กลับกับผมไหม

2412 คำ
“ฉันกลับเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณดีกว่า คุณกลับไปเถอะค่ะฉันจะรอรถของโรงแรม” เรวดีก็มองหน้าเขาอย่างจดจ้องแล้วพูดออกไปอย่างจริงจัง เพราะยิ่งเธอเห็นหน้าเขาภาพที่เธอยอมให้เขาเล่นสนุกกับร่างกายของเธอมันก็พุดขึ้นมาในหัว และมันก็ตอกย้ำให้เธอรู้สึกผิดกับแฟนของเธอมากขึ้น ดังนั้นเธอควรอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้ “ผมบอกให้คุณขึ้นมาไงเรวดี อย่าทำให้ผมต้องลงจากรถไปอุ้มคุณขึ้นมานะ” ศิลาพูดขู่ออกไปเสียงเข้ม เมื่อเธอนั้นไม่ยอมขึ้นรถมากับเขา “นี่คุณศิลา คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันแบบนี้นะ ฉันขอร้องเถอะเลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันไม่อยากจะทำผิดกับแฟนฉันไปมากกว่านี้แล้ว คุณเองก็มีสามัญสำนึกซะบ้างสิว่าไม่ควรมายุ่งกับผู้หญิงที่มีแฟนแล้วแบบนี้” เรวดีพูดต่อว่าเขาไปอย่างอดไม่ได้ เมื่อเขายังพยายามมาตอแยเธอแบบนี้ “ต้องว่ากันขนาดนี้เลยเหรอคุณ ผมไม่ได้จะยุ่งกับคุณ ผมก็แค่อยากจะไปส่งเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ผมทำลงไปก็เท่านั้น ดังนั้นขึ้นรถมาซะ ผมส่งคุณกลับกรุงเทพแล้วเราต่างคนต่างแยกย้าย ถ้าคุณไม่ขึ้นมาผมก็จะจอดอยู่ตรงนี้แหละ” พอศิลาได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็รู้ตัวว่าเขานั้นล้ำส้นเธอเกินไป เขาจึงพูดบอกไปแบบนั้นเพื่อให้เธอสบายใจ และถ้าเขาส่งเธอแล้วเขาก็จะไม่ยุ่งกับเธออีก “แยกย้ายกันตรงนี้แหละค่ะดีแล้ว ถ้าคุณอยากขอโทษฉันล่ะก็ เลิกยุ่งกับฉันก็พอ ขอตัวนะคะ” เรวดีพูดออกไปก็เดินลากกระเป๋าไปที่รถตู้ของโรงแรมที่มาจอดต่อท้ายรถของเขาทันที เพราะถ้าเธอไปกับเขาเธอก็จะเจอความอึดอัดตลอดการเดินทางนั้นซึ่งเธอไปเอาด้วยเด็ดขาด “โธ่โว้ย… กลับด้วยกันมันจะเป็นอะไรวะ…” ศิลาพูดออกไปอย่างไม่พอใจที่เธอเมินเขาและเดินไปขึ้นรถตู้ของโรงแรมอย่างนั้น ทำให้เขามองเธอผ่านกระจกอย่างโกรธๆ เพราะไม่เคยมีใครกล้าปฎิเสธหรือหักหน้าเขาอย่างนี้มาก่อน “พี่คะขับออกไปเลยค่ะ” เรวดีพูดบอกคนขับรถไปแล้วคนขับก็ค่อยๆขับออกมาอย่างช้าๆ แล้วเธอก็มองรถของศิลาที่ยังจอดนิ่งอยู่ตรงนั้นแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ และหวังว่าเธอจะไม่เจอกับผู้ชายคนนี้อีก พอขับออกมาเรวดีก็เห็นรถของศิลาตามออกมา เธอก็กลัวเขาจะตามเธอไปอีก จึงให้คนขับรถไปส่งที่กรุงเทพเลย เพราะอย่างน้อยมันก็ดีกว่าเธอไปรอนั่งรถตู้กลับอีกที เพราะนั่นจะทำให้ศิลานั้นตามเธอไม่เลิก ส่วนศิลาพอเห็นว่ารถตู้คันนี้ไม่ได้จดแวะส่งเธอที่ถนนใหญ่ก็ขับตามจนรถตู้คันที่เรวดีนั่งนั้นขับมุ่งตรงไปยังกรุงเทพ เขาก็ขับตามดูอยู่ห่างๆ ณ กรุงเทพมหานคร คอนโดของวิทวัส “วิทคะ ทำไมวันนี้คุณไม่ไปทำงานล่ะคะ ไหนเมื่อวานคุณบอกว่ามีเข้าเวรตอนเช้าไงคะ” พลอยไพลินเอ่ยถามออกไป เพราะปกติถ้าเขามีเวรตอนเช้าป่านนี้เธอคงไม่ได้เห็นหน้าเขาตอนตื่นนอนแบบนี้หรอก “ก็ผมอยากจะอยู่กับคุณนิ ก็เลยแลกเวรกับเพื่อน” วิทวัสพูดไปก็นอนเอามือโอบกอดพลอยไพลินไว้อย่างอ้อนๆ ทั้งที่จริงวันนี้นั้นเขาก็ลาหยุดเพื่อนจะไปเที่ยวกับเรวดี แต่แล้วก็กลับมาคลุกอยู่กับพลอยไพลินแทน “คุณน่ารักที่สุดเลยค่ะ จุ๊บ… งั้นเดี๋ยววันนี้เราสองคนไปเที่ยวด้วยกันนะคะ อื้อ….อึก…อึก…อ้วก…อ้วก….” พลอยไพลินพูดไปไม่ทันจบก็รู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอ้วก เธอก็รีบเอามือปิดปากแล้วก็รีบลุกออกจากเตียงวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที จากนั้นก็อ้วกออกมาอย่างทรมาน วิทวัสที่เป็นหมออยู่แล้วก็มองตามเธอไปแบบอึ้งๆ เพราะอาการของพลอยไพลินมันเหมือนกับคนท้องไม่มีผิด วิทวัสจึงรีบลุกลงจากเตียงตามพลอยไพลินไปในห้องน้ำทันที ก่อนจะเห็นเธออ้วกอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาก็เอามือไปลูบหลังเธออย่างคิดมาก “พลอย…ประจำเดือนคุณมาปกติหรือเปล่า” วิทวัสเอ่ยถามออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะอาการของเธอมันเหมือนคนท้องจริงๆ ทำให้เขาต้องถามออกไปอย่างนั้น พลอยไพลินได้ยินเขาถามอย่างนั้นก็คิดว่าเธอคงจะปิดเรื่องที่เธอท้องไม่ได้แล้ว เธอจึงล้างปากแล้วก็เอาทิชชูมาเช็ดอย่างเรียบร้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเงยหน้ามองสบตากับเขาอย่างจริงจัง “ประจำเดือนพลอยไม่มาสองเดือนแล้วค่ะ พลอยก็เลยไปตรวจมาเมื่อวันก่อนแล้วก็พบว่าพลอยกำลังท้องได้เก้าสัปดาห์แล้วค่ะ พลอยก็เลยจะเก็บเอาไว้บอกคุณตอนที่คุณได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกหัวใจก่อน ไม่คิดเลยว่าคุณจะจับได้ซะก่อน คุณดีใจไหมคะที่เราสองคนกำลังจะมีลูกด้วยกันแล้ว” พลอยไพลินพูดอธิบายกับเขาไปตามตรง และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเร็วแบบนี้ ก็เพราะว่าท้องของเธอนั้นโตขึ้นทุกวันแล้ว และเธอคงทนรอให้เขาใช้ความสามารถเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ วิทวัสได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปทันที เพราะเขาไม่คิดว่าเขาจะพลาดทำพลอยไพลินท้องแบบนี้ แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงต่อไปในเมื่อเธอกำลังท้องลูกของเขา แต่เขากำลังจะแต่งงานกับเรวดีในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว ให้ตายเถอะ ทำไมเธอต้องมาท้องเอาตอนนี้ด้วยนะ วิทวัสคิดไปอย่างหนักใจว่าเขาจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี “วิทคะ คุณไม่ดีใจเหรอคะที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน” พลอยไพลินเห็นเขานิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของเธอก็ทำหน้าเศร้าลง เมื่อคิดว่าเขานั้นไม่ได้ดีใจเหมือนกับเธอ “อ่อ เปล่าๆ ผมก็ต้องดีใจสิที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน ผมก็แค่คิดว่าผมจะทำยังไงต่อไปดี” วิทวัสพูดบอกไปด้วยสีหน้ายิ้มเจือนๆออกไป “ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลยค่ะ คุณก็แค่ไปพบครอบครัวของฉันแล้วก็พูดคุยเรื่องแต่งงานก็เท่านั้นเอง ส่วนหน้าที่การงานของคุณฉันก็จัดการให้หมดแล้ว ยังต้องกังวลอะไรอีกล่ะคะ ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าฉันท้องงั้นก็ไม่ต้องรอให้คุณเลื่อนตำแหน่งแล้วล่ะคะ วันนี้คุณเองก็ว่างงั้นเราเข้าไปคุยกับพ่อแม่ฉันบ่ายนี้เลยดีกว่าค่ะ ” พลอยไพลินพูดบอกไปแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะครอบครัวของเธอคงไม่ยอมให้มีลูกทั้งๆที่ไม่ได้แต่งงานแน่ๆ “ห้ะ ไปคุยกับพ่อแม่ของคุณบ่ายนี้เลยเหรอ ผมว่ามันเร็วไปไหมพลอย ขอเวลาผมหน่อยได้ไหม ผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลย” วิทวัสพูดบอกไปด้วยสีหน้าตกใจ เมื่อเธอจะให้เขาไปพบพ่อแม่ของเธอวันนี้เลย แต่เธอท้องเขาก็ตกใจจนไม่รู้จะรับมือยังไงแล้ว นี่เธอยังจะพาเขาไปพบพ่อแม่เธออีก เขาจะรับมือไหวได้ยังไงกัน “เร็วไปอะไรกันคะ ท้องพลอยมันก็ใหญ่ขึ้นทุกวันถ้าไม่ไปคุยกันวันนี้แล้วจะได้คุยตอนไหนอีกล่ะคะ คุณก็ไม่ค่อยมีวันหยุดเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรไปหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่ไปหาพ่อแม่พลอยวันนี้ แสดงว่าคุณไม่ได้พลอยจริง คุณไม่ได้อยากรับผิดชอบพลอยกับลูก ” พลอยไพลินพูดบอกไปอย่างไม่คิดอะไร เพราะพ่อแม่ของเธอนั้นไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร “โอเคๆ ผมจะไปพบพ่อแม่ของคุณ ผมจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ” วิทวัสพูดตอบไปอย่างยอมๆ เพราะเขาไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากไปพบพ่อแม่ของเธอ และเขาจะยอมรับในสิ่งที่เขาทำพลาดลงไป แต่เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มาทลายความสัมพันธ์ของเขากับเรวดีเด็ดขาด ยังไงเขาก็ต้องหาทางออกกับเรื่องพวกนี้ให้ได้ สามชั่วโมงผ่านไป ศิลาที่ขับรถตามเรวดีมาจนถึงกรุงเทพก็เห็นรถตู้คันที่เธอนั่งนั้นขับเข้าไปจอดที่หน้าร้านขายต้นไม้แล้วเขาก็เห็นเรวดีถือกระเป๋าลงจากรถไป แล้วเข้าไปในร้านขายต้นไม้นั้นเขาก็มองอย่างมั่นใจว่านี่คงจะเป็นบ้านของเธอ เขาจึงเลี้ยวรถกลับทันที เพราะเขาก็ถือว่าเขานั้นส่งเธอถึงกรุงเทพแล้ว ส่วนเรวดีก็เดินลากกระเป๋าเข้าผ่านร้านต้นไม้ของพี่สาวเข้าไปที่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลังร้านเท่าไหร่ด้วยสีหน้าเซ็งๆ “อ่าวยัยเรย์ ทำไมแกนั่งรถตู้กลับมาล่ะ แล้วนายวิทแฟนแกไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่มาส่ง” รสิกาพี่สาวของเรวดีเอ่ยถามออกไปขณะที่เธอนั้นกำลังจัดวางต้นไม้อยู่อย่างสงสัย เมื่อเห็นน้องสาวของเธอกลับมาคนเดียว “พอดีเมื่อวานพี่วิทเขาติดงานผ่าตัดน่ะค่ะก็เลยกลับมาก่อน เรย์ก็เลยอยู่เที่ยวต่อคนเดียวเพราะเสียดายค่าที่พักที่จ่ายไปน่ะค่ะพี่รัน ” เรวดีพูดออกไปอย่าไม่ปิดบังพี่สาวของเธอ เพราะเวลาเธอมีเรื่องอะไรเธอก็มักจะปรึกษาและพูดคุยกับพี่สาวเสมอ “เฮ้อ….นายวิทนี่ยังไงนะลาหยุดแล้วก็ยังต้องกลับไปทำงานอีก กี่ครั้งแล้วนะที่เขาทิ้งแกให้อยู่คนเดียวน่ะ ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าแกจะแต่งงานกับคนไม่มีเวลาอย่างนี้ได้ยังไงกัน” รสิกาพูดออกไปแบบบ่นๆ เพราะเธอไม่เห็นว่าวิทวัสเอาแต่ทำงานจนละเลยน้องสาวของเธออยู่บ่อยครั้ง “ก็พี่วิทเขาเป็นหมอนิคะเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้วค่ะ อีกอย่างเรย์ก็รักที่พี่วิทเขาเป็นคนดีแบบนี้ แต่เรย์สิคะอาจไม่ใช่คนดีสำหรับเขาแล้วก็ได้” เรวดีพูดออกไปเมื่อคิดว่าเธออาจไม่ดีพอสำหรับเขา หลังจากที่เธอนั้นปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นนั้นเอาความบริสุทธิ์ของเธอไป ทั้งๆที่เธออุตส่าห์จะเก็บมันให้กับเขาในวันแต่งงาน แต่ตอนนี้มันไม่มีเหลือแล้ว คิดแบบนี้แล้วตาของเรวดีก็ร้อนผ่าวจนน้ำตาคลอเบ้า “ยัยเรย์ แกเป็นอะไรเนี่ย ทำไมต้องทำหน้าจะร้องไห้อย่างนั้นด้วย” รสิกาเห็นน้องสาวทำท่าจะร้องไห้อย่างนั้นก็รีบละมือจากต้นไม้พวกนั้นแล้วรีบเดินเข้ามาหาน้องสาวของตัวเองทันที “พี่รัน เรย์เสียตัวกับผู้ชายคนอื่นไปแล้ว เรย์นอกใจพี่วิททั้งๆที่เรย์กำลังจะแต่งงานกับเขา อือๆ….เรย์เลวมากเลยใช่ไหมคะพี่รัน” เรวดีพูดออกไปแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหวกับสิ่งเลวร้ายที่เธอทำกับแฟนหนุ่ม “ไม่เป็นไรๆ พี่รู้ว่าเรย์ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นหรอก เรย์หยุดร้องไห้แล้วค่อยๆเล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น มานั่งตรงนี้ดีกว่ามา” รวิกาได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไป เพราะเธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเธอมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ เธอจึงเข้าไปโอบกอดน้องสาวไว้ แล้วก็เอ่ยพูดไปพร้อมกับมือที่ลูบผมของน้องสาวไปอย่างปลอบใจ ก่อนจะจับมือน้องสาวมานั่งคุยกัน จากนั้นเรย์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟังอย่างไม่อาย เพราะสำหรับเธอรสิกานั้นเป็นทั้งพี่สาวและเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาของเธอมาตลอด และเธอก็จะรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้ระบายทุกอย่างออกไป ด้านรสิกาพอได้ฟังเรื่องราวต่างๆของน้องสาวแล้วเธอก็เข้าใจความรู้สึกของน้องสาวว่าเรวดีนั้นคงรู้สึกผิดกับวิทวัสมาก เพราะมันก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะทำจริงๆ “เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปนะเรย์ แล้วก็ไม่ต้องเอาไปบอกหรืออธิบายอะไรกับนายวิทอีก เพราะมันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรย์นายวิทน่ะสั่นคลอนได้ เรย์ก็ทำตัวเหมือนเดิมแบบที่ผ่านมานั่นแหละ แล้วลืมเรื่องนี้ไปซะ” รสิกาพูดบอกไปเพรานี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับน้องสาวของเธอ “ค่ะพี่รัน เรย์ก็ไม่กล้าพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ออกไปเหมือนกัน” เรวดีพูดบอกไปแล้วก็ทำหน้าเศร้าๆไป เพราะถ้าเธอไม่แฟนเธอจะไม่รู้สึกผิดขนาดนี้เลย “ดีแล้วล่ะ งั้นไปอาบน้ำพักผ่อนสักหน่อยไป เดี๋ยวเย็นๆพ่อกลับมาแล้วจะได้สดชื่นๆให้พ่อเห็น ไม่ใช่ทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้” รวิกาพูดบอกไปแล้วก็เอามือขยี้ผมของน้องสาวไปอย่างเอ็นดู “ค่ะพี่รัน” เรวดีพูดบอกไปก็ทำหน้ายิ้มอ่อนๆใส่พี่สาว ก่อนจะลุกขึ้นแล้วลากกระเป๋าไปที่บ้านอย่างโล่งใจที่เธอนั้นได้พูดระบายออกไป และหลังจากนี้เธอจะพยายามลืมเรื่องนี้ไปให้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม