คาริสมาระบายลมหายใจในความเงียบขณะกุมแฟลช ไดรฟ์ ขนาดเล็กไว้ในมือแน่น สิ่งที่เธอกำลังจะลงมือทำไม่ใช่แค่การปล้นข้อมูลของแมทธิวมาอย่างเดียว แต่มันเป็นการทำลายระบบเครือข่ายของบริษัททั้งหมด มันเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เธอกำลังจะทำ
สาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่าได้แต่คิดว่า เธอต้องทำเพื่อรักษาชีวิตพ่อตัวเองไว้ เมื่อภารกิจของเธอสำเร็จลุล่วงไปได้เธอก็จะไปจากที่นี่ทันที มันคงไม่มีอะไร...ก็ในเมื่อเธอไม่ได้มีความผูกพันใด ๆ กับแมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตันอยู่แล้ว
เพนท์เฮ้าส์ของแมทธิวเป็นตึกสี่สิบชั้นซึ่งตั้งอยู่ในมุมอันสงบเงียบใกล้ถนนลองบีช บูเลอร์เวิร์ดในเขตลินท์วูด คาริสมาได้รับการเชื้อเชิญจากคนของเขาราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงไปยังชั้นสุดท้ายของตึกที่ได้รับการตกแต่งเป็นเพนท์เฮ้าส์แสนสวยและรุ่มรวยไปด้วยกลิ่นอายแบบโมเดิร์น
“สวัสดี...แคลร์”
แมทธิวกล่าวทักทายหญิงสาวเมื่อประตูลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นสูงสุดเปิดออก คนของเขากลับไปแล้วยังเหลือเพียงคาริสมาที่ก้าวเข้าไปภายในห้องขนาดใหญ่ที่ชายหนุ่มผู้แสนสง่าแม้อยู่ในชุดลำลองก้าวมาหยุดตรงหน้าเธอเพื่อแสดงการต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ...แมท”
คาริสมาทักทายเขาตอบ ดวงตากลมโตคู่นั้นมองข้ามไหล่ของเขาเข้าไปด้านในซึ่งเป็นโต๊ะอาหารที่ถูกจัดไว้เพื่อการดินเนอร์ท่ามกลางแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติก
เขาจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างกับนี่เป็นการต้อนรับผู้หญิงที่มีความสำคัญมากสำหรับเขา ซึ่งเธอไม่ใช่...แต่คาริสมาก็อดที่จะประทับใจไม่ได้ เธอกำลังคิดว่าแมทธิวอาจหลงเสน่ห์เธอเข้าแล้วจริง ๆ ก็ได้
“คืนนี้คุณสวยมาก...แคลร์”
แมทธิวเอ่ยขณะมองหญิงสาวที่แก้มของเธอเริ่มเป็นสีแดงเรื่อเพราะความขวยเขิน คาริสมาเป็นผู้หญิงที่สวยมากอย่างที่โรมี่บอกเขา วันนี้เธออยู่ในชุดกระโปรงสีกุหลาบขับผิวผุดผาดของเธอให้ผ่องผุดราวกับดอกไม้แรกแย้มในยามอรุนรุ่ง
เขาชอบมองดวงตาคู่สวยของเธอ มันเป็นดวงตากลมโตที่มีประกายอันงดงามราวกับมีแสงสว่างรังรองฉาดฉายอยู่ในนั้น ผมยาวสีน้ำตาลเป็นประกายถูกปล่อยสยายขับความงามตามธรรมชาติอย่างไม่ต้องเสแสร้ง เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับเขา แมทธิวไม่เคยรู้สึกเก้อเขินเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ขอบคุณค่ะ”
คาริสมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ออกจะประหม่าเล็ก ๆ เธอแค่คิดในใจเท่านั้นว่าแมทธิวดูดีมากในค่ำคืนนี้ เธอชอบมองเวลาที่เขาอยู่ในชุดลำลองมากกว่าชุดสูทที่ทำให้เขาสง่างามแต่ก็เคร่งขรึมตามแบบฉบับนักธุรกิจหนุ่ม ร่างสูงสง่าเดินกลับไปยังโต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีขวดไวน์และแก้วไวน์วางอยู่บนนั้น เขาหันกลับมายังเธออีกครั้ง
“ผมเตรียมไวน์อย่างดีสำหรับคุณคืนนี้ แคลร์”
บทที่ 5
หญิงสาวเดินไปหยุดตรงหน้าเขา เธอมองขวดไวน์ด้วยสีหน้าใคร่รู้
“รู้ได้ยังไงคะว่าฉันชอบดื่มไวน์”
“ผมเห็นคุณจิบไวน์ที่งานเลี้ยง คุณแทบจะไม่ยอมวางแก้วไวน์เลยหลังจากที่เราคุยเรื่องธุรกิจกัน”
“คุณนี่ช่างสังเกตจริงนะคะ...กับสาว ๆ คนอื่นคุณคงจะสังเกตเหมือนกันว่าพวกเธอดื่มอะไร”
“ไม่ทุกคน”
เขาตอบสั้น ๆ แต่มันมีความหมายพิเศษแฝงอยู่ในนั้น คาริสมารู้สึกและสัมผัสได้จากน้ำเสียงของเขา
“ไวน์ที่ผมเตรียมให้คุณวันนี้มีความพิเศษตรงที่...มันเป็นไวน์จากไร่ของผมในเรดฮิลล์”
“คะ?” คาริสมาทำสีหน้าประหลาดใจ
“ผมมีไร่ผลิตไวน์อย่างดีอยู่ที่เรดฮิลล์ มันเป็นเทือกเขาเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรมอร์นิงตัน (Mornington) ประเทศออสเตรเลีย ที่นั่นผลิตไวน์ชั้นเลิศ มีทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ให้ผมทายมั้ยว่าคุณชอบแบบไหน”
คาริสมาเลิกคิ้วเชิงหยั่งความคิดของเขา รอยยิ้มอ่อนหวานผุดขึ้นบนริมฝีปากของชายหนุ่ม
“คุณชอบไวน์แดง”
“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”
“ผมอาจจะเดาผิดก็ได้ ผมทายมันจากสีเสื้อที่คุณสวมใส่ คุณสวมเสื้อสีชมพูกุหลาบ มันทำให้ผมคิดถึงไวน์แดง ที่ไร่ของผมมีสัญลักษณ์อย่างหนึ่งในการสังเกตว่าพื้นที่นั้นทำไวน์ขาวหรือแดง”
“ยังไงล่ะคะ”
“ถ้าเป็นพื้นที่ทำไวน์ขาว เราจะปลูกกุหลาบสีขาว แต่ถ้าเป็นพื้นที่ทำไวน์แดงเราจะปลูกดอกกุหลาบสีแดง”
“ช่างน่าทึ่งอะไรอย่างนี้ ฉันอยากเห็นที่ที่คุณพูดถึงจังเลยค่ะ”
“วันหนึ่งคุณอาจได้ไปที่นั่น”
แมทธิวกล่าวพลางรินไวน์สีทับทิมลงในแก้วและยื่นให้หญิงสาว คาริสมารับมันไว้และจิบเล็กน้อย
“อืม...รสชาติดีมากเลยค่ะ นี่คงเป็นไวน์จากไร่ของคุณ”
เธอกล่าวชม และมันก็มาจากความรู้สึกอันแท้จริงในส่วนลึก แมทธิวไม่ใช่แค่นักธุรกิจผู้ทรงอำนาจและหน้าตาดีเท่านั้น แต่เขายังเป็นบุรุษผู้มีความละเอียดอ่อน เขาอ่อนหวานและใส่ใจกับรายละเอียดเล็กน้อยซึ่งมันทำให้เธอประทับใจเขาตั้งแต่แรกพบ
โอ...คาริสมาพยายามบังคับมือของเธอไม่ให้สั่นเมื่อความคิดบางอย่างแล่นพล่านขึ้นมากะทันหัน มันเป็นความร้อนรุ่มเฉียบพลันซึ่งเธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้
“ผมดีใจที่คุณชอบ ผมเองก็ชอบดื่มไวน์แดงเหมือนกัน”
แมทธิวเอ่ยพลางหันกลับไปรินไวน์ลงในแก้วของเขา คาริสมาเผลอเข้าไปใกล้ร่างสูงทำให้เธอไม่ทันระวังตอนที่เขาหันกลับมา
“อุ๊ย!”
หญิงสาวอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อแขนของเขากระทบกับมือของเธอที่กุมแก้วไวน์อย่างไม่มั่นคงและมันทำให้ไวน์สีแดงหกเลอะเทอะบนเสื้อสีครีมของเขา
“ตายจริง! แมท...ฉันขอโทษค่ะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
คาริสมารีบวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วหยิบทิชชูขึ้นมาช่วยซับรอยสีแดงก่ำของไวน์ที่เปรอะเปื้อนบนเสื้อของเขา แต่แล้วเธอกลับต้องเป็นฝ่ายหยุดชะงักเมื่อมือเรียวบางถูกมือหนาหนักของเขาเกาะกุมไว้
“แคลร์...ไม่เป็นไรหรอก”
น้ำเสียงทุ้มหนักแต่อ่อนหวานของแมทธิวทำให้คาริสมาช้อนตาขึ้นมองเขา เธออยู่ใกล้จนเกือบชิดเขาในขณะที่ชายหนุ่มกุมมือเธอไว้ ใกล้มากจนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนของเขานั่นเลยทีเดียว