เสียงโต้ตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจชื้นที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เขาตะโกนเรียกเธออีกครั้ง พยายามฟังว่าเธอต้องการจะสื่อสารอะไรและตอนนี้เธออยู่ตรงไหน
“ฉันอยู่ข้างล่างค่ะ ฉันตกลงมาข้างล่าง” หญิงสาวตะโกนบอกเขาเสียงดัง เธอจะตะโกนจนกว่าเขาจะรู้ว่าเธอกับเจ้าก้อนอยู่ที่ไหน
“ว่าไงนะ”
“ใกล้ต้นไม้ใหญ่ค่ะ ฉันอยู่ตรงนั้น” ชายหนุ่มเงยหน้ามองก็เห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่อยู่ไม่ไกลจึงรีบสาวเท้าไปบริเวณนั้นเผื่อว่าจะเป็นต้นเดียวกันกับที่หญิงสาวบอก
“คุณดา!" ชายหนุ่มตะโกนเรียกหญิงสาวเสียงดังเมื่อพบตัวเธอแล้ว
"คุณภพ ในที่สุดคุณก็หาฉันเจอแล้ว โล่งอกไปที นึกว่าจะต้องติดอยู่ในนี้ซะแล้ว"
"คุณบาดเจ็บตรงไหนไหม" ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของหญิงสาวเวลานี้ดูมอมแมม
คงจะเป็นเศษดินแน่ๆที่เกาะอยู่รอบๆตัวเธอ
"เจ็บเท้าค่ะแต่ยังทนไหว"
"อดทนหน่อยนะ" ชายหนุ่มเป่านกหวีดเรียกให้คนงานที่เหลือมาสมทบกันบริเวณนี้ จากนั้นก็หย่อนเชือกลงไปด้านล่างเพื่อให้เธอจับเอาไว้
“จับเชือกสิครับ”
“คุณภพช่วยเจ้าก้อนนี่ก่อนได้ไหมคะ”
“นั่นมันตัวอะไรน่ะ”
“กระต่ายค่ะ ฉันอยากช่วยมันก่อน”
“คุณนี่จริงๆ เลยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยหรือไง”
“ก็เพราะมีคุณมาช่วยแล้วไงคะ ฉันโล่งใจที่มีคุณอยู่ตรงนี้” หญิงสาวบอกออกไปอย่างที่ใจรู้สึก เพียงแค่เห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาเบาๆ จากนั้นก็บอกให้เธอผูกเชือกกับตัวของกระต่ายเอาไว้ เขาสามารถดึงเจ้าก้อนสีขาวขึ้นมาอย่างง่ายดายเพราะมันมีน้ำหนักเบาหวิว
“ทีนี้ก็ตาคุณแล้ว เชือกมีสองเส้นผูกให้แน่นๆล่ะ”
“รับทราบค่ะ” ชายหนุ่มและคนงานช่วยกันออกแรงดึง แต่ด้วยความที่หญิงสาวไม่ได้น้ำหนักเบาเหมือนกระต่ายจึงต้องออกแรงมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อช่วยหญิงสาวขึ้นมาได้สำเร็จชายหนุ่มก็หอบแฮกๆ
“อย่าบอกนะว่ากระต่ายตัวนี้ที่เป็นตัวการให้คุณเดินหลงเข้ามาลึกขนาดนี้”
“อะ เอ่อก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาเกาศีรษะแก้เขิน เป็นเพราะเจ้าตัวน้อยจริงๆนั่นแหละแต่จะไปโยนความผิดให้มันได้อย่างไรกันในเมื่อเธอดันทุรังจะเข้ามาส่งมันด้วยตนเอง
“ไม่เชิงก็แปลว่าใช่เลย คุณไม่รู้หรือไงว่าค่ำมืดในป่าแบบนี้มันอันตราย ทุกคนที่บ้านต้องวิ่งวุ่นตามหาคุณเพราะว่าเป็นห่วง” ชายหนุ่มระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเสียงดัง
“รู้ค่ะ คุณอย่าว่าฉันเลยนะคะฉันสำนึกผิดไม่ทันแล้ว และก็ขอบคุณที่คุณตามหาฉันจนเจอค่ะ ฉันขอเลี้ยงมันได้ไหมคะ” หญิงสาวหันไปมองเจ้ากระต่ายที่คนงานอุ้มอยู่นิดนึงก่อนจะหันมาส่งสายตาวิ้งๆให้กับคนตัวโต เขาจึงโบกมือเป็นสัญลักษณ์ให้คนงานพาเจ้าก้อนสีขาวกลับไปด้วย เวลานี้จึงเหลือแค่เธอกับเขาสองต่อสอง
“ให้ผมดูหน่อยว่าคุณจะเดินกลับเองไหวไหม” ชายหนุ่มย่อตัวลงไปเพื่อดูอาการบาดเจ็บของหญิงสาว
“อะ เอ่อไม่เป็นไรค่ะสงสัยจะแค่เคล็ดๆ”
“ผมมียาหม่อง นั่งที่ขอนไม้นั่นก่อน” ชายหนุ่มชี้ไปที่ขอนไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
“ค่ะ” ชายหนุ่มเปิดกระเป๋าใบใหญ่ของตนเองออก ในนั้นมีกระเป๋ายาขนาดย่อมสีดำอยู่ด้วย ชายหนุ่มหยิบยาออกมาทาให้หญิงสาวอย่างเบามือ เธอจ้องมองทุกการกระทำที่แสนอ่อนโยนของเขาแล้วมันก็ส่งผลให้ใจของเธอเต้นแรง
“ขอบคุณค่ะ”
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“ดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มที่แสนจะจริงใจ
“งั้นเราก็กลับบ้านกันเถอะ”
“ค่ะ”
“เกาะแขนผมสิ คุณเดินเองไม่ไหวหรอก” หญิงสาวคว้าแขนแกร่งเขาเอาไว้แล้วก้าวเดินออกจากป่าไปพร้อมๆกัน แค่ได้สัมผัสต้นแขนของเขาก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาแข็งแรงขนาดไหน กระเป๋าใบใหญ่นั่นเขาก็สะพานหลังเหมือนมันเบาหวิวเหมือนเจ้าก้อนสีขาวของเธอ
ยลรดีและทุกคนในบ้านยืนรอการกลับมาของหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเห็นคนงานกลับมาแล้วก็รีบเข้าไปถามไถ่เพราะยังมองไม่เห็นลูกชายของตนและหญิงสาว
“ตาภพกับหนูดาล่ะ”
“กำลังตามออกมาครับ นั่นไงครับมากันแล้ว” ชายหนุ่มประคองหญิงสาวเดินเข้ามาหายลรดีอย่างแนบชิด เขารู้ว่าเธอยังเดินเองไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นจึงอาสาเป็นหลักชั่วคราวให้ก่อน
“คุณป้า! อะ โอ้ย” หญิงสาวตะโกนเรียกมารดาของชายหนุ่มเสียงดัง จากนั้นก็โผเข้าหาทันอัตโนมัติแต่คงลืมไปว่าตนเองบาดเจ็บอยู่
“อย่าวิ่งสิ เกือบไปแล้วไหมล่ะ ลืมไปหรือไงว่าขาเจ็บอยู่” ชายหนุ่มดุออกไปเสียงดัง
“แหะๆ ก็ดาดีใจที่ได้กลับมาเจอคุณป้ากับทุกคนอีกครั้งนี้ค่ะ เลยดีใจมากไปหน่อย”
“อย่าดุน้องเลยลูก แค่น้องกลับมาบ้านเราอย่างปลอดภัยแม่ก็พอใจแล้ว พระคุ้มครองนะจ๊ะหนูดา ไปๆเข้าไปข้างในกันเถอะลูกข้างนอกมียุง ดูสิหน้าทั้งเนื้อตัวมอมแมมไปหมดแล้ว”
“ดาตกไปในโพรงดินน่ะค่ะ ตกไปพร้อมเจ้ากระต่ายสีขาวตัวนั้นเลยค่ะ”
“กระต่ายป่านี่จ๊ะ”
“ใช่ค่ะ ดาอยากเลี้ยงมันที่นี่ค่ะ คุณภพอนุญาตแล้ว”
“ตาภพนี่เนี่ยนะเป็นคนอนุญาต”
“ใช่ค่ะคุณป้า”
“ป้าไม่อยากจะเชื่อเลย”
“คุณภพเขาอนุญาตแล้วจริงๆ นะคะ” หญิงสาวยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น ในเมื่อเธอรอดชีวิตมาแล้ว เธอก็อยากจะมีเพื่อนตัวน้อยน่ารักๆ บ้าง
“จ้ะๆ ป้าเชื่อแล้ว พรุ่งนี้ไปให้หมอตรวจอย่างละเอียดดีกว่านะจ๊ะ”
“ค่ะ”