีผู้นั้นก็หัวเราะชอบใจ “ดี..ดีแล้วเช่นนั้นก็ดีแล้ว เจ้าจะต้องอยู่กับลูกสาวผู้งดงามของข้าเข้าใจไหม นางไม่มีใครเพราะว่านางห่วงใยข้ามากเกินไป เจ้าจะต้องเป็นทั้งเพื่อน พี่ชาย ที่ปรึกษา อัศวินที่ปกป้องนางและหากเป็นไปได้ข้าอยากให้เจ้าเป็นคนที่รักนางมากกว่าใคร..โอฟีเลียน่าสงสารมาก นางพยายามทำเพื่อข้าที่เอาแต่สร้างปัญหาให้นางไม่หยุดหย่อน ข้าเสียใจที่ทำให้ชื่อเสียงของนางป่นปี้ไปหมดเพราะข่าวการหย่าของข้ากับสามี แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็อยากจะให้นางมีคนรัก คนที่รักนางและคอยปกป้องนาง เจ้าทำได้ใช่ไหม เจ้ารับปากข้ามาว่าเจ้าจะรักและปกป้องโอฟีเลียด้วยชีวิต” คาลอสส่งเสียงร้อง “หึ” ออกมาเบาๆ “ข้ารับปากครับว่าจะรักและปกป้องโอฟีเลียเพียงผู้เดียวเท่านั้น” เขากล่าวออกไปเพื่อความสมจริง ใครมันจะไปรักและปกป้องสตรีที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจของตัวเองลง หากให้เขาทำลายนางก็ว่าไปอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม