ตอนที่ 1
เมื่อเทพบุตรกลายร่างเป็นซาตาน เมื่อความเกลียดชังมาแทนที่ความรักแมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตัน จึงต้องตามล่า คาริสมา ไคลน์ หญิงสาวผู้แฝงตัวมาในคราบนักธุรกิจสาวที่หลอกปั่นหัวเขาก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับความลับของบริษัทซึ่งเขาเป็นผู้กำมันไว้ เขาต้องตามล่าตัวเธอกลับมา ลงทัณฑ์ให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่ากลืนกินพิษร้ายที่กลั่นมาจากหัวใจอันเคียดแค้น
รถลีมูซีนสีขาวที่แล่นเข้ามาจอดทำให้สภาพบุรุษและสุภาพสตรีหันมาให้ความสนใจโดยเฉพาะเมื่อประตูรถคันหรูเปิดออกและร่างเล็กบอบบางในชุดสูทสีงาช้างสวมรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเดียวกันก้าวลงมาและเหยียบลงบนพรมสีแดงที่ปูลาดเข้าไปยังประตูทางเข้าของงานกาล่า ดินเนอร์ซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างอลังการภายในบริเวณด้านหน้าของโรงแรมระดับห้าดาวใจกลางมหานครลอสแองเจลิส
“สวัสดีค่ะ คุณคาริสมา...เชิญเข้ามาด้านในก่อนซีคะ”
เสียงหวานแสดงถึงการต้อนรับของเจ้าหน้าที่สาวในชุดสูทสีเทาดังขึ้นในทันทีที่เจ้าหล่อนก้าวเข้ามาถึงตัวหญิงสาวผู้มาใหม่
“สวัสดีค่ะ...คุณ...”
“ฉันคือโรมี่ค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวชาวอเมริกันรูปร่างเพรียวระหงและตัวโตกว่าตอบเสียงฉาดฉาน “ดิฉันเป็นเลขานุการส่วนตัวของเจ้าของงานนี้ คุณแมทธิว คอนเนอร์ ฮัทเทอร์ตัน...ดิฉันทำความรู้จักคุณจากโปรไฟล์ลูกค้าที่ส่งมาที่บริษัทของเราค่ะ”
หญิงสาวร่างบอบบางในชุดสูทสีขาวปรายยิ้มเล็กน้อย โรมี่มองลูกค้าคนใหม่ของเจ้านายด้วยแววตาบ่งบอกถึงความชื่นชมอย่างแท้จริง ผู้หญิงคนนี้นะหรือคือ คาริสมา ไคลน์
เลขานุการส่วนตัวของเจ้าของบริษัทออกแบบและก่อสร้างยักษ์ใหญ่อย่างฮัตเทอร์ตัน คอนสทรัค ต้องทำการบ้านอย่างหนักในการสืบค้นข้อมูลของผู้หญิงคนนี้ซึ่งเธอกำลังจะเป็นคู่ค้าคนสำคัญของบริษัท
สตรีผู้มีรูปร่างเล็กและผิวขาวผ่องผาดราวกับหยวก ใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลนุ่มนวลซึ่งถูกรวบเป็นหางม้าสูงนั้นงดงามหมดจดอย่างไร้ที่ติแม้แต่งแต้มด้วยเมคอัพเพียงบางเบา ดวงตากลมโตของเธอดูอ่อนโยนทว่าฉายประกายอันมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม แก้มนวลเป็นสีชมพูระเรื่อขับความงามของสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่า มันช่างดึงดูดสายตาราวกับมนต์สะกดของนางฟ้าอย่างไรอย่างนั้น จมูกของเธอโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสวย และนี่คือภาพของนักธุรกิจสาวทายาทเจ้าของโรงแรมติดอันดับต้นของเวเนซูเอล่าซึ่งได้รับการเชื้อเชิญมาร่วมงานอันสำคัญของบริษัทออกแบบและรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ โรมี่”
“เชิญด้านในเถอะค่ะ ดิฉันจะพาคุณไปพบบอสนะคะ เขากำลังคุยกับแขกอยู่ที่ห้องรับรองน่ะค่ะ”
คาริสมายิ้มรับอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินตามเลขานุการส่วนตัวของคนที่เธอต้องการพบเข้าไปด้านในของโรงแรมที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยแขกทั้งหญิงชายที่แต่งตัวในชุดกลางคืนและพูดคุยกันอย่างออกรสชาติท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราของอาหารและไวน์ชั้นเลิศที่โรงแรมจัดให้สำหรับงานพบปะลูกค้าของฮัตเทอร์ตัน คอนสทรัค
โรมี่เดินนำหน้าหญิงสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่าเข้าไปยังห้องรับรองแขกซึ่งอยู่ที่ชั้นลอบบี้ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเลขานุการที่มีความคล่องแคล่ว ดูแล้วช่างเหมาะกับหน้าที่ของเธอเสียจริง
“บอสคะ...แขกคนสำคัญของบอสมาแล้วค่ะ”
เลขานุการสาวสวยกล่าวทันทีที่บอดี้การ์ดตัวโตหน้าห้องรับรองเปิดประตูให้ คาริสมาที่เดินตามโรมี่เข้าไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เลขาสาวและเธอมีทีท่าชะงักไปเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับประธานใหญ่แห่งฮัตเทอร์ตัน คอนสตรัค กรุ๊ป
แมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตัน
ผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูทผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม เขากำลังยืนอยู่ที่เก้าอี้รับแขกและจับมือกล่าวอำลาลูกค้าซึ่งเป็นชายผิวสีสองคน และเมื่อแขกของเขาทั้งสองออกไปแล้วชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคร้ามคมใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มจึงหันมายังเลขาของเขาและแขกผู้มาใหม่
“บอสคะ...นี่คือ คุณคาริสมา ไคลน์...ลูกค้าคนใหม่ที่ติดต่อให้อัตเทอร์ตัน คอนสตรัค เข้าไปช่วยออกแบบการก่อสร้างโรงแรมในเวเนซูเอล่าให้เธอค่ะ”
โรมี่แนะนำในขณะที่แมทธิวปรายสายตาคมสีน้ำเงินเข้มแกมเขียวมรกตไปยังร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลขาของเขา
“สวัสดีครับ...มิสไคลน์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เสียงทุ้มห้าวของประธานใหญ่แห่งฮัตเทอร์ตัน คอนสตรัคทำให้คาริสมาหลุดออกจากอาการชะงักงันที่เกิดขึ้นชั่วขณะ ไม่น่าเชื่อว่าผู้กุมบังเ**ยนบริษัทออกแบบและรับเหมาก่อสร้างใหญ่ที่สุดในสหรัฐจะยังหนุ่มแน่นซึ่งคำนวณอายุคร่าว ๆ ของเขาคงประมาณสามสิบปี แถมยังเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ หน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์อย่างที่เธอไม่เคยคาดคิด เพราะสิ่งที่คิดมาก่อนหน้าคือ แมมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตัน คงเป็นชายวัยห้าสิบกว่า ๆ...แค่นั้นเอง
“สวัสดีค่ะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
คาริสมาคลี่รอยยิ้มแสนหวานให้ชายหนุ่มก่อนที่โรมี่จะกล่าวขึ้นว่า
“เชิญมิสไคลน์ตามสบายค่ะ”
เลขาสาวคนสวยปลีกตัวออกจากห้องนั้นเหลือเพียงสองหนุ่มสาวที่ยืนสบตากันนิ่งนาน คาริสมาเกิดอาการประหม่าเล็ก ๆ เธอเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว แต่ไม่นึกว่าเมื่อต้องมาพบกับแมทธิวจริง ๆ มันตรงข้ามกับที่คิด
เธอเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ และนัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายของเธอคงสะท้อนอะไรบางอย่างให้ชายหนุ่มเห็น แมทธิวเองก็ต้องรีบดึงความคิดของเขากลับมา ความคิดที่ว่าเขากำลังจ้องมองใบหน้าสวยหวานของสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่านานเกินไปแล้ว
“เชิญนั่งก่อนเถอะครับ มิสไคลน์...เอ้อ...ไม่ทราบว่าคุณต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมครับ ผมจะได้ให้คนจัดมาให้”
“ไม่ดีกว่าค่ะ...ขอบคุณค่ะ”
คาริสมากล่าวตอบแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่ชายหนุ่มหย่อนตัวลงนั่ง แมทธิวอดที่จะจ้องมองดวงหน้างดงามนั้นอีกครั้งไม่ได้ ทำไมเขาต้องเกิดความรู้สึกประหลาดแบบนี้ทั้งที่เพิ่งพบลูกค้าคนใหม่ของเขาครั้งแรก
“ยินดีมากครับที่มิสไคลน์เลือกบริษัทของเราให้เข้าไปออกแบบโรงแรมให้ที่ประเทศเวเนซูเอล่า”
“เอ้อ...เรียกฉันว่า แคลร์...ก็ได้ค่ะ”